การประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สเปรียบดั่งรายการกระตุ้นความลุ้นระทึกของเหล่าแฟนนางงามประเทศไทย เพราะช่วงหลังจากกระแสฮิตที่มีการติดตามนางงามอย่างเข้มข้นทำให้ความคาดหวังเกิดขึ้นตามมาอย่างปฏิเสธไม่ได้ บ้างก็คอยลุ้นเอาใจช่วยแบบห่างๆ หรือบางคนก็เป็นแฟนฮาร์ดคอร์ที่รอคอยมง 3 มานานแสนนาน โดยตำแหน่งนางงามจักรวาลที่สาวไทยสามารถคว้ามงกุฎมาครองได้สำเร็จคือปี 1988 จาก ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก หรือเมื่อกว่า 35 ปีที่แล้ว ส่วนตำแหน่งนางงามจักรวาลคนไทยคนแรกต้องย้อนไปถึง 58 ปี กับตำแหน่งนางงามจักรวาลของ อาภัสรา หงสกุล เมื่อปี 1965 นับตั้งแต่นั้นมาไทยก็มีความหวังกับมงกุฎมิสยูนิเวิร์สแต่ก็ต้องผิดหวังกันร่ำไป วันนี้โว้กจะพาย้อนรอยความผิดหวังในโค้งสุดท้ายของมิสยูนิเวิร์สที่เกือบเข้าใกล้ตำแหน่งมง 3 แต่ก็พลาดไปอย่างน่าเสียดาย

เล็ก-จีรนันทน์ เศวตนันทน์

     จีรนันทน์ เศวตนันท์ หากพูดถึงชื่อนี้คนรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่นัก หากจะเชื่อมโยงสัมพันธ์ทางเครือญาติหลายคนอาจร้องอ๋อเมื่อทราบว่าเธอเป็นมารดาของ สุวีระ บุญรอด หรือ คิว วงฟลัวร์ โดยจีรนันท์หรือเล็กเข้าร่วมประกวดนางสาวไทยและชนะเลิศในปี 1965 (พ.ศ. 2508) และเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส 1966 แน่นอนว่าความกดดันมาพร้อมความคาดหวังมหาศาล เพราะปีก่อนหน้า อาภัสรา หงสกุลเพิ่งคว้าตำแหน่งมาได้อย่างภาคภูมิใจ ดังนั้นจีรนันทน์จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และต้องเตรียมตัวอย่างหนักเพื่อเข้าประกวดบนเวทีระดับโลก เธอเตรียมตัวก่อนประกวดด้วยการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และได้รับพระราชทานคำแนะนำเกี่ยวกับอิริยาบถต่างๆ และมีการปรับทรงผมเพื่อให้แตกต่างจากนางงามจักรวาลคนไทยคนแรกด้วย หลังจากนั้นก็เข้าประกวด ณ ไมอามีบีช รัฐฟลอริดา และสามารถคว้ารองอันดับ 2 ได้สำเร็จ แม้จะพุ่งทะยานก้าวไปไกลระดับโลกเช่นนี้ แต่นี่คือความสำเร็จที่แอบซ่อนความผิดหวังที่เกือบคว้ามงกุฎอย่างฉิวเฉียดเป็นครั้งแรก เพราะก่อนหน้าอาภัสราและจีรนันทน์ไม่เคยมีคนไทยคนใดก้าวถึงระดับ 5 คนสุดท้ายมาก่อน

น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์

     หลังจากยุคอาภัสราและจีรนันทน์ดูเหมือนว่าวงการประกวดนางงามประเทศไทยจะซบเซาลงไป มีสาวไทยติดทำเนียบ 10 คนสุดท้ายอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ทะลุไปไกลจนได้ลุ้นมงกุฎ จนกระทั่งต้องรอเวลานานถึง 28 ปีหลังภรณ์ทิพย์คว้ามงกุฎไปครองในปี 1988 ที่ น้ำตาล-ชลิตา สวนเสน่ห์ สามารถก้าวเข้าสู่รอบ 6 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นแฟนนางงามชาวไทยก็แอบมีความหวังเล็กๆ ว่าน้ำตาลอาจทะลุเข้าถึงรอบ 3 คนสุดท้ายและมีลุ้นเซอร์ไพรส์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าปีนั้น 3 คนสุดท้ายเต็มไปด้วยตัวเต็งที่แข็งแกร่งทั้งผลงานการเดินบนเวทีและการตอบคำถามทำให้เส้นทางของน้ำตาลหยุดลงที่รอบ 6 คนสุดท้าย เป็นอีกครั้งที่ทำให้แฟนนางงามได้ลุ้นแต่ก็ต้องพลาดโอกาสลุ้นจนถึงช่วงสุดท้าย

มารีญา พูลเลิศลาภ

     พอเข้ามาถึงยุค 2010s ต้องบอกว่าแวดวงนางงามประเทศไทยเติบโตอย่างมาก และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศรวมใจเชียร์ตัวแทนประเทศได้ไม่แพ้มหกรรมกีฬาเลยทีเดียว ปี 2017 ถึงคราวของ มารีญา พูลเลิศลาภ นางงามสาวลูกครึ่งไทย-สวีเดนที่เป็นตัวแทนมุ่งหน้าสู่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อลุ้นชิงมงกุฎที่ 3 กลับประเทศไทย ผลงานบนเวทีเป็นที่ประจักษ์ ประกอบกับแรงสนับสนุนมหาศาลทำให้หลายคนคิดว่ามารีญาอย่างน้อยน่าจะก้าวเข้าถึงรอบ 3 คนสุดท้าย แต่ก็เจอด่านหินอีกครั้งเมื่อ Demi-Leigh Nel-Peters ตัวเต็งจากแอฟริกาใต้ทำผลงานได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติจนสามารถทะยานขึ้นรับตำแหน่งนางงามจักรวาลประจำปี 2017 ไปครองได้แบบไร้ข้อกังขา อีกทั้งรองทั้ง 2 อันดับก็ถือเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ทำให้เส้นทางของมารีญาก็หยุดอยู่ที่รอบ 5 คนสุดท้าย แฟนนางงามก็แอบผิดหวังไปไม่แพ้ตัวมารีญาด้วยเช่นกัน

ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น

     ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น อดีตดีเจที่ผันตัวมาประกวดนางงามคือดาวเด่นและตัวแทนประเทศไทยในปี 2019 หรือ 1 ปีหลังจากไทยเป็นเจ้าภาพและคนต้องพลาดลุ้นรอบสุดท้ายกับผลงานท็อป 10 ของ นิ้ง-โสภิดา กาญจนรินทร์ ความคาดหวังที่ทำให้คนไทยลุกขึ้นเชียร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จริง ทว่าก็ค่อยๆ แผ่วลงตามผลงานที่นิยามได้ว่า “เกือบจะดี” อยู่ร่ำไป ปี 2019 จึงเป็นปีที่มีทั้งกระแสบวกและลบปะปนกันไป แต่ฟ้าใสก็พยายามสุดความสามารถจนทะลุเข้าถึงรอบ 5 คนสุดท้าย เป็นอีกครั้งที่ความหวังในใจแฟนนางงามพรั่งพรู แต่สุดท้ายก็เหมือนภาพยนตร์ที่ถูกตัดจบก่อนถึงช่วงไคลแม็กซ์ ฟ้าใสหยุดอยู่ที่รอบนี้และแฟนๆ ชาวไทยยังคงรอโมเมนต์รอบสุดท้ายและการสวมมงกุฎต่อไป

แอนโทเนีย โพซิ้ว

     ปี 2020 จนถึงปี 2022 ดูเหมือนว่ากระแสการลุ้นนางงามของไทยจะไม่ได้คาดหวังเท่าเดิม อแมนด้า ออบดัมทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2020 กับผลงานเข้าสู่รอบ 10 คนสุดท้าย นับตั้งแต่นั้นมาความหวังในการเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายหรือแม้แต่ 3 คนสุดท้ายก็ลดน้อยถอยลงไป จนการมาถึงของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ของ แอนโทเนีย โพซิ้ว นางงามลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กที่ปลุกความหวังให้แฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง ผลงานเข้าตาและคาดว่าจะเป็นตัวเต็งในการประกวดเวทีระดับโลก ครั้งนี้เธอทำให้แฟนนางงามใจฟูอีกครั้งเมื่อสามารถทะลุไปถึงรอบ 3 คนสุดท้ายได้สำเร็จ ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือเธอพลาดคว้ามงกุฎและจบการประกวดด้วยตำแหน่งรองอันดับ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในรอบ 35 ปี อีกทั้งยังเป็นคนไทยคนแรกที่อยู่ในลำดับตำแหน่งนี้ด้วย แม้แฟนๆ จะผิดหวังแต่ก็ภาคภูมิใจกับสิ่งที่แอนโทเนียแสดงความสามารถและเปิดมุมมองการตอบคำถามอันน่าประทับใจ แม้เหตุการณ์หลายต่อหลายครั้งจะเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังและร่องรอยแห่งความเจ็บปวด ถึงกระนั้นก็ต้องไม่ลืมว่านี่คือเวทีระดับโลก ความผิดหวังไม่ได้เกิดจากความล้มเหลวหรือผิดพลาด แต่เกิดจากความเสียดายที่เอื้อมเข้าใกล้มงกุฎแรกในรอบ 35 ปีเข้ามาทุกที หลายครั้งก็ช่างน่าเสียดายแต่ไม่มีอะไรที่แฟนนางงามต้องเสียใจเพราะทุกคนทำสุดความสามารถเพื่อคนไทยแล้วโดยสมบูรณ์