HAIR

เปิด 5 ผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมที่ใช้งานไม่เหมือนกัน

ทำความรู้จักกับเหล่าไอเท็มเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมและหนังศีรษะในแต่ละประเภทที่ตอบโจทย์ตามความต้องการได้ไม่เหมือนกัน

     รู้หรือไม่ว่าผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นให้เส้นผมมีหลายประเภทมากกว่าที่คิด อาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือแบบล้างออกกับแบบไม่ต้องล้างออก ซึ่งแบบล้างออกที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้วคือ ครีมนวดผมและแฮร์มาส์ก ส่วนแบบที่ไม่ต้องล้างออกคือประเภทออยล์, เซรั่ม และ Leave-in conditioner โดยแต่ละแบบให้ผลลัพธ์เหมือนกันคือเรื่องความชุ่มชื้น แต่มีการใช้งานไม่เหมือนกันและอาจตอบโจทย์กับเส้นผมแต่ละประเภทไม่เหมือนกันอีกด้วย ว่าแล้วตามไปทำความรู้จักกันว่าผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมมีอะไรบ้างและใช้งานอย่างไร

 

ครีมนวดผม

     ครีมนวดผมประกอบด้วย Fatty Alcohols, Humectants, และน้ำมันบำรุงผมต่างๆ จะช่วยเข้าไปเติมช่องว่างและช่วยปิดรอยแยกต่างๆ ที่บริเวณผิวหน้าของเส้นผมที่แห้งเสีย ทำให้เส้นผมนุ่มลื่นขึ้นทันทีที่ใช้ การใช้ครีมนวดผมเป็นการบำรุงชั้นนอกของเส้นผม ทำให้ผิวหน้าของเส้นผมอ่อนนุ่มและเงางาม แข็งแรงขึ้น และทนต่อสิ่งที่มาทำลายเส้นผมได้มากขึ้น นอกจากจะช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้น จัดแต่งทรงง่ายแล้ว ครีมนวดผมยังมีประจุบวกที่สามารถช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ที่เกิดกับเส้นผม ลดแรงเสียดทานและการเสียสมดุลของประจุบวกและลบที่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตหรือผมชี้ฟูนั่นเอง สามารถใช้ได้ทุกครั้งที่สระผม

 

Anti-Pollution Protective Shield Conditioner จาก Charcoalogy (ราคา 329 บาท)

 

แฮร์มาสก์

     แฮร์มาสก์หรือครีมหมักผมเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผมสูตรเข้มข้นพิเศษ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสารที่ช่วยบำรุงเส้นผมได้ล้ำลึกกว่าครีมนวดผมทั่วไป แถมยังมีส่วนประกอบของน้ำมันธรรมชาติมากกว่าน้ำ ทำให้เนื้อครีมมีความเข้มข้นสูง สามารถบำรุงเส้นผมได้ถึงแกนผม ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียชี้ฟูให้กลับมามีน้ำหนักและเงางามขึ้น ส่วนผสมที่ควรมองหาในครีมหมักผมคือ เคราติน เพราะจะช่วยซ่อมแซมและปกป้องไม่ให้ผมเสียมากขึ้นไปอีก เสริมเกราะป้องกันให้เส้นผมแข็งแรงยิ่งขึ้น ใครที่มีผมแห้งเสียมากๆ จากการใช้ความร้อนหรือทำสีผม สามารถใช้ได้ทุกครั้งที่สระผม แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาผมแห้งเสียมาก สามารถใช้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยเติมสารอาหารให้กับเส้นผมได้

 

Dlaesoo Intensive Nourishing Pack จาก Daeng Gi Meo Ri (ราคา 790 บาท)

 

ออยล์บำรุงผม

     ออยล์บำรุงผมเป็นไอเท็มที่ได้สารสกัดเน้นๆ จากน้ำมันธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาร์แกน, โจโจ้บา, อัลมอนด์, มะพร้าว หรือคามิเลียออยล์ ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะช่วยเติมสารอาหารจำเป็นให้เส้นผมเงางาม ชุ่มชื้น และดูมีน้ำหนักยิ่งขึ้น ออยล์บำรุงผมจะมีความเหนียวกว่าเซรั่มบำรุงผมเล็กน้อย จึงเหมาะสำหรับคนที่มีผมเส้นใหญ่ หนา หรือผมแห้งเสียมากๆ สามารถใช้ได้ทุกครั้งหลังจากสระผมเสร็จ โดยเทผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่พอเหมาะลงบนฝ่ามือ แล้วเกลี่ยชโลมไล่ตั้งแต่กลางผมไปจนถึงปลายผมใช้ในปริมาณ 1-2 ปั๊มก็เพียงพอ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เส้นผมเหนียวเหนอะหนะได้

 



WATCH



Argan Hair Oil จาก RAIP R3 (ราคา 275 บาท)

 

ครีมบำรุงผม

     ครีมบำรุงผมหรือ Leave-In มีคุณสมบัติคล้ายกับครีมนวดผม แต่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกจากภายใน เพราะมีสารอาหารผมที่เข้มข้นกว่าครีมนวดผม เพียงแค่เราไม่ต้องล้างออก จึงทำให้เส้นผมได้รับการบำรุงได้อย่างยาวนานมากกว่านั่นเอง โดยจะช่วยเคลือบป้องกันเส้นผมจากการถูกทำร้าย สามารถช่วยปกป้องเส้นผมจากการถูกรังสี UV และความร้อนจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม จึงฟื้นบำรุงเส้นผมให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง แนะนำให้ใช้หลังจากสระผมเสร็จ ตอนที่ผมหมาดๆ จะช่วยให้เนื้อครีมซึมซาบได้ดี โดยไม่ทำให้เส้นผมเหนียวเหนอะหนะ

 

Defy Damage Protective Shield Leave In จาก JOICO (ราคา 900 บาท)

 

โอเวอร์ไนท์แฮร์มาสก์

     โอเวอร์ไนท์มาสก์หรือสลีปปิ้งมาสก์ ไม่ได้มีแค่สำหรับริมฝีปากหรือผิวหน้าเท่านั้น ในวงการของเส้นผมและหนังศีรษะก็มีเหมือนกัน โดยคุณสมบัติหลักของโอเวอร์ไนท์แฮร์มาสก์คือจะช่วยฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะข้ามคืน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการบำรุงเป็นพิเศษ เพราะมีส่วนผสมที่สามารถเข้าฟื้นบำรุงเส้นผมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทั้งยังมาพร้อมกับกลิ่นหอมติดทนนานต่อเส้นผมอีกด้วย ใช้ชโลมเส้นผมจากปลายมาโคนผม ทิ้งไว้ข้ามคืน ตื่นเช้ามาค่อยล้างออก สามารถใช้ได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วแต่ความต้องการของการบำรุงเส้นผมของเรา

 

Night Recovery Cream จาก Christophe Robin (ราคา 1,650 บาท)

ภาพ : @maxgourgues, Courtesy of brands

WATCH