WATCHES & JEWELLERY

Vogue Bijoux | ชมไฟน์จิวเวลรีสไตล์มินิมัลจาก Jil Sander ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมเรื่องราว!

แบรนด์แฟชั่นมินิมัลรุ่นบุกเบิก Jil Sander เปิดตัวคอลเล็กชั่นไฟน์จิวเวลรีคอลเล็กชั่นแรกของแบรนด์ที่สุดแสนจะเรียบง่ายและทรงพลัง สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่มีต่อตลาดสินค้าหรูหราที่ซับซ้อนมากขึ้น

เรื่อง: ตะวัน ก้อนแก้ว
เรียบเรียง: อมันดา อัมพรมหา
กราฟิก: สุกฤตา ว่องวัฒนพิบูลย์

 

     แรงบันดาลใจจากธรรมชาติสู่คอลเล็กชั่นเครื่องประดับดีไซน์คอนเซปชวล พร้อมความสงสัยถึงที่มาที่ไปคนละทิศละทางกับดีไซน์ คือความคิดแรกที่เกิดขึ้นมาในหัวเมื่อได้ชมภาพเครื่องประดับดีไซน์ใหม่คอลเล็กชั่นนี้...พฤกษศาสตร์ สายน้ำ และ จักรวาลนั้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับแหวนและกำไลรูปทรงโค้งค่อนไปทางกลม ดูไม่สมมาตร ดีเทลการฝังเพชรโดยรอบที่ตั้งใจให้ดูเหมือนไม่ตั้งใจ รวมไปถึงผิวสัมผัสแวววาวบนพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนของจิวเวลรี

     การนำเสนอแนวคิดอันซับซ้อนเริ่มจากการร้อยเรียงความสัมพันธ์ของพืชพรรณ แหล่งน้ำ และจักรวาลนอกโลกที่ต้องอาศัย "แสง" เป็นองค์ประกอบหลักของการดำรงอยู่ งานออกแบบจริงไม่ได้เน้นจำลองรูปร่างของสิ่งเหล่านั้นให้ออกมาเหมือนของที่มีอยู่ แต่เป็นการใช้อารมณ์มาจับในเชิงจินตนาการและความรู้สึกมากกว่ารูปทรงที่เน้นความออร์แกนิกของเส้นโค้งนับร้อยที่ลากผ่านจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งอย่างไร้แบบแผนประกอบกันออกมาเป็นเครื่องประดับชิ้นงาม ทรงคุณค่าทั้งในแง่มุมของการดีไซน์ งานฝีมือ และเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังแนวคิด

 

 

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Vogue Thailand (@voguethailand)

     แบรนด์เลือกใช้กระบวนการ Lost Wax Casting เทคนิคเก่าแก่ที่ใช้สร้างสรรค์ประติมากรรมและเครื่องประดับในอดีต โดยนำมาพัฒนาควบคู่ไปกับองค์ความรู้เกี่ยวกับ 3D Printing ให้ผลลัพธ์เป็นตัวเรือนเครื่องประดับทองคำ 18K ที่ไร้แบบพิมพ์ ไร้แม่พิมพ์ ปราศจากของเสียจากระบวนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมจากนั้นช่างทองจะขัดเงาตัวเรือนด้วยมือ เพื่อให้พื้นผิวเกิดความไม่สมบูรณ์แบบเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันบางจุดก็จะเปล่่งประกายเงางามสร้างมิติให้ชิ้นงาน เพชรสังเคราะห์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงรูปทรงกลมถูกฝังลงไปอย่างเรียบร้อย แต่ไม่ได้จัดเรียงให้ตรงแนวกัน ความไม่สมบูรณ์แบบที่ผ่านการคำนวณมาแล้วนี้สะท้อนปรัชญาของ Jil Sander ที่ต้องการนำเสนอความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล

     ในคอลเล็กชั่นประกอบด้วยซีรีส์ "Branch" ที่ตีความรูปทรงกิ่งไม้ในธรรมชาติออกมาเป็นสร้อยโช้กเกอร์ แหวน กำไล และตุ้มหู ตัวโช้กเกอร์ประกอบขึ้นจากทองคำ 5 ชิ้นเชื่อมต่อกัน ภายในของเครื่องประดับทุกชิ้นออกแบบให้เป็นโพรงเพื่อให้มีนำหนักเบา สวมใส่สบาย ซีรีส์ "Astral" เลียนแบบความเชื่อมโยงอันไร้ข้อจำกัดของจักรวาล สายโซ่งูแบนช่วยขับความโดดเด่นของจี้ทองคำสีเหลืองสุกปลั่งคล้ายภาพเส้นทางการโคจรของดาวเทียมและดวงอาทิตย์ พร้อมเทคนิคพิเศษในการรีดโลหะด้วยเครื่องกดขนาด 300 ตัน ให้พื้นผิวระยิบระยับที่เกิดจากการหักเหของแสงกับพื้นผิวที่ต่างกันเพียงระดับมิลลิเมตร และซีรีส์ "Drop" กับแนวคิด "รูปทรงออร์แกนิกอันบริสุทธิ์" ชิ้นงานกลมกลึงไม่มีสะดุดเมื่อสัมผัสพร้อมแสงสะท้อนแบบวาบสว่างนี้ คือกระบวนการสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ความชำนาญขั้นสูงของช่างฝีมือกับเทคนิคการขัดแต่งและขัดเงาแบบช่างทองอิตาลีแท้ๆ

     ผลงานที่พัฒนาอย่างพีถีพิถัน บวกกับงานฝีมืออันประณีต และดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครของ Jil Sander เป็นการเปิดประตูบานใหม่ต้อนรับลูกค้าผู้ชื่นชอบความเรียบง่ายและการใช้งานซึ่งขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และเป็นอีกหนึ่งสไตล์ของการเลือกสวมเครื่องประดับไฟน์จิวเวลรีในรูปแบบงานศิลปะที่มีความพิเศษเฉพาะตัวของผู้สวมใส่

 

(สามารถอ่านเรื่อง Vogue Bijoux | แมตช์จิวเวลรีกับงานจิตรกรรมไทยใน The White Lotus 3 ได้ที่นี่)




WATCH

TAGS : Jil Sander
 
Close menu