Vogue Thailand

LIFESTYLE

VOGUE HISTORY | ย้อนเส้นทาง ‘S.E.S.’ ศิลปินวงแรกที่สร้างจุดเริ่มต้นของจักรวาลเกิร์ลกรุ๊ปแห่ง K-Pop

ชื่อของ S.E.S. จะยังคงต้องถูกกล่าวถึงไปอีกยาวนาน เพราะพวกเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘วงแรก’ แต่คือผู้วางรากฐานที่มั่นคงให้ทุกวงที่ตามมาเดินบนเส้นทางที่กว้างและมั่นคงกว่าเดิม

โดย Ramita Naungtongnim
11 กรกฎาคม 2568

     ในโลกของอุตสาหกรรมบันเทิงที่ถูกรายล้อมไปด้วยป๊อปคัลเจอร์ของแต่ละประเทศ วงการ K-Pop ก็เป็นอีกหนึ่งแวดวงที่ผู้คนให้ความสนใจจนได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในยุคปัจจุบัน และศิลปินเหล่านั้นก็ขึ้นแท่นเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกที่สร้างยอดเอนเกจให้แก่แวดวงต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความเร็ว แฟชั่น และเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ โดยเฉพาะเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจนเกิดเป็นวงใหม่ที่ผุดงอกเร็วราวกับดอกเห็ด แต่หารู้ไม่ว่ากว่าจะเดินทางมาถึงจุดของ ยุคทอง แห่งเกิร์ลกรุ๊ปในตอนนี้ ชื่อของวง ‘S.E.S.’ อาจฟังดูเงียบหายไปในความพลุกพล่านของยุคสมัยใหม่ ทว่าหากย้อนมองลงไปในรากลึกของประวัติศาสตร์เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีในแนวเพลงเคป๊อป จะพบว่าพวกเธอไม่ได้เป็นเพียงเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของต้นสังกัด SM Entertainment แต่ยังเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดระบบเกิร์ลกรุ๊ปเคป๊อปที่ใช้เป็นมาตรฐานมายาวนานจนถึงปัจจุบัน Vogue History สัปดาห์นี้ขอพาผู้อ่านทุกคนย้อนไปยังจุดเริ่มต้นของ S.E.S. ที่ถ้าไม่มีพวกเธอ ก็อาจมองไม่เห็นภาพรวมของเกิร์ลกรุ๊ปวงการเคป๊อปแห่งประเทศเกาหลีใต้ชัดเจนเฉกเช่นทุกวันนี้

     แม้ในปี 1960s วง ‘The Pearl Sisters’ จะเป็นเกิร์ลกรุ๊ปยุคแรกสุดของวงการเพลงเกาหลี แต่พวกเธอนำเสนอแนวเพลงป๊อปเสียมากกว่าการเป็นเคป๊อปสมัยใหม่ S.E.S. จึงถือเป็นศิลปินกลุ่มหญิงแห่งวงการเคป๊อปวงแรกที่เดบิวต์ในปี 1997 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เอเชียกำลังเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ถึงแม้ประเทศเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ในทางตรงกันข้ามวงการบันเทิงกลับเริ่มสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ของ ไอดอล ขึ้นมาแทนความบันเทิงแบบเดิมที่เริ่มอิ่มตัว การเปิดตัวของ S.E.S. จึงไม่ใช่แค่นำเสนอวงน้องใหม่ในสายตาสาธารณชน ทว่าคือการทดลองระบบใหม่ของการฝึกไอดอลหญิงที่มีทั้งเสียงร้อง หน้าตา ความสามารถด้านภาษา การแสดงบนเวที และการวางภาพลักษณ์เป็นระบบอย่างมีแผน โดยที่มาของ S.E.S. มาจากอักษรตัวแรกของสมาชิกทั้ง 3 คนอย่าง Sea (หรือ Bada), Eugene และ Shoo โดยแต่ละคนจะมีบทบาทที่แตกต่างแต่สมดุล ซึ่ง Sea มีเสียงร้องอันทรงพลังแบบหาตัวจับได้ยากของนักร้องหญิงเกาหลีในยุคนั้น, Eugene คือตัวแทนของภาพลักษณ์ความสดใส ขี้เล่น มีเสน่ห์การสะกดสายตาผ่านกล้อง และ Shoo คือความละมุนและความละเมียดละไมที่เชื่อมเสียงร้องเข้ากับห้วงอารมณ์ของวงเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ภาพลักษณ์ของทั้งสามถูกวางไว้อย่างชัดเจนจนสามารถเป็นต้นแบบให้กับการออกแบบสมาชิกวงรุ่นหลังทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น SNSD, TWICE หรือ Red Velvet ต่างล้วนได้รับอิทธิพลจากพวกเธอทั้งสิ้น

     ในช่วงเวลาที่วงการบันเทิงเกาหลีในแวดวงเกิร์ลกรุ๊ปยังถูกมองว่าเป็นเพียงดารานักแสดงหรือนักร้องโซโล่ในเวทีเล็กๆ การที่ SM Entertainment กล้าผลักดันเกิร์ลกรุ๊ปที่มีองค์ประกอบแบบ โปรดิวซ์เต็มระบบ ถือเป็นการปฏิวัติสิ่งเดิมและกลายเป็นเดิมพันที่สำคัญ ‘I’m Your Girl’ ซิงเกิลเปิดตัวของพวกเธอในปีนั้นไม่เพียงแต่ติดหูและประสบความสำเร็จทางยอดขาย ทว่ายังส่งอิทธิพลลึกถึงสไตล์การแต่งตัวของวัยรุ่น การออกเสียงร้องประสานในท่อนฮุก และการผลิตมิวสิกวิดีโอที่เริ่มใช้กล้องหลายมุมเพื่อเน้นบุคลิกของแต่ละสมาชิก นอกจากนี้ไม่ใช่แค่เพลงที่ทำให้พวกเธอโดดเด่น แต่ยังรวมถึงจิตวิญญาณของการเป็น ต้นแบบ ของเกิร์ลกรุ๊ปในโลกตะวันออกที่เน้นความสะอาดและความอ่อนน้อมแต่ไม่อ่อนแอ ทั้งสามคนได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์แบบคงภาพลักษณ์ไว้อย่างมีวินัย ไม่มีข่าวฉาว ไม่มีการเบี่ยงเบนจากแนวทางที่ต้นสังกัดวางไว้แม้แต่น้อย ซึ่งในเวลานั้นถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการบันเทิงที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วอุตสาหกรรมแห่งประเทศเกาหลีใต้

     นอกจากนี้ความสำเร็จของ S.E.S. ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศ เพราะพวกเธอยังเป็นหนึ่งในกลุ่มศิลปินหญิงกลุ่มแรกที่บุกตลาดญี่ปุ่นอย่างจริงจังภายใต้ความร่วมมือกับค่าย Avex ซึ่งเป็นค่ายยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น แม้จะไม่ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของตลาดญี่ปุ่นเท่ากับที่รุ่นน้องในยุคถัดไปอย่าง BoA หรือ KARA ทำได้ แต่ก็ถือเป็นการ ทดสอบแรงกระเพื่อม ที่วางรากฐานให้ Hallyu Wave ซึ่งจะตามมาในอีกไม่กี่ปีต่อมา การเดินทางของ S.E.S. ดำเนินไปอย่างมั่นคงตลอด 5 ปี ก่อนจะสิ้นสุดลงในปี 2002 หลังจากหมดสัญญากับ SM Entertainment พวกเธอไม่ได้จบด้วยความขัดแย้งหรือการฟ้องร้องอย่างที่หลายวงในยุคนั้นต้องเผชิญ ตรงกันข้ามพวกเธอจากกันด้วยความเคารพและความเข้าใจ ซึ่งทำให้ชื่อของ S.E.S. ยังคงสะอาดและเป็นที่จดจำในหมู่แฟนเพลงมายาวนาน

     ปี 2016 พวกเธอกลับมารวมตัวอีกครั้งในโครงการเฉลิมฉลองครบ 20 ปีของ SM Entertainment ด้วยอัลบั้มใหม่ชื่อว่า ‘Remember’ ซึ่งชื่ออัลบั้มนี้แทบจะเป็นคำบรรยายอารมณ์และความรู้สึกของแฟนๆ ที่เติบโตมากับเสียงเพลงของพวกเธอได้ดีที่สุด การกลับมาครั้งนั้นไม่ได้มาเพื่อหวังยอดขาย แต่มีจุดประสงค์ทำให้ความทรงจำกลับมามีชีวิตอีกครั้งผ่านบทเพลง การแสดงสด และสารคดีที่บันทึกความเปลี่ยนแปลงของวงการตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา

     กระนั้นแล้วมรดกที่ S.E.S. ทิ้งไว้ไม่ได้อยู่แค่เพลงหรือยอดขาย แต่อยู่ที่โครงสร้างทั้งหมดของการสร้างเกิร์ลกรุ๊ปแบบเคป๊อปที่ตามมานับไม่ถ้วน พวกเธอคือผู้บุกเบิกที่ไม่มีต้นแบบมาก่อนหน้าและกลายเป็นแบบอย่างให้กับทุกวงที่ตามมา การที่เกิร์ลกรุ๊ปในปัจจุบันมีระบบการจัดการ สมาชิกที่มีบทบาทเฉพาะ เสียงร้องที่ลงตัวกับท่าเต้น และภาพลักษณ์ที่ถูกวางไว้อย่างมีกลยุทธ์ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น ภาษาทางวัฒนธรรม ที่ S.E.S. เป็นผู้เริ่มเขียนขึ้น ในวันที่โลกทั้งใบหันมาฟังเคป๊อปจากทุกทวีป ชื่อของวงอย่าง BLACKPINK, TWICE, หรือ NewJeans อาจขึ้นหน้าเวทีโลก แต่สำหรับใครที่อยากเข้าใจจริงๆ ว่าวงการนี้เริ่มต้นอย่างไร ใครคือผู้ที่กล้าลงมือก่อนท่ามกลางความไม่แน่นอน ชื่อของ S.E.S. จะยังคงต้องถูกกล่าวถึงไปอีกยาวนาน เพราะพวกเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘วงแรก’ แต่คือผู้วางรากฐานให้ทุกวงที่ตามมาเดินบนเส้นทางที่กว้างและมั่นคงกว่าเดิม

 

ตามไปอ่านบทความเกี่ยวกับซีรี่ส์ Vogue History เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

ภาพ : Courtesy of SM Entertainment