นักแสดงชายระดับตำนาน Harrison Ford เตรียมหวนคืนสู่บทบาทตัวละครนักโบราณคดี Indiana Jones อีกครั้งในภาพยนตร์เฟรนไชส์มหาภาพย์ที่ดำเนินมาถึงภาคที่ 5 กับการผจญภัยครั้งใหม่ภายใต้ชื่อเรื่อง Indiana Jones and the Dial of Destiny พร้อมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น 8 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคแรก Indiana Jones: Raiders of the Lost Ark ซึ่งเหล่าผู้กำกับภาพยนตร์ James Mangold ได้ใช้เทคโนโลยี De-Aging โดยการนำภาพฟุตเทจจากภาพยนตร์ภาคก่อนๆ มาช่วยทำให้แฮริสัน ฟอร์ดในวัย 80 ปีแลดูเหมือนอายุ 40 ปีอีกครั้ง เพื่อต่อสู้กับเหล่านาซีในปราสาทโบราณปี 1994

สื่อวิจารณ์ภาพยนตร์หลายหัวต่างออกมาแสดงความกังวลว่าผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยี De-Aging อาจจะออกมาแลดูไม่สมจริงและทำให้เสียอรรถรสในการชมภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยมานานกว่า 15 ปี เพราะผลลัพธ์ในด้านการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวของ Robert De Nero ในภาพยนตร์เรื่อง The Irishman และ Kurt Russell ในภาพยนตร์เรื่อง Guardians of the Galaxy Vol.2 ก็ต่างได้รับเสียงวิจารณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แฮริสันเผยถึงความรู้สึกหลังจากได้เห็นตัวเองในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นการใช้เทคโนโลยีลดอายุและมันแลดูเสมือนจริงมาก มันแอบทำให้ผมขนลุกนิดหน่อย ซึ่งผมไม่อยากรู้หรอกนะว่าเขาทำมันออกมาได้อย่างไร แต่มันได้ผลจริงๆ ” ทำให้เหล่าแฟนๆ ต่างรอที่จะชมการกลับมาอีกครั้งของแฮริสัน ฟอร์ดที่ถูกเสกให้ดูอ่อนเยาว์อีกครั้งใน Indiana Jones and the Dial of Destiny วางแผนกำหนดฉายวันที่ 30 มิถุนายน 2023
Harrison Ford ในวัย 80 ปีจากซีรี่ส์เรื่อง 1932
1 / 2
Harrison Ford หลังจากใช้เทคโนโลยี De-Aging ในภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones and the Dial of Destiny
2 / 2
ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones and the Dial of Destiny

Margot Robbie และ Brad Pitt สวมจิตวิญญาณของเหล่านักล่าฝันในวิดีโอทีเซอร์ภาพยนตร์ Babylon


