‘Burberry Spring/Summer 2025: Blur Lines’
ปิดท้าย London Fashion Week ครั้งนี้ ด้วยโชว์ Burberry Summer 2025 โดย Daniel Lee ที่จัดขึ้น ณ National Theatre ที่ความมุ่งหมายแรกเริ่มของโชว์คือการหยอกล้อกับอดีตของกรุงลอนดอนด้วยความหรูหราแบบไฮแฟชั่นผสมกับความดิบเท่แบบโมเดิร์นนิสต์ที่ปกคลุมไปทั่วในงานศิลปะจากศิลปินดัง โดยครั้งนี้ Lee ร่วมงานกับศิลปินชาวอังกฤษ Gary Hume เพื่อเปลี่ยนรันเวย์ให้กลายเป็นการรำลึกถึงเขต Docklands ที่เคยถูกลืม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนิทรรศการ BAYS ของ Hume ที่จัดแสดงในปี 1990 ที่ The EAST Country Yard ที่ถ้าหากว่าคุณเคยมีภาพฝันเห็นเหล่าโมเดลเดินโชว์ท่ามกลางบรรยากาศของท่าเรือที่ถูกทิ้งร้างในรูปแบบที่หรูหรากว่าเดิม นี่แหละคือโชว์ในฝันของคุณ เพราะมันผสมเอาทั้งจิตวิญญาณแห่งความเป็นอุตสาหกรรม ความดิบ และเป็น Burberry ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน (หรือบางทีคุณอาจจะไม่อยากเห็นเลยก็ได้!?!) ซึ่งการจัดแสดงโชว์ในครั้งนี้กลายเป็นงานศิลป์ให้สมกับสถานที่ในตัวของมันเอง ด้วยงานติดตั้งและจัดวางขนาดยักษ์ที่ปกคลุมและสะท้อนถึงโครงกระดูกของอู่เรือเก่า พร้อมด้วยเก้าอี้นั่งเรียงรายสีสวย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างความหยาบกร้านแต่เล่นสนุกกับสีสีนในงานของ Hume และเนื้อผ้าสุดหรูของ Lee ซึ่งตั้งใจจะนำเสนอความแตกต่างแต่นำมาบรรจบกันระหว่างความเป็นมาทางประวัติศาสตร์กับความทันสมัย แต่เอาเข้าจริง มันเป็นไปได้อย่างที่เขาตั้งใจหรือไม่ หรือจริงๆ แล้ว มันก็แค่การเล่นสนุกกับแรงบันดาลใจที่นำมาเปรียบเปรยเล่นบนเสื้อโค้ตสีทึมที่แทรกซ่อนสีนีออนที่สะดุดตาไว้อย่างเจือจาง?
มาว่าในส่วนของเสื้อผ้ากันบ้าง Lee ได้ยกเครื่องเสื้อเทรนช์โค้ต Burberry แบบดั้งเดิม โดยเล่นวอลูมให้ดูพองขึ้นทั้งบริเวณช่วงไหล่และคอที่ประดับประดาด้วยดีเทลซ้อนทับกลับตะเข็บ ประดับช่องกระเป๋า เพื่อความสนุกอย่างผ้าพันคอลายทางสีนีออน และเฟอร์ขนนก (for Spring?! Ground-breaking.) ผสมผสานกับเสื้อผ้าซิลูเอตต์ที่ดูหลวมโคร่งอย่างกางเกงทรงแบ็กกี้ เพิ่มด้วยสีสันสะดุดตาจากงานของ Hume ที่ตั้งใจหยอดเข้ามานัยว่าให้เข้ากับเซตติ้งที่ดูเผินๆ นึกว่าหยิบมาจากพาเลตต์ของ Paris Olympics ที่เพิ่งผ่านพ้นไปด้วยเช่นกัน อย่าง สีม่วงไลแล็ก เขียวมินท์ เหลืองพาสเทลและส้ม แน่นอนว่า ลายตารางของ Burberry ยังคงมีอยู่ แต่ถูกตีความใหม่ในรูปแบบที่ดูรู้ว่าตั้งใจทำให้อ่อนเยาว์ขึ้น เพื่อดึงดูดสาวกเจนใหม่ของแบรนด์ที่คงกำลังเพ่งมองแล้วว่าเหล่าแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนดังของแบรนด์ที่นำทีมโดย ไบร์ท วชิรวิชญ์ น่าจะเหมาะกับลุคไหน
แม้ว่าการร่วมมือกับ Hume จะเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโชว์ การรวมเอาศิลปะดิบ ๆ เข้ามาทำให้โชว์นี้ดูมีเรื่องราวที่จับต้องได้มากกว่าแค่แฟชั่นที่ผ่านไปตามกระแส แต่ปัญหาก็คือเสื้อผ้ากับบรรยากาศมันเหมือนพูดกันไปคนละภาษา การที่ Lee พยายามรวมความเป็น Docklands อันหยาบกร้านเข้ากับแฟชั่นแนว semi avant-garde ที่เป็นแนวถนัดของเขามาตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพ บางทีมันอาจจะไม่ได้เชื่อมต่อกันได้ดีเท่าที่ควร และให้ความรู้สึกเหมือนกับการสนทนาสองเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกัน (แต่คุณก็ไม่แน่ใจว่าจะฟังอันไหนดี) และในแง่ของการสวมใส่ในชีวิตจริง ครั้งนี้เสื้อผ้าหลาย ๆ ลุค ดูรู้ว่าตั้งใจที่จะแมตช์มาเพื่อการขายที่เข้าใจง่ายและมีความเป็น Burberry ในยุคทองของแบรนด์ (circa Bailey) อย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้คงเป็นเพราะการเข้ามาของ CEO คนใหม่ Joshua Schulman ที่น่าจะเข้ามาช่วยเบรกและบาลานซ์ภาพรวมของคอลเล็กชั่นให้ดูมีความกลมกล่อมและลงตัวเข้ากันกว่าที่ผ่านมา อย่างน้อยก็ที่โทนสีโดยรวม แคสติ้ง และสไตลิ่งของโชว์ที่แสดงภาคขายที่มากขึ้นอย่างชัดเจน
โดยสรุปแล้ว Burberry Spring 2025 ของ Daniel Lee คือความพยายามที่น่าชื่นชมในความทะเยอทะยานที่แม้จะไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่ก็ทิ้งความประทับใจไว้ พร้อม ๆ ด้วยข้อถกเถียงที่ชวนให้วิเคราะห์ การจัดแสดงที่สร้างเรื่องราวร่วมกับ Gary Hume เป็นเหมือนการเพิ่มมิติให้โชว์นี้มีความหมายลึกซึ้งขึ้น และสะท้อนถึงลอนดอนอย่างแท้จริง การทดลองกับแฟชั่นที่แหวกแนวเป็นอะไรที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่าความทดลองบางอย่างอาจจะไม่เวิร์กทั้งหมด แต่ Lee ก็ได้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่กลัวที่จะเสี่ยง และถึงคุณจะชอบมันมากน้อยแตกต่างกันแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อย คุณก็จะพูดถึงมันอย่างแน่นอน

1 / 51

2 / 51

3 / 51

4 / 51

5 / 51

6 / 51

7 / 51

8 / 51

9 / 51

10 / 51

11 / 51

12 / 51

13 / 51

14 / 51

15 / 51

16 / 51

17 / 51

18 / 51

19 / 51

20 / 51

21 / 51

22 / 51

23 / 51

24 / 51

25 / 51

26 / 51

27 / 51

28 / 51

29 / 51

30 / 51

31 / 51

32 / 51

33 / 51

34 / 51

35 / 51

36 / 51

37 / 51

38 / 51

39 / 51

40 / 51

41 / 51

42 / 51

43 / 51

44 / 51

45 / 51

46 / 51

47 / 51

48 / 51

49 / 51

50 / 51

51 / 51
ภาพ: Isidore Montag / Gorunway.com (Vogue Runway)