พูดคุยกับ Gemma Chan แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier ผ่านตัวละคร Edna กับความงดงามของการเปลี่ยนตัวตน

Syndicated from Vogue.sg

ช่างภาพ: Peter Ash Lee

สไตลิสต์: Konca Aykan

นางแบบ: Gemma Chan

แต่งหน้า: Akari Sugino

ผู้ช่วยแต่งหน้า: Jun

ทำผม: Neil Moodie

ทำเล็บ: Michelle Class

ออกแบบฉาก: Nat Turnbull

ดิจิเทค: Julius Bohlin

ผู้ช่วยสไตลิสต์: Juli Molnar และ Isabela Orozco

ผู้ช่วยช่างภาพ: Kurt Lavatida และ Elena Santolaya

บริษัทโปรดักชั่นท้องถิ่น: Myself Production

ผู้อำนวยการฝ่ายโปรดักชั่นท้องถิ่น: Julien Pegourier

โปรดิวเซอร์ท้องถิ่น: Remy Nino Auriel, Dara Domingues และ Mathieu Fresquet

โปรดิวเซอร์หลัก: David Bay

ครั้งล่าสุดที่ Gemma Chan ได้เดินทางมายังประเทศสิงคโปร์คือเมื่อหกปีก่อนในงาน Captain Marvel Festival ซึ่งเธอได้รับบท ‘Minn-Erva’ ชาว Kree ผู้มีพลังหนึ่งในสมาชิกของหน่วย Starforce โดยงานจัดขึ้นที่ Marina Bay Sands เต็มไปด้วยแฟนๆ ที่มารอต้อนรับเธอรวมถึง Samuel L. Jackson และ Brie Larson ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าน้ั้นไม่นาน Gemma เพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians เสร็จในปี 2017 ที่เธอได้รับบทเป็น ‘Astrid Leong’ สาวสังคมผู้สง่างามที่ครองใจคนทั่วโลก เนื่องจากเป็นตัวละครที่น่ารัก มีไลฟ์สไตล์ที่ทะเยอทะยาน และรสนิยมการแต่งกายที่ไร้ที่ติ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวละคร Astrid เป็นหนึ่งในผลงานการแสดงที่เป็นจุดพลิกผันอาชีพของเธอได้มากที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้

ผ่านไปแล้วสี่ปีนับตั้งแต่ Gemma ได้ขึ้นปกโว้กประเทศสิงคโปร์ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ขณะที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้ เธอคงกำลังนั่งอยู่ในเลานจ์สนามบินชางงีเพื่อเตรียมตัวไปประเทศฮ่องกง หลังจากที่เพิ่งเข้าร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นเครื่องประดับไฮจิวเวลรี Nature Sauvage ของ Cartier ที่จัดขึ้น ณ National Gallery Singapore โดยเธอยังคงเปี่ยมไปด้วยพลังแต่แฝงไปด้วยความสงบ น้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ ขณะที่กำลังผ่อนคลายจากค่ำคืนแสนวุ่นวาย เราได้ถามเธอว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา และ Gemma ได้ตอบว่า “มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปจริงๆ ค่ะ เรื่องการทำงาน ตอนนี้ฉันเริ่มเป็นโปรดิวเซอร์ควบคู่กับการเป็นนักแสดง และมีหลายโปรเจกต์ที่กำลังพัฒนาหลังจากช่วงโรคระบาด ฉันเริ่มให้คุณค่ากับ ‘เวลา’ มากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัวและคนที่รัก ฉันโชคดีมากที่ตอนนี้หลานชายและพี่สาวของฉันที่เคยอยู่สวิตเซอร์แลนด์ ได้ย้ายกลับมาอยู่สหราชอาณาจักรใกล้กับที่ที่ฉันอยู่ มันเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ ค่ะ“

จากบทบาทที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็นตัวละคร ‘Astrid’ จากภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asians ตัวละคร Minn-Erva จากภาพยนตร์ Captain Marvel ตัวละคร Sersi จากภาพยนตร์เรื่อง Eternals และตัวละคร Mia จากเรื่อง Humans ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ Gemma จะเริ่มมองหาวิธีการเล่าเรื่องในรูปแบบอื่นบ้าง “จริงๆ แล้วฉันอยากทำตั้งแต่แรกแล้วค่ะ” เธอกล่าวถึงการเริ่มเป็นโปรดิวเซอร์ “ฉันมีไอเดียเกี่ยวกับหนังสือที่อยากจะหยิบมาสร้างและมีเรื่องราวที่อยากจะเล่า ฉันชอบที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสรรค์ตั้งแต่ต้น การรวบรวมทีมสร้างสรรค์ทั้งหมดเข้าด้วยกันมันเป็นงานที่หนักมาก แต่ฉันก็สนุกกับมันจริงๆ ” เราถามเธอต่อว่ามีเนื้อหาแบบไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม “เยอะมากค่ะ แต่มีธีมทั่วไปคือเกี่ยวกับคนที่ไม่ได้รับสิ่งที่ควรจะได้รับในช่วงชีวิตของพวกเขา” เธอตอบ

บทบาทล่าสุดของเธออย่างตัวละคร Edna ดีไซเนอร์ในภาพยนตร์โรแมนติกนัวร์ The Actor ของ Duke Johnson ที่สะท้อนแนวคิดนี้ได้อย่างชัดเจน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย André Holland ดัดแปลงมาจากนิยายระทึกขวัญเรื่อง Memory จากปลายปากกาของ Donald E. Westlake ที่เล่าเรื่องในอเมริกาช่วงยุค 1950s เมื่อ Paul Cole สูญเสียความทรงจำหลังจากถูกทำร้ายจากการมีความสัมพันธ์อื้อฉาวร่วมกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ตัวหนังจะเจาะลึกถึงประเด็นเชื้อชาติ ตัวตน การเมือง และตีแผ่ความจริงเทียบกับมุมมองต่างๆ โดย Duke Johnson ได้แรงบันดาลใจมาจากแอนิเมชั่นสต็อปโมชั่นที่เขากำกับร่วมกับ Charlie Kaufman และต้องการนำสไตล์นั้นมาปรับใช้ในรูปแบบคนแสดง ด้วยวิสัยทัศน์นี้เองที่ทำให้ Gemma รู้สึกสนใจทันทีที่ได้อ่านบท

“มันเหมือนเป็นการเปลี่ยนผ่านของประสบการณ์ค่ะ” Gemma อธิบายถึงการเชื่อมโยงระหว่างสองรูปแบบภาพยนตร์ “ฉากต่างๆ ถูกเพนต์ให้มีมุมลวงตาและดูเหนือจริง” การสร้างตัวตนก็กลายเป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะในยุคที่เราสามารถสร้างตัวตนใหม่บนโลกโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย เราซื้อของเพื่อสร้างเรื่องเล่า สวมเสื้อผ้าเพื่อสร้างภาพลักษณ์ และใช้คำพูดเพื่อชักจูงความคิด ในปี 2025 การเปลี่ยนตัวตนเป็น ‘คนใหม่’ ไม่ใช่แนวคิดที่ไกลเกินจริง แม้อาจจะมีความหมายเชิงลบแต่เธอกลับมองว่านี่เป็นโอกาสในการเกิดใหม่

“ฉันหวังว่าเมื่อได้ดูภาพยนตร์แล้วคนดูจะได้ร่วมเดินทางไปกับตัวละครและมีอารมณ์ร่วม เช่นเดียวกับตัวละคร André ฉันหวังว่ามันจะไม่สายเกินไปที่จะเป็นคนใหม่” เธอกล่าวอย่างครุ่นคิด “เมื่อฉันย้อนกลับไปดูชีวิตของตัวเอง ฉันพบว่าในหนึ่งชีวิตคนเรามันเหมือนมีหลายชีวิตในนั้น มีตัวฉันหลายเวอร์ชั่นในช่วงเวลาต่างๆ เพียงเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปและฉันก็ยังเด็กกว่าตอนนี้มาก มันคงเป็นความจริงสำหรับแนวคิดที่ว่าคนเราสามารถเปลี่ยนตัวตนเป็นคนใหม่เรื่อยๆ และยังต้องเปลี่ยนต่อไปอีกนาน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตน่าสนใจ”

แนวคิดเรื่องการเปลี่ยนตัวตนปรากฏชัดในตัวละคร Edna ที่เธอได้แสดง ซึ่ง Paul เริ่มตกหลุมรักหลังจากย้ายมาอยู่ในเมืองเล็กๆ ในขณะที่เขากำลังพยายามค้นหาว่าตัวเองคือใครและชิ้นส่วนต่อจิ๊กซอว์จากอดีต เขาต้องเผชิญกับปัจจุบันและความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มต้น

ฉากสำคัญของ Edna คือตอนที่เธอปรากฏตัวในชุดตัวตลกสุดคลาสสิกที่เธอตัดเย็บเอง ทีมคอสตูมดีไซน์ที่นำโดย Suzie Harman เผยว่าได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1950s และนักแสดงในตำนานอย่าง Marlon Brando จากภาพยนตร์เรื่อง On the Waterfront “ชุดที่ Edna ใส่ตอนแรก Suzie อยากให้ดูเหมือนชุดที่เธอทำขึ้นเอง เธอมีภาพชุดจากวันฮาโลวีนเยอะมาก เราสนุกกับการเลือกภาพที่ตัวละครอาจจะใช้ตกแต่งชุดของตัวเอง มันทั้งสนุกและทำให้เราสามารถเข้าถึงตัวละครมากขึ้นค่ะ” Gemma เล่า

เห็นได้ชัดว่าความหลงใหลในแฟชั่นของเธอไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาพยนตร์เท่านั้น แต่เธอยังสนับสนุนดีไซเนอร์ขาวเอเชีย อาทิ Miss Sohee และ Huishan Zhand บนพรมแดงระดับโลก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะกลายมาเป็นหนึ่งในแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Cartier ร่วมกับ Jisoo และ Deepika Padukone

“ความสัมพันธ์ของฉันกับ Cartier เริ่มต้นแบบธรรมชาติมาก ฉันได้รับมอบนาฬิกา Cartier เก่าที่หยุดทำงานแล้วมาจากในครอบครัว ฉันจึงนำไปซ่อมที่ Cartier ทำให้มีโอกาสได้เยี่ยมชมเวิร์กช็อปดั้งเดิมของแบรนด์ มันน่าทึ่งมากเพราะสถานที่นั้นตั้งอยู่ที่เดิมและยังเปิดให้เข้าชมอยู่”

การถ่ายทำแฟชั่นเซ็ตครั้งนี้สำหรับโว้กประเทศสิงคโปร์ เธอสวมเครื่องประดับจากคอลเล็กชั่น En Équilibre ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นที่ Cartier นิยามว่า ‘สร้างสมดุลอย่างพิถีพิถัน’ อันเป็นหัวใจหลักของเมซง “ฉันชอบสร้อยคอ TSAGAAN มากค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากเสือดาวหิมะ และเมื่อมองจากมุมต่างๆ ใบหน้าของเสือดาวจะปรากฏและหายไป น่าทึ่งและงดงามมากจริงๆ ”

ด้วยความเป็นเลิศชั้นสูงนี้คือสิ่งที่ Gemma ได้ยึดถือในหัวใจขณะที่เธอก้าวสู่บทบาทใหม่ในชีวิต ในฐานะทูตของ UNICEF มาตั้งแต่ปี 2021 เธอได่เผยว่าแคมเปญ Futures at Risk กำลังร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อสร้างอนาคตที่ดีและสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นสำหรับเด็กๆ โดยเธอยังมีอีกหลายโครงการ หนึ่งในนั้นคือการเป็นผู้อำนวยการสร้างซีรี่ส์จาก Amazon Prime Video เรื่อง Rise of the Empress ที่ดัดแปลงมาจากนิยายแฟนตาซีของ Julie C Dao ที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงผู้ใฝ่ฝันถึงความยิ่งใหญ่ ซึ่งขณะนี้ห้องเขียนบทกำลังดำเนินการอยู่และจะเริ่มถ่ายทำภายในปีนี้ และสำหรับคำถามที่ถูกถามมากที่สุดอย่าง ‘Crazy Rich Asians จะมีภาคต่อหรือไม่?’ เธอกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ “จะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ”

ในขณะที่เธอยังคงมุ่งมั่นไขว่คว้าเป้าหมายสูงสุด เราได้หยุดคิดร่วมกันถึงแก่นแท้ของคำว่า ‘ทองคำ’ อันเป็นธีมหลักของโว้กประเทศสิงคโปร์ฉบับเดือนมิถุนายน และ Gemma ได้สรุปอย่างงดงามและจริงใจว่า “ยอดเยี่ยม เป็นแรงบันดาลใจ และเปี่ยมด้วยความเมตตาที่ยั่งยืน”