เปิดศักราชใหม่กับปี 2024 มีเรื่องเซอร์ไพรส์ในหลากหลายวงการ แต่สำหรับวงการดนตรีไทยนั้นมีข่าวที่อาจทำให้สาวกเพลงอินดี้ต้องเศร้าใจเพราะวง HYBS ประกาศยุบวงอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งวงนี้เป็นวงอินดี้ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของ เจมส์-อลิน วี และ กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดเชิงศิลปินวง เส้นทางร่วม 2-3 ปีคือความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างฐานความนิยมได้อย่างล้นหลามทั้งในแง่ของผลงานเพลงและการติดตามการแสดงสดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

     วงนี้ที่มีชื่อมาจากประโยค “Have you been shrimp?” ที่สะท้อนการเล่นมุกจนจับพลัดจับผลูกลายมาเป็นชื่อที่ทุกคนจดจำได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมากเกินกว่า 8 ปี และริเริ่มเส้นทางดนตรีจากความเรียบง่าย ทว่าสามารถขับเสน่ห์ออกมาให้ผู้ฟังได้อย่างเต็มที่ เมื่อกาลเวลาเดินผ่านไปต้องบอกว่านี่คือศิลปินอินดี้ไทยแห่งยุค 2020s ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก นำเสนอผลงานเพลงฮิตทั้ง Tip Toe, Dancing with my phone และ Ride เป็นต้น หลายคนก็คาดหวังให้พวกเขาเดินทางบนต่อไปชนิดไม่มีสิ้นสุด ทว่าสุดท้ายโปรเจกต์นี้ก็ต้องจบลง เพราะทั้งคู่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกว่าวงนี้จะไม่ได้อยู่ไป “ตลอดกาล”

     เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2023 ทางวงออกประกาศช็อกแฟนๆ เริ่มการอวยพรปีใหม่ พร้อมบอกเล่าความรู้สึกว่าการเดินทางของวงนั้นยอดเยี่ยม มันเต็มไปด้วยช่วงเวลาอันน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ น้ำตา ความสุข และแน่นอนว่าสเต็ก “It’s hella Ride!” คือคำส่งท้ายที่พ้องกับชื่อเพลงที่ทำให้พวกเขาโด่งดังและมีชื่อเสียงมากมายจนถึงทุกวันนี้ ก่อนจะเริ่มประกาศอย่างจริงจังว่า “เมื่อเวลาผ่านไปในขณะที่คุณกำลังมีความสุข มันน่าเศร้าที่มันถึงเวลาจะบอกกับแฟนๆ ว่าโปรเจกไฮบ์สเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว” ถือเป็นข่าวเศร้าที่แฟนๆ อาจไม่ได้เห็นพวกเขาโลดแล่นในเส้นทางดนตรีด้วยกันอีกแล้ว

     สิ่งที่พวกเขากล่าวถึงเรื่องราวของวงไฮบ์สคือจุดเริ่มต้นที่ต้องมีจุดสิ้นสุด “เมื่อเราเริ่มโปรเจกต์นี้ เราไม่ได้หมายความว่าจะทำมันไปตลอดกาล สิ่งที่ได้รับกลับมามันมากกว่าที่พวกเขาจะคิดฝันเสียอีก” พร้อมเล่าเรื่องราวย้อนกลับว่าไป “เราเริ่มต้นด้วยการอัดคลิปสั้นจากผลงานที่เขียนขึ้นเองลงบนอินสตาแกรมเพื่อความสนุกเพียงเท่านั้น เราไม่ได้คิดเลยว่าเราจะไปได้ไกลกว่านั้น แต่อย่างที่ผลลัพธ์ออกมา เราลงเอยด้วยการบันทึกเสียงเพลงออริจินัลทั้งหมดเป็นอัลบั้ม” นอกจากนี้เสริมด้วยว่า “เรามีโอกาสทำคอแลบอเรชั่นกับศิลปินอิสระระดับท็อปในเอเชีย เราไปทัวคอนเสิร์ตในประเทศที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้แสดง และเราก็ได้เล่นบนเวทีและอีเวนต์ดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต” การจากลาครั้งนี้ถือเป็นจุดสิ้นสุดของไฮบ์สอย่างเป็นทางการ แต่สำหรับเจมส์และกานต์นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่บนเส้นทางที่พวกเขาเลือกเดิน ติดตามกันต่อไปว่าเขาทั้งคู่จะมีผลงานอะไรให้เราติดตามอีกบ้าง และไฮบ์สจะมีโอกาสหวนคืนมาให้แฟนๆ หายคิดถึงในอนาคตหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องให้เวลาทำหน้าที่ของมัน