หนึ่งในนักร้องสุดป๊อปที่ใครหลายคนต่างชื่นชอบเป็นอย่างมาก เราคงต้องพูดถึงนักร้องหนุ่มผู้มีภาพลักษณ์สุดฮอตอย่าง “Troye Sivan” นักร้องนักเเต่งเพลงเเละนักแสดงสัญชาติออสเตรเลีย ผู้ฝากฝังผลงานทั้งยังคอยสื่อสารเเละสร้างเเรงบันดาลใจให้กับแฟนๆ ตลอดจนคนหนุ่มสาวไว้มากมาย แรกเริ่มทรอยแจ้งเกิดผ่านอาชีพการเป็นนักแสดงเด็กในภาพยนตร์เเละซีรี่ส์หลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Spud ที่ฉายเมื่อปี 2008 เรื่องราวของ Spud Milton (รับบทโดย Troye Sivan) เด็กชายที่มีอุปนิสัยขี้อายเเละอ่อนแอ ผู้ต้องเข้าไปอยู่ในโรงเรียนประจำ เขาทั้งถูกกลั่นเเกล้งเเละล้อเลียน เเต่ทว่าในท้ายที่สุดเขาก็เรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเองเเละรักตัวเองให้มากขึ้น 

 

 

     ภายหลังการเเจ้งเกิดในฐานะนักแสดงเด็กทรอยยังคงก้าวเดินอยู่บนเส้นทางสายบันเทิงเสมอ จนเมื่อปี 2014 เขาก็ได้เซ็นสัญญากับสังกัด EMI Music Australia ค่ายเพลงยอดนิยมในประเทศออสเตรเลีย เเละได้ปล่อยซิงเกิลเดบิวต์ในปีถัดมากับอัลบั้มเเรกอย่าง “Blue Neighbourhood” ซึ่งติดอันดับหนึ่งในชาร์ตอัลบั้มยอดฮิตในออสเตรเลีย เเละขณะเดียวกันเพลงที่สื่อถึงเรื่องราวของเขาอย่าง “Wild” และ “Youth” ก็ขึ้นเเท่นเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

 

 

     จนต่อมาในปี 2018 ทรอยก็ได้ปล่อยอัลบั้มถัดมาอย่าง “Bloom” อัลบั้มที่ได้รับการขนานนามว่า “นี่แหละคือตัวตนของทรอย” เเละยังคงเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จไม่เเพ้กับอัลบั้มก่อนหน้า โดยการปล่อยเพลงในครั้งนี้ก็มีอีกหนึ่งซิงเกิลที่เสมือนคำประกาศกร้าวของทรอยอย่าง “My My My!” บทเพลงที่สะท้อนถึงการยอมรับตัวตนของตัวเอง เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่น่าประทับใจเเละเผยให้เราได้รู้จักกับทรอยมากขึ้น กระเเสความนิยมในตัวเขายังคงพุ่งสูงขึ้นจนในปี 2020 ก็ได้คลอดอีกหนึ่งอัลบั้มออกมาซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกอีกเช่นเคย

 

 

     และในปี 2023 นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญของหนุ่มทรอยกับการปล่อยซิงเกิลล่าสุดที่อัดเเน่นด้วยความเซ็กซี่ในเเบบฉบับของเขาอย่างเต็มขั้น กับเพลง “Rush” ซึ่งเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ได้รับอิทธิพลจากเรื่องราวเเละความรู้สึกตื่นเต้น หลงใหลในใครสักคนเป็นครั้งเเรก โดยเพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ตรงของทรอยกับเเฟนหนุ่มคนเเรก ทั้งยังเป็นเพลงที่สะท้อนให้เราได้สัมผัสถึงหัวใจที่เต้นระรัว ความปรารถนาที่อยากจะใกล้ชิดกับใครสักคน ตลอดจนความรู้สึกของความรักอันบริสุทธิ์เเละไร้เงื่อนไข

     อย่างที่เราได้เห็นว่าทุกผลงานเพลงของทรอย ซีวาน เป็นเหมือนเครื่องมือในการถ่ายทอดเรื่องราว เเละสื่อสารความรู้สึกของเขาต่อเเฟนๆ ทั้งยังเป็นการหยิบเอาผลงานมาสร้างเเรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้ฟัง ตลอดจนการผลักดันเรื่องราวของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศให้มีความเท่าเทียมภายใต้บรรทัดฐานทางสังคมอันบิดเบี้ยวอีกด้วย