หนึ่งในประเด็นที่หลายๆ คนบนโลกออนไลน์กำลังพูดถึงคงต้องยกให้กับการเปิดตัวของปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligent (AI) อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่หลายๆ คนกำลังพยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้ชีวิตของมนุษย์ก้าวสู่อีกขั้น และด้วยความใฝ่ฝันและทะเยอทะยานของมนุษย์ที่ต้องการศึกษาเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจึงเกิดมาเป็นหนึ่งใน AI ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในปัจจุบันนี้กับ “Midjourney” ปัญญาประดิษฐ์สายสร้างภาพประกอบนั่นเอง

     “Midjourney” ถูกก่อตั้งโดย “David Holz” ชายผู้ที่เต็มไปด้วยความสนใจและประสบการณ์ในเรื่องเทคโนโลยี แต่เดิมเขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “Leap Motion” บริษัทที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพามนุษย์ก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ “Touchless” ได้อย่างแท้จริง ซึ่งบริษัทนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 ด้วยความน่าสนใจของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย จึงทำให้ในปี ค.ศ. 2011 ลีปโมชั่นมีมูลค่าทางตลาดสูงถึง 1.3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 46 ล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในยุคนั้น จนต่อมาในปี 2019 ลีปโมชั่นได้รวมเข้ากับบริษัท “Ultrahaptics” กลายมาเป็น “Ultraleap” ในปัจจุบันซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

David Holz ผู้ก่อตั้ง Midjourney / ภาพจากทวิตเตอร์ @DavidSHolz

     ในภายหลังจากการรวมตัวของทั้ง 2 บริษัท เดวิดก็ได้เริ่มต้นโปรเจกต์เล็กของๆ เขาอย่าง Midjourney นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นโปรเจกต์ที่มีผู้ร่วมพัฒนาเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น และยังเป็นบริษัทที่ใช้เพียงเงินทุนส่วนตัวในการพัฒนา เพราะวัตถุประสงค์ในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ทำมาเพื่อ “ความสนุก” ของเขาและทีมงาน ซึ่งครั้งหนึ่งเดวิดได้เผยกับ The Verge ว่า “Midjourney จะก้าวมาเป็นเครื่องมือแห่งจินตนาการในท้ายที่สุด” โดยปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะชนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา และด้วยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการอย่างไม่หยุดยั้งของมนุษย์ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์ภาพประกอบที่แสนสะดุดตาจนกลายมาเป็นไวรัลในเพียงชั่วข้ามคืน

     โดยหลักการทำงานหลักๆ ของ “Midjourney” คือการเป็น Bot (บอต) ที่ทำงานอยู่บนคอมมูนิตี้สื่อสารที่หลายๆ คนคุ้นชินอย่าง “Discord” ซึ่งในการทำงานสามารถที่จะใช้คำสั่งที่ตัวบอตได้กำหนดมาแล้วนั่นคือคำสั่ง /imagine prompt และตามด้วยข้อความ หรือคีย์เวิร์ดที่เราต้องการ ทั้งยังสามารถระบุความชัด ขนาดรูป ตลอดจนการสร้างเป็นภาพสามมิติได้อีกด้วย ซึ่งหลังจากป้อนคำสั่งแล้ว AI ก็จะนำข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลผลกับคลังข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดอย่างฐานข้อมูลของ Google และนำเอาข้อมูลที่ได้มาไปประมวลผลต่อและกลายมาเป็นภาพวาดที่เราได้เห็นกันในท้ายที่สุด

     ถึงแม้ว่า Midjourney จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองความสนุกสนานและความต้องการที่จะเรียนรู้ของทีมพัฒนา แต่ในท้ายที่สุดแล้วกลับกลายมาเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนช่วยสำคัญในอุตสาหกรรมศิลป์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมกราฟิกดีไซเนอร์ที่สามารถหยิบ AI ตัวนี้เข้ามาสร้างภาพตัวอย่างแรกให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนวงการแฟชั่น นิตยสาร และนักเขียน ที่สามารถดึงเจ้าปัญญาประดิษฐ์นี้มาเป็นเครื่องที่ช่วยทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ “The Economist” นิตยสารสัญชาติอังกฤษที่ล่าสุดได้นำ Midjourney ไปลองสร้างภาพปกนิตยสารฉบับเดือน มิถุนายน 2022 ก่อนที่จะปล่อยให้คนทั่วไปได้ลองใช้งาน

ภาพหน้าปกของนิตยสาร The Economist ฉบับเดือนมิถุนายน 2022 ที่ใช้ Midjourney เป็นผู้ออกแบบ / ภาพจาก www.economist.com 

     แต่ในขณะเดียวกัน Midjourney ก็ไม่ใช่ AI ตัวแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้วาดภาพได้ แต่ก่อนหน้านี้ยังมีปัญญาประดิษฐ์ตัวอื่นที่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วอย่าง DALL E-2 จาก OpenAI แต่ไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไรด้วยขั้นตอนการใช้งานที่มีความยุ่งยากมากเกินไป หากเทียบกับ Midjourney แล้ว ซึ่งถึงแม้ปัญญาประดิษฐ์สายศิลปะจะมีมานานแล้ว แต่ก็ยังคงหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามจากมนุษย์ไม่ได้เช่นกัน ซึ่งก็มีความเห็นจากทั้งฝ่ายที่คิดว่า AI จะเข้ามาแย่งงานหรือไม่ ในขณะเดียวกันก็มีอีกฝ่ายที่ตั้งความเห็นว่านี่จะเข้ามาเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์จินตนาการได้มากยิ่งขึ้น

     เราคงต้องติดตามดูต่อไปว่าในอนาคตปัญญาประดิษฐ์ Midjourney จะมีแนวโน้มการพัฒนาต่อไปอย่างไรบ้าง และจะสามารถสร้างสรรค์รูปภาพอะไรให้เราได้เห็นอีกหรือไม่ ซึ่งหากใครที่ต้องการทดลองใช้ปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ก็สามารถทดลองใช้ได้อย่างง่ายๆ เพียงมีบัญชี Discord และกดทดลองใช้เวอร์ชั่น Beta ได้ที่นี่ www.midjourney.com

     และท้ายที่สุดนี้โว้กยังได้เก็บผลงานการสร้างสรรค์ภาพศิลปะจาก Midjourney มาให้แฟนๆ ได้ลองชม และเปิดมุมมองของศิลปะดิจิทัลในยุคใหม่ ที่ปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ได้ถ่ายทอดให้เราได้เห็น ซึ่งเป็นภาพที่สร้างขึ้นมาจากคอนเซปต์ของการถ่ายแบบแฟชั่น ตลอดจนภูมิทัศน์ที่แฝงไปด้วยความเป็นไทย จะเป็นอย่างไรบ้างตามชมด้านล่างกันได้เลย