Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

การไล่ล่าสถิติโลก! เจาะประเด็นการแข่งขันแห่งวงการนาฬิกาที่ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น

ตอนนี้วงการนาฬิกากำลังดุเดือดด้วยการไล่ล่สถิติโลกในแขนงต่างๆ จากแต่ละแบรนด์ และเชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้จะผลักดันขีดจำกัดของการรังสรรค์เรือนเวลาให้มากขึ้นอีกระดับ

โดย Nattanam Waiyahong
08 เมษายน 2568

     หลังจบงาน Watches & Wonders ประจำปี 2024 เรื่อยมาจนถึงปี 2025 ดูเหมือนว่ากระแสการแข่งขันของวงการนาฬิกาเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนากลไกสลับซับซ้อน ศิลปะบนตัวเรือน ศักยภาพการสวมใส่จริง หรือแม้แต่การคิดค้นหาโมเดลใหม่เพื่อตอบโจทย์แฟนพันธุ์แท้นาฬิกาให้ร่วมเส้นทางสะสมกันต่อไป แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องบอกว่าแบรนด์นาฬิกาชั้นนำก็มีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาสุดยอดนาฬิกา นำมาสู่การขับเคี่ยวเพื่อสร้างสถิติโลกอันน่าทึ่ง และมันกลายเป็นการแข่งขันที่สร้างความมหัศจรรย์อย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้มีสถิติมากมายหลายอย่างที่เกิดขึ้นและชี้ให้เห็นถึงการดันขีดจำกัดในการสร้างสรรค์ของมนุษยชาติ

Article

     ในงาน Watches & Wonders 2025 ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ แบรนด์ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดแบรนด์หนึ่งคือ Vacheron Constantin ที่เผยเรือนเวลา Les Cabinotiers Solaria Ultra Grand Complication - La Première สุดยอดนาฬิกาข้อมือที่มีกลไกซับซ้อนที่สุดในโลก สถิตินี้กลายเป็นสถิติโลกที่น่าทึ่งและไม่น่าเชื่อว่านาฬิกาสักเรือนหนึ่งจะสามารถอัดแน่นด้วยกลไกที่ซับซ้อนมากขนาดนี้ โดยเรือนเวลาเฉลิมฉลองครบรอบ 270 ปีของแบรนด์นี้ ประกอบด้วยกลไกซับซ้อนมากถึง 41 กลไก เสริมด้วยกลไกเชิงดาราศาสตร์แบบพิเศษอีก 5 รูปแบบ หนึ่งในนั้นคือกลไก Westminster Minute Repeater โดยนาฬิกาเรือนนี้มีการจดสิทธิบัตรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการรังสรรค์เชิงลึกกว่า 13 ฉบับ ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 8 ปี และมีชิ้นส่วนทั้งหมดรวมกว่า 1,521 ชิ้น หัวใจหลักคือกลไก Caliber 3655 ที่เมซงพัฒนาขึ้นเองสำหรับนาฬิกาสุดพิเศษเรือนนี้โดยเฉพาะ ฟังก์ชั่นการใช้งานออกเป็นหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น กลไกการบอกเวลา 2 ไทม์โซนแบบละเอียดหลักนาที กลไกปฏิทินเกรกอเรียนที่บ่งบอกทุกองค์ประกอบในปีปฏิทินอย่างแม่นยำ กลไกดวงจันทร์ กลไกสำหรับเรื่องดวงดาวที่เจาะลึกไปถึงเวลาดวงอาทิตย์ขึ้นและตก ตำแหน่งดวงอาทิตย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ขาดไม่ได้คือกลไกส่งเสียงบอกเวลา กลไกโครโนกราฟแบบ Split-Seconds และฟังก์ชั่นการสำรองพลังงานชั้นยอด นับเป็นสุดยอดเรือนเวลาประจำงานนี้ที่สะท้อนคำว่ามหัศจรรย์ออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังตอกย้ำความยอดเยี่ยมของเมซงอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีก่อน (2024) สามารถทุบสถิตินาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อนที่สุดในโลกกับ Les Cabinotiers - The Berkley Grand Complication ที่อัดแน่นด้วยกลไกมากถึง 63 รูปแบบเลยทีเดียว

Article

     ต่อเนื่องด้วยนาฬิกาตูร์บิญงที่บางที่สุดในโลก สถิตินี้เรียกว่าเป็นการแข่งขันด้านนวัตกรรมที่เข้มข้นที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะการคิดค้นวิธีการสอดแทรกกลไกอันซับซ้อนในเรือนเวลาบางเฉียบคือความท้าทายที่ผลักดันขีดจำกัดของมนุษย์และเทคโนโลยีโดยแท้จริง ซึ่งก่อนหน้านี้เรือนเวลารุ่น Altiplano Ultimate Concept Tourbillon จาก Piaget ครองสถิตินาฬิกากลไกตูร์บิญงที่มีความบางเพียง 2 มิลลิเมตร นับว่าเป็นสุดยอดสถิติที่หลายคนมองว่าน่าจะไม่สามารถมีใครทำลายได้ในเร็ววัน และถือเป็นนาฬิกาตัวชูโรงเนื่อในโอกาสครบรอบ 150 ปีของแบรนด์ ทว่าในอีก 1 ปีให้หลัง Bvlgari สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งกับ Octo Finissimo Ultra Tourbillon กับตัวเลขความบางเพียง 1.85 มิลลิเมตร ถือเป็นการทุบสถิติที่น่าตกใจ และถือเป็นการทวงคืนบัลลังก์ราชาความบางของเรือนเวลาอีกครั้ง หลังจากเคยทำสถิติเกี่ยกับนาฬิกาตูร์บิญงไปเมื่อปี  2014 และ 2018 ด้วยตัวเลข 5 มิลลิเมตร และ 3.95 มิลลิเมตร ตามลำดับ นอกจากนี้แบรนด์ยังถือครองสถิตินาฬิกาข้อมือที่บางที่สุดในโลกกับ Octo Finissimo Ultra COSC ด้วยความบางเพียง 1.7 มิลลิเมตรเท่านั้น

Article

     ถัดมายังอยู่กับนวัตกรรมที่จับต้องได้อย่างเป็นประจักษ์กับสถิติความเบา ปี 2025 Ulysse Nardin เปิดฉากความยิ่งใหญ่กับ Diver [AIR] สุดยอดเรือนเวลาดำน้ำแห่งยุคที่มาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับความเบาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้สวมใส่ โดยเรือนเวลาขนาดหน้าปัด 44 มิลลิเมตรที่ทุบสถิติเป็นนาฬิกาดำน้ำประเภท Mechanical Watch ที่เบาที่สุดในโลก มีน้ำหนักตัวเรือนอยู่ที่ 46 กรัม (รวมสายอยู่ที่ 52 กรัม) โดยความน่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือนาฬิกาเรือนนี้ทำจากวัสดุไทเทเนียมที่เป็นผ่านการีไซเคิลถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และสามารถใส่ดำน้ำลึกมากถึง 200 เมตร และใช้วัสดุรีไซเคิลเพื่อสรรสร้างเบเซลสะท้อนแสง มาพร้อมกลไก UN-374 ที่พัฒนาภายในเมซง และหน้าปัดแบบ Skeleton เผยให้เห็นรายละเอียดที่ชวนนึกถึงนาฬิกา Diver X ในรูปแบบเดียวกัน แต่ที่เป็นไฮไลต์และนำมาสู่การตั้งชื่อรุ่นว่า Diver [AIR] คือการที่ภายในตัวเรือนมีกลไกลเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ อีก 80 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นอากาศ ถึงกระนั้นก็ยังรองรับแรงกระแทกได้ถึง 5,000 กรัม และสำรองพลังงานได้มากถึง 90 ชั่วโมง นับว่าเป็นสุดยอดนวัตกรรมที่พุ่งทะลุขีดจำกัดของวงการนาฬิกาในปีนี้อย่างแท้จริง

Article

     นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาที่ได้ชื่อว่าเป็นนาฬิกาข้อมือที่แม่นยำที่สุดในโลกกับ Grand Seiko SLGB001 และ SLGB003 หรือที่เรียกกันตามชื่อกลไกว่า “Grand Seiko Springdive U.F.A.” นาฬิกาหน้าปัดแสนเรียบง่ายที่ดูเผินๆ อาจเหมือนนาฬิกาหน้าปัดกลมเรียบง่ายคลาสสิก แต่ภายในซ่อนกลไก Springdrive ที่เป็นไฮไลต์ของแบรนด์ สามารถสร้างอัตราความแม่นยำของเรือนเวลาให้อยู่ที่ระดับ ±20 วินาทีต่อปีเท่านั้น นับเป็นสุดยอดกลไกภายในเรือนเวลาที่สร้างความฮือฮาต่อวงการนาฬิกาโลก มาพร้อมตัวเลือกทั้งตัวเรือนแพลทินัมและสเตนเลสสตีล โดยตัวเรือนแพลทินัมผลิตจำกัดเพียง 80 เรือนเท่านั้น สนนราคาราว 39,000 เหรียญสหรัฐฯ และตัวเรือนสเตนเลสสตีล 10,900 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งทุกเสียงเห็นตรงกันว่านาฬิกาเรือนนี้ถือเป็นสุดยอดเรือนเวลาเรือนหนึ่งแห่งปี และนำเสนอความคุ้มค่าที่เปี่ยมด้วยคุณภาพโดยแท้จริง

ภาพ : Courtesy of Brands