Vogue Thailand

RUNWAY

Carven โดย Mark Thomas จิตวิญญาณแห่งความสนุกเป็นเพียงมายาคติที่ไม่ได้เกิดขึ้นบนรันเวย์

ความเรียบหรูและเนี้ยบประณีตอาจเป็นหัวใจสำคัญ แต่การโชว์ฝีไม้ลายมือในซีซั่นที่แข่งกันเดบิวต์อย่างดุเดือด Mark Thomas อาจเป็นผู้เล่นรั้งท้ายในสนามนี้

โดย Nattanam Waiyahong
03 ตุลาคม 2568

     “Joyful Spirit” รากฐานความสนุกจาก Marie-Louise Carven ถูกกล่าวถึงจากบทสัมภาษณ์ของ Mark Thomas ในช่วงปารีสแฟชั่นวีกก่อนโชว์ Carven คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 ซึ่งถือเป็นการส่งไม้ต่อของ Louise Trotter ที่ทะยานขึ้นรับตำแหน่ง ณ Bottega Veneta และความพิเศษของโชว์นี้คือผู้สานต่อความสำเร็จเป็นบุคคลสำคัญในทีมออกแบบจากหัวเรือคนเก่าที่จะขึ้นมารับตำแหน่งในลำดับขั้นที่สูงกว่า แม้จะไม่ใช่แฟชั่นเฮาส์ระดับเพชรยอดมงกุฎ แต่ความคาดหวังที่แบกไว้ก็มีเต็มบ่าอยู่เหมือนกัน ดังนั้นคาร์วองโดยมาร์ค โธมัสก็ถูกจับจ้องไม่แพ้ใครในช่วงซีซั่นแห่งการเปลี่ยนผ่านเช่นนี้

     คำว่า ‘จิตวิญญาณแห่งความสนุกสนาน’ จึงถือเป็นรากฐานที่หลายคนฝังลึกในความคาดหวังว่าโชว์จะนำเสนอเสื้อผ้าที่สื่อสารเรื่องนี้ออกมาอย่างถึงที่สุด “เรามีความสุขกับจุดที่เราอยู่ คอลเล็กชั่นถูกวางจำหน่ายเป็นเวลาราว 1 ปีครึ่ง ซึ่งเราไม่ควรพังทลายผลงานที่เริ่มสร้างขึ้นมา เราเพียงต้องต่อยอดความสำเร็จขึ้นไป” มาร์คกล่าวถึงแนวทางการสานต่อจากหลุยส์ที่ทำให้คาร์วองประสบความสำเร็จและอยู่ในเรดาร์ของสาวกแฟชั่นทั่วโลก ดังนั้นการผสมผสานระหว่างกลิ่นอายความสนุกของผู้ก่อตั้งแบรนด์เข้ากับสไตล์มินิมัลสง่างามแบบฉบับของดีไซเนอร์คนก่อนหน้าคือส่วนผสมที่เชื่อว่าจะเป็นภาพรวมของคอลเล็กชั่น

     พอโชว์เริ่มขึ้นหลายสิ่งที่คาดหวังดูจะเป็นความคาดหวังที่สูงเกินไป เสื้อผ้าเซ็ตแรกออกมาในโทนคลีนสะอาด ประกอบด้วยสีขาว สีครีม และสี écrus โดยที่มาร์คระบุว่าเป็นดั่ง ‘palate cleanser’ ไว้ล้างปากก่อนลิ้มรสชาติแฟชั่นโฉมใหม่ แรงบันดาลใจจากดอกกล้วยไม้ที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือตามชื่อแบรนด์ นำมาสู่ซิลูเอตของเสื้อผ้าที่มีรูปทรงข้องเกี่ยวกับดอกไม้ ทั้งลักษณะการเคลื่อนไหวตามลม ไปจนถึงกลีบดอกไม้แสนงดงงาม แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่หลายคนตามหา และหวังว่าในลุคต่อๆ ไปคาร์วองโฉมใหม่จะมีอะไรที่สมกับจิตวิญญาณความสนุกอย่างแท้จริง

     จากรูปทรงแสนธรรมดาก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความจืดชืด ทั้งโชว์ที่มีเพียง 34 ลุคไม่ได้หลุดพ้นช่วงเวลาแห่งการล้างพาเลตเลยแม้แต่น้อย ถ้าเปรียบกับคอร์สอาหารไฟน์ไดนิ่งคงติดค้างอยู่ในช่วงเกริ่นน่ำและก็จบแบบสั้นห้วน มันเร็วด่วนจี๋ในแบบที่อาหารจานหลักยังไม่ทันวางเสิร์ฟเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่หลงเหลือและน่าประทับใจคืองานฝีมือและเทคนิคการตัดเย็บที่เนี้ยบกริบทุกกระเบียดนิ้วเช่นเคย นอกจากนี้ยังรังสรรค์เสื้อผ้าแทบทุกชิ้นจากวัสดุ ‘Made in France’ เพื่อสดุดีแด่ผู้ก่อตั้งแบรนด์อันเป็นรากฐานของโชว์แห่งการรีเซ็ตความทรงจำครั้งนี้

     ตลอดจำนวนลุคราว 3 โหลแทบไม่มีอะไรน่าจดจำมากนัก ชุดเดรส และรายละเอียดคัตเอาต์โดดเด่นขึ้นมาบางจังหวะ แต่ก็เป็นเพียงความคาดหวังที่สูญสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อลุคใหม่ทยอยพาความธรรมดาเข้ามาแทนที่ นิตแวร์ เสื้อโค้ต และงานเทเลอริ่งที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์สมัยดีไซเนอร์คนเก่า แปรสภาพเป็นไอเท็มธรรมดาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ หากจะกล่าวว่าไม่ดีก็ไม่ใช่แบบนั้น แต่เหมือนกับว่าเป็นเสื้อผ้าเบสิกคุณภาพสูง เป็น ‘Quiet Luxury’ เป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกับแนวทางการสื่อสารถึงจิตวิญญาณความสนุกตามความคาดหวังเท่าไหร่นัก

     ด้านแอ็กเซสเซอรี่ที่หลายครั้งสามารถพยุงความจืดชืด ทำหน้าที่เหมือนเครื่องปรุงที่ทำให้รสชาติแฟชั่นกลมกล่อมหรือจัดจ้านขึ้น ทว่าสำหรับคาร์วองซีซั่นนี้เครื่องปรุงรสอ่อนเสียเหลือเกิน ทั้งกระเป๋าหนังหูจับด้านบน คลัตช์ กระเป๋าหนังพับ หรือแม้แต่รองเท้าแตะคีบที่ดูเหมือนว่าจะพาทุกสิ่งอย่างขมวดสู่ปมแห่งความธรรมดาที่ชวนผิดหวังอยู่ไม่น้อย ถ้าบอกว่าการรีเซ็ตช่วงแรกเป็นการเคลียร์สมองให้เสพสมแฟชั่นของมาร์ค โธมัสได้อย่างชัดเจน แต่จำนวนลุคกว่า 1 ใน 3 นั้นอาจจะมากเกินไป โครงสร้างที่น่าสนใจเป็นเพียงรายละเอียดที่เหลียวตาแต่ไม่สะกดใจ นับจากเซ็ตแรกผ่านไปจนถึงลุคสุดท้าย หากไม่ใช่โทนสีเบสิกทั่วไป มีเพียงลุคสีชมพูกับเชิ้ตแขนยาวจับเดรปที่เหมือนหลุดเข้ามาในคอลเล็กชั่นแบบชวนฉงน และเชื่อว่าใครก็ตามที่ชมโชว์นี้จะลืมเลือนไปในเวลาไม่นาน

     สุดท้ายจิตวิญญาณแห่งความสนุกของมารี-หลุยส์ คาร์วองอาจเป็นเพียงมายาคติของคาร์วองยุคปัจจุบัน คำกล่าวที่ว่า “คอลเล็กชั่นนี้จะเพิ่มความเย้ายวนขึ้นจากที่เคยรังสรรค์มาจนถึงปัจจุบัน จะมีการเผยผิวมากกว่าเดิม แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่เปี่ยมด้วยรสนิยม” ชวนให้ติดตามเป็นอย่างมาก แต่คำถามสำคัญหลังชมคอลเล็กชั่นนี้คือ “เราได้เห็นสิ่งเหล่านี้ตามความคาดหวังแล้วหรือไม่” และต่อด้วยคำถามที่ว่า “เราคาดหวังเกินไปหรือเปล่า” แน่นอนว่าเราอาจต้องให้ความเป็นธรรมกับมาร์คสักหน่อย เพราะคอลเล็กชั่นเปิดตัวตรงกับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ซึ่งอาจไม่ใช่ไม้เด็ดของคาร์วองกับสไตล์แฟชั่นและไอเท็มที่เราคุ้นตา วิถีแฟชั่นที่ยึดถือแนวทางแบบ ‘Summer Parisian’ กล่าวเกี่ยวกับความอบอุ่นและจินตนาการถึงแฟชั่นของหญิงสาวชาวปารีสนั้นอาจพุ่งเป้าไปที่การวางขายมากกว่าโชว์ฝีไม้ลายมือ โอกาสซีซั่นหน้าอาจเป็นคำตอบว่าเขาจะดึงมาตรฐานกลับสู่เกณฑ์ความเยี่ยมยอดได้มากน้อยเพียงใด แต่สุดท้ายโชว์จบลงไปสักระยะผู้เขียนก็ยังมองหาว่า “จิตวิญญาณแห่งความสนุกนั้นอยู่แห่งหนใด”

ภาพ : Daniele Oberrauch / Gorunway.com (Vogue Runway)