นับได้ว่าเป็นช่วงเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่นิตยสารโว้กประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้นมา ทั้งยังเป็นการเดินทางที่ยาวนานถึง 10 ปี บนถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน ประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ในแบบฉบับของความเป็นไทยซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านแฟชั่นเซ็ตต่างๆ บนปกนิตยสารเล่มแรกหรือเล่มล่าสุด ซึ่งยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกและตัวตนของโว้กประเทศไทยอย่างเด่นชัด โดยในโอกาสครบรอบ 10 ปีนี้ โว้กประเทศไทยจึงได้จัดอีเวนต์เฟสติวัลใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างยิ่งใหญ่ อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน ความบันเทิง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ตลอดจนบรรดาอาหารคาวหวานที่ขนขบวนกันมานำเสนอความพิเศษเพื่อร่วมฉลองให้กับอีเวนต์ครั้งสำคัญนี้ บรรยากาศเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร เราคงต้องย้อนกลับไปชมภาพความทรงจำจากโมเมนต์ต่างๆ อันน่าประทับใจไปพร้อมกันในบทความนี้

แบ็กดรอปบริเวณหน้าทางเข้างาน

     เรื่องราวของอีเวนต์ครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น ณ ลาน Central World Square ในวันที่ 10 และ 11 มีนาคม 2566 ช่วงเวลาที่กำลังก้าวเข้าสู่ฤดูร้อน ทว่ากลิ่นอายของความสนุกสนานและสีสันแห่งงานเฟสติวัลกลับทวีความฮอตของซัมเมอร์นี้ให้สูงมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประดับตกแต่งภายในงานที่สะท้อนตัวตนของโว้กประเทศไทย หรือจะเป็นบรรดาร้านค้าอาหารต่างๆ และบูธจากพาร์ตเนอร์ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนสำคัญในงานนี้ซึ่งมีความโดดเด่นตั้งเเต่โซนแบ็กดรอปบริเวณทางเข้าที่ประดับด้วยตะกร้าพลาสติกสีเขียวและดำสลับกันไป พร้อมกับป้ายงาน “Vogue 10th Anniversary Fest!” ที่ตั้งไว้อย่างเด่นหราตรงกลางรอให้ใครหลายคนแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูป

     หลังจากเดินผ่านบูธแรกมาแล้วฝั่งซ้ายมือเราจะพบกับจุดถ่ายรูปอีกหนึ่งจุดที่ตั้งตระหง่านไว้อย่างเด่นชัดจาก vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนที่นำเอาไอเท็มชิ้นล่าสุดอย่าง V27 5G มาให้ผู้คนในงานได้สัมผัสถึงขุมพลังอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก พร้อมกันนั้นวีโว่ยังได้ตั้งอินสตอลเลชั่นให้แฟนๆ ได้มาสานฝันการเป็นนางแบบบนปกนิตยสารโว้กประเทศไทยภายใต้แคมเปญ “Be a Vogue Cover Model” โดยงานนี้ทางเเบรนด์ยังได้เชิญบรรดาอินฟลูเอนเซอร์และ KOL มากหน้าหลายตามาสร้างสีสันไม่ว่าจะเป็น "นับเงิน-ฉัตร์นลิน กุลวราวัชรสิริ" และ "เรียวจิ-จิรสิน เรืองวัฒนกุล" สองคู่รักยูทูบเบอร์ที่กำลังมาแรง และ "วิว-ศันสนีย์ ฉันทวสันต์" อินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่นที่ได้หยิบจับเอาวีโว่ V27 มาถ่ายภาพแชร์โมเมนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้เราได้เห็น พร้อมกันนั้นวีโว่ยังร่วมกับ “เคนนี่-ธาเกียรติ ศรีวุฒิชาญ” ช่างภาพมากฝีมือผู้คอยรังสรรค์ผลงานแฟชั่นเซ็ตต่างๆ ให้กับโว้กประเทศไทย โดยในงานนี้เคนนี่ได้หยิบเอาสมาร์ตโฟนรุ่นดังกล่าวมาเก็บภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของงานเฟสติวัลนี้ ซึ่งโว้กรวบรวมมาไว้ให้ชมพร้อมกันแล้วด้านล่างนี้

     ใกล้กันกับพื้นที่ของวีโว่เราจะพบกับอีกสองโซนจาก Central World และ Tiffany&Co เริ่มกันที่บูธจากเซ็นทรัลเวิลด์ที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ "centralwOrld citizens" การถ่ายทอดตัวตนในแบบฉบับของแต่ละคน ผ่านเหล่าตัวอักษร a-z อันสะท้อนถึงแนวคิด ไลฟ์สไตล์ ความชอบ การแสดงออก และรสนิยมที่แตกต่างกันไป โดยในงานครั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งโชว์สุดพิเศษจากเซ็นทรัลเวิลด์กับการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นพาเหรดโชว์ในค่ำคืนวันที่ 10 มีนาคม 2566 ซึ่งพาเหรดแฟชั่นโชว์ดังกล่าวถูกนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fashion For All” คอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์กับความหลากหลายอันเปิดกว้างมากขึ้นในปัจจุบัน โดยแต่ละลุคจากโชว์ครั้งนี้รังสรรค์โดยสไตล์ไดเร็กเตอร์แห่งโว้กประเทศไทยอย่าง “จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล” ที่นำเอาแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่จัดจำหน่าย ณ เซ็นทรัลเวิลด์มาครีเอตเป็นคอมพลีตลุคที่แปลกตาเเละน่าสนใจ

     ขยับกันมาอีกนิดเราจะพบกับโซนจากอีกหนึ่งแบรนด์จิวเวลรีอย่าง Tiffany&Co ที่รังสรรค์บรรยากาศภายใจบูธให้เต็มไปด้วยโทนสีฟ้าทิฟฟานี่อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ สร้างรอยยิ้มผ่านรถป๊อปคอร์นดีไซน์เฉพาะตัวและป๊อปคอร์นรสเค็มกำลังดี เสิร์ฟอุ่นร้อพร้อมเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบให้กับผู้คนในงานได้ลิ้มลองกันถ้วนหน้า ไม่เพียงเท่านั้นในงานนี้ทิฟฟานี่ แอนด์ โค ยังได้สร้างสรรค์พื้นที่ภายในบูธให้กลายเป็นอีกหนึ่งสตูดิโอถ่ายรูปขนาดย่อม มาในฉากหลังสีน้ำเงินเข้มที่แลดูทันสมัยและน่าค้นหา และหากถ่ายภาพ ณ บูธของทิฟฟานี่ แอนด์ โค สามารถเลือกปรินต์รูปภาพเป็นแบบโพราลอยด์พร้อม Photo Sleeve สุดเอ็กซ์คลูซีฟกลับบ้าน หรือจะเลือกรับเป็นไฟล์ดิจิทัลเพื่อนำมาแบ่งปันลงบนพื้นที่โซเชียลมีเดียวของตัวเองเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานครั้งสำคัญนี้ได้อีกด้วย

     โซนถ่ายรูปภายในงาน “Vogue 10th Anniversary Fest!” ยังไม่จบเท่านี้ เมื่อเดินเข้าไปยังโซนลึกสุดของงานยังพบกับอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปจาก Vespa ที่ได้นำเอาพรีเมียมสกู๊ตเตอร์ 2 รุ่นที่ต้องถูกใจสายชอบความคลาสสิค มาจัดแสดงท่ามกลางอินสตอลเลชั่นที่สดใสแต่ยังความสนุกสนานและยูนีกในแบบฉบับของเวสป้าได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยรถทั้งสองรุ่นที่แบรนด์ได้นำมาจัดแสดงเพื่อให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปนั้นคือรุ่น Vespa Primavera S 150 i-Get ABS Touring สี ขาว White Innocenza พรีเมียมสกุ๊ตเตอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบความคลาสสิค พร้อมเป็นเพื่อนออกทริปด้วยชุดแต่งแบบ Touring แต่ยังเปี่ยมไปด้วยลวดลายที่สะดุดตา และ Vespa GTS Super 150 i-Get ABS สีเขียว Green Releax พรีเมียมสกู๊ตเตอร์จากเวสป้าที่นำเอาดีไซน์คลาสสิกของแบรนด์มารังสรรค์ในยานยนต์และเปี่ยมล้นไปด้วยสมรรถนะอันโดดเด่นหาตัวจับได้ยาก

     ไม่เพียงงานนี้จะเต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปที่ถูกรังสรรค์ไว้เท่านั้น ทว่าเมื่อกล่าวถึงงานเฟสติวัลเราคงนึกถึงบรรดาอาหารหลากหลายเมนูตลอดจนเครื่องดื่มที่ช่วยดับกระหายในช่วงฤดูร้อนนี้ ซึ่งภายในงาน “Vogue 10th Anniversary Fest!” ยังคงถ่ายทอดเสน่ห์แห่งงานเฟสติวัลเหล่านี้ให้เราได้สัมผัสกันแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นบูธขายน้ำดื่มจาก ไทยน้ำทิพย์ ที่นำเอาเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำเปล่า น้ำอัดลมหลากหลายรสชาติ ตลอดจนเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างโค้ก หรือ Coca Cola ซึ่งความพิเศษของงานนี้ที่ไทยน้ำทิพย์ได้ร่วมสร้างสีสันคงต้องยกให้ Cup Sleeve ที่ออกแบบมาในดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้กับ 10 ปีนิตยสารโว้กประเทศไทย

    ภายในงานยังพบกับอีกหนึ่งเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมจาก Penfolds แบรนด์ไวน์สัญชาติออสเตรเลียที่นำเสนอเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติให้กับแขกคนสำคัญของงานไม่ว่าจะเป็น Penfolds Max’s Rose เครื่องดื่มสีชมพูอ่อนใหม่ล่าดสุด โดดเด่นด้วยรสชาติกำลังดีที่ผสมผสานความหอมของกลิ่นไวน์และดอกกุหลาบไว้ได้อย่างสมดุล, Penfolds Max’ Shiraz อีกหนึ่งไวน์จากตะกูล Max’s นำเสนอผ่านไวน์สีแดงเข้มแบบฟลูบอดี้ในสไตล์ออสเตรเลียนสุดคลาสสิก ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูไวน์ยอดนิยม Penfolds Bin 8 Shiraz Cabernet ไวน์แดงรสชาตินุ่มเคล้าไปกับกลิ่นหอมของผลไม้ที่ผสมผสานด้วยพริกไทยอ่อนๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเมนูเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่เพียงแต่จัดเสิร์ฟให้กับแขกในงานเท่านั้น ยังจัดจำหน่ายภายในงานเพื่อให้ทุกคนได้ซื้อกลับไปลิ้มลองแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

     อีกหนึ่งความน่าสนใจของงานในครั้งนี้ยังพบกับ Vogue Beauty Lounge โซนที่จัดเต็มด้วยไอเท็มบิวตี้สปอตไลต์ที่ได้รับการคัดสรรจากโว้กบิวตี้ประเทศไทย ว่าไอเท็มเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจจากแบรนด์ต่างๆ และคู่ควรกับการเติมลงในเซ็ตความงามในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ mesoestetic ที่นำเอาผลิตภัณฑ์ไฮไลต์อย่าง “age element brightening complex plus” ทรีตเมนต์บำรุงผิวอุดมไปด้วยวิตามินซีเข้มข้น ที่ช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น โดยภายในงานนี้เมโสเอสเททิกยังนำเอาขวดผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่มาจัดเซ็ตติ้ง และอินสตอลเลชั่นต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าไปทำความรู้จักกับแบรนด์ให้มากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นแบรนด์ยังนำเอาเครื่องดื่มสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะมาเสิร์ฟให้กับเหล่าแขกและผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมของแบรนด์ตลอดทั้ง 2 วัน

     นอกจากนี้ยังพบกับอีกหนึ่งแบรนด์บิวตี้อย่าง Luxx ที่นำเสนอไอเท็มในการช่วยจัดแต่งทรงผมอย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผมในคอลเล็กชั่น ‘Luxx Air Pro 2’ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ครบครัน เช่น Curling Barrel เทคโนโลยีเฉพาะของ Luxx ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถลอนผมได้โดยไม่ทำลายเส้นผม, Pre-Style Dryer หัวไดร์เป่าผม ที่ช่วยให้ผมแห้งในอุณหภูมิที่เหมาะสม และ Smoothing Brush หัวม้วนวอลลุ่มช่วยสร้างมิติให้แก่เส้นผม โดยภายในงานลักซ์ยังได้เชิญช่างทำผมระดับมืออาชีพอย่าง 'ดุล-ณศิษฏ์ วันขวัญ’ ที่ได้รังสรรค์ทรงผมสุดพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนมุมถ่ายรูปที่ลักซ์ ประเทศไทย ได้ตกแต่งมาเพื่องานนี้เท่านั้น

     ความพิเศษในครั้งนี้ยังคงถูกส่งต่อสู่อีกหนึ่งความเซอร์ไพรส์ของงานที่กับแฟชั่นพาเหรดที่ขนขบวนเอาไอเท็มชิ้นต่างๆ มาแมตช์ชิ่งและสร้างสรรค์โททัลลุคที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เริ่มต้นขบวนพาเหรดด้วยวงดุริยางค์กับดนตรีจังหวะสนุกสนานที่ค่อยๆ ปลุกเร้าอารมณ์ของแขกฟรอนต์โรวให้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยโชว์แรกนี้เป็นร่วมคอแลบอเรชั่นระหว่างโว้กประเทศไทยและ Central Department Store เปิดลุคแรกด้วย “แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์” ในโททัลลุคสีแดงสุดกับซิลูเอตชุดที่ดีไซน์ในแบบช่อดอกไม้สุดพิเศษ ตามด้วยนักร้องหนุ่มรุ่นใหม่อย่าง “ทิกเกอร์-อชิระ เทริโอ” ที่ได้ร่วมร้องเพลงระหว่างแฟชั่นโชว์ ก่อนจะตามมาด้วยลุคต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ 

     นับได้ว่าการจัดอีเวนต์ครั้งนี้โว้กประเทศไทยเต็มไปด้วยความบันเทิงตลอดทั้งงาน ตั้งเเต่สีสันของเเฟชั่นโชว์ในวันเเรกที่รังสรรค์ทุกโททัลลุคออกมาได้อย่างจัดจ้าน หรือจะเป็นบรรยากาศที่เหล่าศิลปินทีป๊อปรุ่นใหม่อย่าง Yourmood, bXd, DVI เเละ Perses ได้รังสรรค์ออกมาอย่างสุดความสามารถ ต่างเรียกเสียงกี๊ดเเละรอยยิ้มจากแฟนๆ ได้อย่างมากมาย ไม่เพีนยงเท่านั้นงานในครั้งนี้ยังคงตอกย้ำการเป็นงานเฟสติวัลใจกลางเมืองอย่างเเท้จริงด้วยเหล่าร้านอาหารชื่อดังที่ขนขบวนเมนูพิเศษมาเสิร์ฟในงานครั้งนี้เท่านั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าในปีนี้โว้กประเทศไทยจะมีอะไรรอเซอร์ไพรส์เเฟนๆ อยู่