ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1912 ในขณะที่ ‘ไททานิก’ เรือสำราญลำใหญ่กำลังล่องในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ภายในนั้นมีบุคคลสำคัญผู้มั่งคั่งจากทวีปยุโรปเต็มไปด้วยความหวังของการเริ่มต้นบนดินแดนแห่งใหม่ แต่ตกดึกในคืนนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เรือสำราญได้ไปปาดกับภูเขานำแข็งก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมเรือล่มจมลงในมหาสมุทรภายในไม่กี่ชั่วโมง มีผู้รอดชีวิตเพียง 706 คนจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 2240 คน

1 / 3

2 / 3

3 / 3

เมื่อปี 1987 ได้มีการค้นพบกระเป๋าใบหนึ่งภายในซาก ‘เรือไททานิก’ ซึ่งในกระเป๋านั้นมีเครื่องประดับและอัญมณีอยู่ถึง 15 ชิ้น ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักโบราณคดีและผู้รอดชีวิต รวมถึงเหล่าญาติของผู้เสียชีวิตอย่างมาก เนื่องจากเป็นการค้นพบครั้งสำคัญจากการสูญเสียครั้งใหญ่ในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอัญมณีเหล่านี้ได้ถูกสอบหาประวัติและได้นำมาจัดแสดงขึ้น 3 รัฐในประเทศสหรัฐฯ ได้แก่ Las Vegas, Atlanta และ Georgia เมื่อปี 2013 และนี่คือผลงานที่รอดชีวิตจากเรือสำราญ

1 / 11

2 / 11

3 / 11

4 / 11

5 / 11

6 / 11

7 / 11

8 / 11

9 / 11

10 / 11

11 / 11

ถ้าพูดถึงผลงานอัญมณีจาก ‘ไททานิก’ หลายคนต้องนึกถึง ‘The Heart of the Ocean’ สร้อยคอเพชรประดับด้วยจี้แซฟไฟร์สีน้ำเงินรูปหัวใจเม็ดโต จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Titanic’ ฉายเมื่อปี 1997 ที่ตัวละครเอกอย่าง Rose DeWitt Bukater ได้กลับคืนสู่มหาสมุทรไป แต่ความจริงมันเป็นแค่ไอเท็มที่ไม่มีจริงทางประวัติศาสตร์ซึ่งอ้างอิงมาจาก The Hope Diamond กับอดีตตำแหน่งเพชรสีฟ้าเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก

1 / 2

2 / 2

เหตุการณ์จากโศกนาฏกรรมครั้งนี้คือการสูญเสียครั้งสำคัญเนื่องจากบุคคลสำคัญของโลก รวมถึงผลงานมีค่าหลายๆ ชิ้นที่สูญหายไป แต่มันก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานทางศิลปะเช่นภาพยนตร์ เพลง หนังสือ และอัญมณีชิ้นอื่นๆ แม้จะผ่านไปแล้วกว่า 110 ปี เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและอุทิศให้กับผู้ล่วงลับไปไม่ให้สูญเปล่า