sound of the forest
LIFESTYLE

ดึ่มด่ำกับเสียงแห่งธรรมชาติผ่าน ‘Sound of the Forest’ ที่ให้คนรักป่าได้ฟังเสียงจากป่าทั่วโลก

นอกจากจะเป็นโปรเจกต์ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินจากเสียงของธรรมชาติแล้ว ยังถือเป็นโปรเจกต์ที่ดีและสามารถช่วยเยียวยาจิตใจของเราผ่านเสน่ห์ของผืนป่าได้อีกด้วย 

     เชื่อว่าใครหลายคนอาจชื่นชอบการฟังเสียงต่างๆ ในแทบจะทุกกิจกรรมของแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพอดแคสต์ฟังขณะทำงาน การฟังเพลงบรรเลงที่ช่วยกล่อมนอน หรือแม้กระทั่งเสียง Ambiance ต่างๆ ในธรรมชาติที่หาฟังได้ยาก ในบทความนี้เราจะพาแฟนๆ และคนรักธรรมชาติ มาร่วมดำดิ่งกับเสียงแห่งผืนป่าจากทั่วโลกผ่านโปรเจกต์ “Sound of the Forest” 

 

ภาพจาก Timber Festival

     โปรเจกต์ “Sound of the Forest” นี้เป็นโปรเจกต์ที่รังสรรค์ขึ้น โดย Harrison Moir ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Timber Festival ซึ่งเป็นทีมผู้จัดเทศกาลดนตรีในป่าสุดป๊อป ในการทำงานครั้งนี้ทีมของแฮริสสันประกอบไปด้วยนักออกแบบ นักพัฒนาเว็บ และนักวิทยาศาสตร์เสียง รวมถึงทีมงานผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ด้านเสียงเพลงที่สวยงามและน่าประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก ซึ่ง Sound of the Forest รวบรวมเสียงจากป่าและธรรมชาติจริงๆ ที่ทีมงานของ Timber Festival ได้เดินทางไปอัดมาจากทั่วโลกมานำเสนอให้กับกลุ่มคนฟังผ่านแผนที่โลกที่พร้อมระบุโลเคชั่นว่าเสียงเหล่านั้นมาจากป่าพื้นที่ใด มีภาพประกอบที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงได้ดียิ่งขึ้น

 

ภาพจาก Luca Bravo บน Unsplash

     โปรเจกต์ดังกล่าวนี้ไม่เพียงแต่ต้องการมอบประสบการณ์ในด้านเสียงเพลงเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดจากช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 ซึ่งทำให้ผู้คนใช้ชีวิตในพื้นที่แคบๆ และออกห่างจากธรรมชาติมากขึ้น นั่นทำให้โปรเจกต์นี้ทีมงานจึงตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อช่วยดึงมนุษย์กลับมาใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยปลอบประโลมจิตใจของเราจากปัญหาที่ค่อยบั่นทอนในด้านความรู้สึกและสุขภาพจิตอีกด้วย

 



WATCH




ภาพจาก Irina Iriser บน Unsplash

     แน่นอนว่าการฟังเพลงอาจดูเป็นเพียงกิจกรรมที่น่าอภิรมย์ แต่ในขณะเดียวกันการฟังเสียงจากธรรมชาติก็ช่วยเยียวยาจิตใจของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี โดยมีงานวิจัยจากหลายแหล่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์เกี่ยวกับทฤษฎีนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยจาก Carl Hubbert มหาวิทยาลัย Drexel ที่เขาค้นพบว่า การฟังเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงคลื่นซัดฝั่ง เสียงน้ำตก จะช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) และเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข (เซโรโทนิน) ได้ ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยมิชิแกนก็ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเสียงธรรมชาติ และค้นพบว่าการเดินเล่นในป่า 20 นาที ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าการฟังเสียงธรรมชาติมีประโยชน์ในการบำบัดและเยียวยาจิตใจ ทั้งในเรื่องของการนอน ความเครียด การสร้างสมาธิในการทำงาน ช่วยลดความเจ็บปวดและการบอบช้ำทางจิตใจ 

     

เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #SoundOfTheForest