WATCHES & JEWELLERY

เพราะอะไรถึงแพง...รวบเหตุผลที่ทำให้นาฬิกา Richard Mille มีราคาสูงลิบลิ่ว

รู้จัก Richard Mille แบรนด์นาฬิกาสุดฮอตที่พ่วงราคาเรือนละเป็นล้านกันให้มากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่โลดแล่นอยู่ในแวดวงนาฬิกาหรือไม่ อย่างไรก็ตามชื่อของแบรนด์ Richard Mille ก็ต้องผ่านหูบ้างสักครั้ง ด้วยริชาร์ด มิลล์ คือแบรนด์ที่เข้ามาจับจองพื้นที่ในตลาดอย่างรวดเร็วและขยับขยายอย่างเป็นวงกว้าง และเมื่อได้รู้ถึงตัวเลขจำนวนมหาศาลที่ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนนาฬิกาแบรนด์นี้สักหนึ่งเรือนแล้วก็ยิ่งทำให้อยากรู้จักยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแม้ว่าริชาร์ด มิลล์ จะสนนราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 8,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนกว่าบาท หากราคาโดยทั่วไปแล้วเรียกว่าเป็นล้าน ไปจนถึงหลายสิบล้านเลยก็ว่าได้

Richard Mille / The Watch Lounge

ริชาร์ด มิลล์ คือผู้ให้กำเนิดแบรนด์ดังสายเลือดสวิสแบรนด์นี้เมื่อปี 1999 โดยมีผลผลิตออกมารุ่นแรกในปี 2001 หากก่อนที่จะเปิดแบรนด์เป็นของตัวเองได้ เขาผู้คร่ำหวอดในวงการนาฬิกาก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมายจากการเข้าทำงานในบริษัท Finhor ปี 1974 ด้วยวัย 23 ปี รวมถึงแบรนด์ผลิตเครื่องประดับอย่าง Mauboussin อีกหลายปี กระทั่งหนทางของตัวเองมาถึงเขาจึงกระโจนเข้าสู่ตลาดนาฬิกาอย่างจริงจังมากขึ้น พร้อมเปิดตัวแบรนด์ของตัวเองภายใต้การสนับสนุนจากแบรนด์ Audemars Piguet และแล้ว RM001 นาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ก็ถือกำเนิดขึ้น ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างทรงถังเบียร์สี่เหลี่ยมและอวบตรงช่วงกลางตัวเรือนทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงได้ในไม่ช้า จากนั้นไม่นานริชาร์ด มิลล์ ก็ก้าวสู่แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลก

นักร้องชื่อดัง Pharrell William กับแบรนด์ RM / The Watch Expo 

ครั้งหนึ่งริชาร์ดเคยพูดไว้ว่า “ผมอยากให้คนที่เห็นนาฬิกาของผมแล้วแบบ ว้าว เมื่อไหร่ที่ยิ่งมองพวกเขาจะยิ่งดำดิ่งลงไปในนั้น แล้วยิ่งผมอยากให้พวกเขาว้าวมากเท่าไหร่ ผมยิ่งต้องลับมีดให้คมยิ่งขึ้นเพื่อสร้างลูกเล่นและความประหลาดใจ” นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาเสาะหาความพิเศษของชิ้นส่วนมากมายเพื่อมาใช้ในการรังสรรค์นาฬิกาของเขา ยิ่งความชื่นชอบในพวกเครื่องยนต์กลไกนั้นมีมาแต่เด็กเขาจึงเอนเอียงและตั้งเป้าไว้ว่าจะใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเท่านั้น นาฬิกาของริชาร์ด มิลล์ จึงมีดีไซน์สปอร์ตที่สะท้อนภาพความเชื่อมั่นของผู้สวมใส่ แข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยว น้ำหนักเบาคล่องตัว แต่ดูมีประสบการณ์

คร่ำหวอดอยู่ในวงการนาฬิกามานานก็จริง หากเขานับว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจในอุตสาหกรรมนาฬิกามากกว่าการเป็นผู้สร้างหรือออกแบบนาฬิกา ส่วนนี้คือปัจจัยหลักที่ทำให้เขาวางแผนการตลาดที่ฉีกกรอบและนำโด่งจากผู้ผลิตนาฬิการายอื่น ความพิถีพิถันที่ควรมีอยู่ในระบบการสร้างนาฬิกาของทุกแบรนด์ ในริชาร์ด มิลล์ นั้นมีอยู่แล้ว หากความพิเศษที่ทำให้แบรนด์ไม่เหมือนใครไม่ใช่แค่ดีไซน์แต่รวมไปถึงปณิธานความเชื่อ วัสดุที่ใช้ และการตลาดอันแยบยล



WATCH




Daniel Ricciardo กับรุ่น RM 67-02 /

ปณิธานที่ว่าจะผลิตนาฬิกาตามสมรรถนะของรถฟอร์มูล่าวัน

อย่างที่กล่าวไปว่าริชาร์ด มิลล์ มีความชื่นชอบในเรื่องเครื่องยลและเทคโนโลยีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะสมรรถนะความแข็งแกร่งและความแม่นยำของรถแข่งฟอร์มูล่าวัน ผนวกกับความต้องการจะเป็นที่สุดในการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างไม่มีจำกัด เขาจึงมุ่งมั่นเสาะหา พัฒนา และใช้เทคนิคมากมายเพื่อให้นาฬิกาที่ผลิตออกมานั้นมีความแม่นยำและแข็งแรงทนทานในระดับสูงที่สุด Daniel Ricciardo นักแข่งรถฟอร์มูล่าวันเจ้าของฉายา Honey Badger ถึงได้ชอบแบรนด์นี้นักหนาถึงขนาดมีครอบครองอยู่หลายเรือนด้วยกัน แต่ที่ชอบมากเป็นพิเศษต้องยกให้รุ่น RM 67-02 

Rafael Nadal กับรุ่น RM 27-02 / The Watch

ราคาสูงลิ่วเพราะวัสดุมีความพิเศษ

วัสดุที่ใช้ในการผลิตชิ้นงานของแบรนด์มีเพียง 3 อย่าง ไวท์โกลด์ โรสโกลด์ และไทเทเนียม ในขณะที่ตัวเรือนของนาฬิการูปทรงถังเบียร์โค้งนั้นประกอบด้วย 3 ชั้นส่วนหน้า ส่วนหลัง และตรงกลาง วัสดุอื่นๆ ที่จะเข้ามาประกอบกันนั้นจึงต้องมีความโค้งเอียงไปตามองศาของตัวเรือนด้วย สำคัญมากไปกว่านั้นคือชิ้นส่วนที่เป็นวัสดุไฮเทคล้ำหน้า แบรนด์มักจะหยิบมาจากการผลิตรถยนต์ที่ใช้สำหรับแข่งฟอร์มูล่าวัน รวมไปถึงชิ้นส่วนที่ใช้ผลิตเรือยอร์ชและเครื่องบิน เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้จึงมีความทนทานในระดับที่สูงมาก จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็น Rafael Nadal เหวี่ยงแร๊กเก็ตสุดแรงเกิดยามติดข้อมือขวาด้วยรุ่น RM 27-02 ที่แสดงถึงความคล่องตัวและสมรรถนะในการรองรับแรงกระแทก

 

เพื่อที่สุดของนาฬิกาจึงใช้เวลานานกว่าปกติ 

ด้วยวัสดุที่หยิบมาใช้นั้นมีความเฉพาะตัว และไม่ได้เป็นชิ้นส่วนสำหรับทำนาฬิกา ดังนั้นเขายังต้องทุ่มทุนทั้งงบประมาณและเวลาส่วนหนึ่งในการค้นคว้าหาเทคโนโลยีและวิธีที่จะประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ ความประณีตและรายละเอียดมากมายใช้เวลาในการคราฟต์ชิ้นงาน 1 เรือน ร่วม 40 วัน ในขณะที่ต่อผิด เริ่มต้นใหม่หมดเลย และด้วยวัสดุที่เลือกใช้เฉพาะชิ้นที่พิเศษเท่านั้น บวกกับเวลาในการผลิต ทำให้ใน 1 ปีแบรนด์ผลิตออกมาแล้วนับได้ประมาณ 3,000 เรือนเท่านั้น

Jackie Chan กับความสัมพันธ์ของเขาและ RM / Watchnista

ตีตลาดตรงจุดแบบไร้คู่แข่ง

แบรนด์เดินหน้าตีตลาดอย่างตรงจุด เพราะรู้ว่าการค้าขายจะสำเร็จได้ส่วนมากมาจากการทำโฆษณาที่ดี โดยมีแม่เหล็กขั้วรุนแรงอย่างเหล่าเซเลบฯ ที่เขาเลือกมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่หลายรุ่นเองก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเขา หรือทำขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ ไปจนถึงการยื่นตัวเสนอเป็นสปอนเซอร์ให้กับโลกแห่งการกีฬา ทั้งงานอีเวนต์ Le Mans Classic กับการแข่งรถ Grand Prix de Pau หรือแม้แต่เป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมมอเตอร์สปอร์ตอย่าง Lotus และ McLaren อยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งเขามองภาพการตลาดว่าผู้สวมใส่แบรนด์ของเขาต้องเป็นชายหรือหญิงที่ดูภูมิฐานและมีทรัพย์หนาพอจะลงทุนซื้อนาฬิกาเรือนละเป็นล้านเก็บสะสมได้ โดยแบรนด์มีแฟนตัวยงตั้งแต่เหล่านักกีฬาชื่อดังจากหลากหลายสาขา ไปจนถึงนักแสดงอย่าง Jackie Chan, Jay-Z, Michelle Yeoh

ในขณะที่นาฬิกาแบรนด์อื่นแย่งฐานลูกค้ากระเป๋าหนักผู้ชื่นชอบดีไซน์กันจ้าละหวั่น ริชาร์ด มิลล์ ลอยตัวแบบไร้ซึ่งคู่แข่ง เพราะฐานลูกค้าของแบรนด์เป็นประเภทเฉพาะตัวมากกว่า ทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบที่ทำให้แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสนี้มีราคาแพงหูดับ แต่ถ้ามันใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยบ่งบอกถึงฐานะทางสังคม และชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างเรืองรองแล้วล่ะก็ คงเข้าใจได้ว่าทำไมราฟาเอล นาดาล ถึงต้องมีมันจำนวนไม่น้อยพร้อมพ่วงด้วยตำแหน่งสูงสุดอย่างการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์

ข้อมูล : Lifestyle Asia

WATCH