คำอธิบายภาพ: River และ Joaquin Phoenix ในวัยเด็ก ที่เป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิท

 

การคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทการแสดงระดับลึกซึ้งคงจิตวิญญาณในภาพยนตร์เรื่อง Joker (2019) ผลงานการกำกับโดย Todd Phillip ของ Joaquin Phoenix เป็นการประกาศให้โลกรู้ว่านักแสดงหนุ่มใหญ่ผู้นี้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของเส้นทางอาชีพแล้ว หลังจากที่เคยเข้าชิงถึง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องกลับบ้านมือเปล่าทุกครั้ง ทว่าตอนนี้ชื่อ River Phoenix ได้ก้าวขึ้นมายืนในทำเนียบนักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดได้อย่างภาคภูมิ

 

อย่างไรก็ตาม Joaquin Phoenix อาจจะก้าวมาไม่ถึงจุดนี้ หากขาดพลังขับเคลื่อนและแรงบันดาลใจจากพี่ชายที่เขารัก River Phoenix คือชื่อที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในฮอลลีวูดเมื่อหลายทศวรรษก่อน น่าเสียดายที่เขาด่วนจากลาเกินไป ทว่าสิ่งที่เขาทิ้งไว้ยังคงอยู่ในตัวน้องชายร่วมสายเลือด Phoenix

River และ Joaquin Phoenix ในวัยเด็ก ที่เป็นทั้งพี่น้องและเพื่อนสนิท

 

ชีวิตที่เกิดใหม่ได้จากเถ้าถ่าน

River และ Joaquin เกิดมาในครอบครัวชาวอเมริกันบุปผาชน พ่อแม่ของเขาใช้ชีวิตเยี่ยงฮิปปี้ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทำให้นับตั้งแต่ลืมตาดูโลก พวกเขาต้องระเห็จตามพ่อแม่ไปในทุกที่ ทั้งในสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก และเวเนซูเอลา “บางครั้งผมก็แค่อยากมีชีวิตแบบเด็กๆ ทั่วไป แต่เมื่อผมได้เริ่มสนิทสนมกับใครสักคน ในไม่ช้าเราก็ต้องบอกลากัน เพื่อนที่สนิทที่สุดจึงเป็นพี่น้องของผมเอง” River กล่าวถึงความเจ็บปวดในวัยเยาว์ การที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้ River และ Joaquin ไม่เคยได้รับการศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐาน หนำซ้ำพ่อแม่ของเขาเข้าร่วมลัทธิ Children of God กลุ่มลัทธิทางศาสนาซึ่งอ้างว่าส่งเสริมการมอบความรักของพระเจ้า แต่ความจริงที่เลวร้ายคือลัทธินี้ใช้วิธีการล่อลวงทางเพศ เพื่อเผยแพร่ลัทธิ ทำให้เกิดข่าวลือว่า River ถูกล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น

คำอธิบายภาพ: River Phoenix หนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในฮอลลีวู้ด

 

ครอบครัวของเขาออกจากลัทธินี้ในปี 1977 ก่อนที่จะหันมาใช้ชีวิตแบบชาววีแกน และนี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญให้ต่อมาเมื่อทั้ง River และ Joaquin กลายเป็นนักแสดงชื่อดัง พวกเขาจึงกลายเป็นกระบอกเสียงคนสำคัญของเรื่องวีแกนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หลังจากตระเวนใช้ชีวิตไปหลายที่ ในปี 1979 ครอบครัวของพวกเขาก็ได้มาลงหลักปักฐานที่เมืองลอสแอนเจลิส พร้อมเปลี่ยนนามสกุลเป็น Phoenix ตามนกในเทพนิยายที่เกิดใหม่ได้จากเถ้าถ่าน นอกจากนั้นการได้อยู่ในลอส แอนเจลิส ประกอบกับหน้าตาของ River ที่หล่อเหลา มีดวงตาสีฟ้าที่เปี่ยมด้วยความดื้อรั้น แฝงความเศร้าอยู่ในที และบุคลิกเซอร์ๆ ทำให้ใครหลายคนต่างบอกว่า “นี่แหละคือ James Dean คนต่อไป” ทำให้ River เข้าตาแมวมอง โดนชักชวนเข้าสู่วงการแสดงในที่สุด

 

River มีความสามารถอันโดดเด่นตั้งแต่ผลงานชิ้นแรกที่แสดงซีรีส์เรื่อง Seven Brides for Seven Brothers ซึ่งมี Joaquin และเริ่มเป็นที่จับตาในเรื่อง Explorers (1985) ที่เขาได้รับรางวัล Young Artist Award อย่างไรก็ตามถ้าถามว่าผลงานการแสดงเรื่องไหนที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จและแจ้งเกิดกลายเป็นดาวดวงต่อไปของฮอลลีวูด แน่นอนว่าคำตอบเพียงหนึ่งเดียวคงหนีไม่พ้นการรับบทนำในหนึ่งภาพยนตร์ Coming of Age ที่ดีที่สุดตลอดกาล ดัดแปลงมาจากผลงานเขียนของ Stephen King เรื่อง Stand by Me

คำอธิบายภาพ: ค่ำคืนสุดท้ายของ River Phoenix ณ Viper Room

 

Rob Reiner ผู้กำกับเรื่อง Stand by Me ได้เผยว่า “ผมรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กพิเศษ เขาทั้งเล่นดนตรีได้ มีเสน่ห์ และฉลาด ผมถึงกับทึ่งที่ River นำเสนอความเปราะบางของตัวเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง” ส่วน Joaquin ที่ถึงแม้จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงช้ากว่า และในช่วงแรกเขาประสบความสำเร็จน้อยกว่า River พี่ชายอย่างมาก ทว่าพวกเขาก็ไม่เคยมีความอิจฉาซึ่งกันและกัน ไม่เคยหยิบประเด็นนี้มาเป็นเรื่องขุ่นเคืองใจ ตรงกันข้ามพวกเขายังคงเป็นพี่น้องที่รักและสามัคคีกันไม่เปลี่ยน “เราเป็นทีมเดียว นั่นเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก เราสนับสนุนซึ่งกันและกันเสมอ ไม่มีการแข่งขันกัน”

 

“ครั้งหนึ่งเมื่อผมอายุ 15 -16 ปี River กลับบ้านจากที่ทำงาน เขามีเทป VHS ของภาพยนตร์เรื่อง Raging Bull เขาเรียกผมให้มานั่งดูด้วยกัน และวันรุ่งขึ้นเขาก็ปลุกผมแล้วเราก็ทำเหมือนเดิมอักครั้ง ก่อนที่เขาจะพูดว่า 'นายกำลังจะเริ่มแสดงอีกครั้งนี่คือสิ่งที่นายควรทำ’ ผมเป็นหนี้เขาสำหรับเรื่องนั้น เพราะการแสดงทำให้ผมมีชีวิตที่เหลือเชื่อ ความเข้าใจและความซาบซึ้งในการแสดงแบบนั้น ผมคิดว่ามันเพิ่งปลุกบางอย่างในตัวผม และผมก็มองเห็นมันผ่านสายตาของเขา” Joaquin กล่าวถึงอิทธิพลที่ผู้เป็นพี่ชายส่งมอบให้กับเขา ขณะขึ้นรับรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต ขณะเดียวกันเมื่อครั้งอดีต River ก็เคยพูดถึงน้องชายของเขาเช่นกัน “นายจะเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมากกว่าข้าแน่นอน” ราวกับว่า River Phoenix มองเห็นอนาคตได้

คำอธิบายภาพ: Joaquin Phoenix กับรางวัลออสการ์ที่มีพี่ชายเป็นแรงผลักดันสำคัญ

 

ค่ำคืนที่ยาวนานราวตลอดกาล

ในขณะที่ทั้ง River และ Joaquin กำลังมีเส้นทางที่ดีในฐานะนักแสดง โดยเฉพาะผู้เป็นพี่ชายที่เป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในฮอลลีวูด ทว่าค่ำคืนหนึ่งในเดือนตุลาคม ปี 1993 ก็ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปตลอดกาล ในคืนนั้น River ได้มาท่องราตรีในผับชื่อ Silver Lake ย่านเวสต์ฮอลลีวูด และทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปในร้าน พยานทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า River ไม่ได้อยู่ในสภาพปกติอย่างที่เขาควรจะเป็น รวมถึง Leonardo DiCaprio นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ที่ได้พบเจอเขาในระยะประชิดด้วย

 

Leonardo มี River เป็นไอดอลในเรื่องการแสดง ทว่าทั้งสองไม่เคยพบเจอกันเลยสักครั้ง เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่บังเอิญได้เจอ River ที่ Silver Lake แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่คิด “คืนหนึ่งในปาร์ตี้ที่ Silver Lake ผมเห็นเขาเดินขึ้นบันไดมา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับหนัง Vertigo เพราะผมเห็นบางอย่างในใบหน้าของเขา ผมไม่เคยเจอเขา ผมอยากเจอเขามาตลอด ผมอยากพููดคุยกับเขา เขาเดินมาทางผมแล้วผมก็ตัวแข็งไปเลย จากนั้นฝูงชนก็แยกผมออกจากเขา ผมหันหลังกลับไปเขาหายไปแล้ว” แม้ว่า River จะหายไป แต่ Leonardo ก็ไม่ละความพยายาม เขาตามหาว่า River ไปไหน และก็ได้รู้ว่า River ไปที่ The Viper Room และเสียชีวิตที่นั่น ซึ่งทำให้ Leonardo โดช็อกมาก

 

“ผมไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงดี แต่มันมีบางสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้ผมรู้สึกว่าเขาหายตัวไปต่อหน้าต่อตาผม และโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมสูญเสียบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมและเพื่อน ๆ ไป ผมยังจำได้แม่นว่าผมยื่นมือไปหาเขา จากนั้นมีคนสองคนเดินเข้ามาขวางทางผม แล้วพอผมมองอีกที เขาก็ไม่อยู่แล้ว” River Phoenix ด่วนจากโลกนี้ไปในวัยเพียงแค่ 24 ปี จากการเสพยาเกินขนาด ร่างของเขาล้มพับลง ณ ผับ Viper Room และก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ส่วนคนที่นั่งกอดร่างไร้วิญญาณของนักแสดงหนุ่ม และพยายามโทรเรียกรถพยาบาลอย่างไม่ลดละไม่ใช่ใครอื่น Joaquin นั่นเอง

 

“ในช่วงเวลาที่คุณอ่อนแอที่สุด แต่กลับมีเฮลิคอปเตอร์บินผ่านตลอดเวลา มีคนพยายามแอบเข้าไปในบ้าน แน่นอนว่า สำหรับผมมันคือเรื่องที่ทำใจได้ยาก และเป็นอุปสรรคในการระลึกถึงเขา” Joaquin กล่าวถึงเหตุการณ์สูญเสียครั้งสำคัญ ที่กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลกในชั่วข้ามคืน เหล่านักข่าวพยายามตามขุดคุ้ยตลอดเวลา สำหรับเขามันยากเหลือเกินที่จะก้าวผ่านมันไป แต่สุดท้าย Joaquin ก็ก้าวผ่านมันมาได้ เขาเลือกที่จะทิ้งความโศกเศร้าไว้เบื้องหลัง เก็บเกี่ยวเฉพาะความทรงจำดีๆ และใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการกลายเป็นนักแสดงฝีมือคับแก้วและประสบความสำเร็จ

 

หลังจากค่ำคืนที่ยาวนานราวตลอดกาล Joaquin ก็ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงมากขึ้นเรื่อยๆ สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Gladiator, Walk the Line, The Master, Her, จนกระทั่งสามารถคว้ารางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตจากเรื่อง Joker ในการกล่าวสุนทรพจน์ในการรับรางวัลออสการ์ Joaquin ให้เกียรติพี่ชายของเขาด้วยการหยิบยกเนื้อเพลงส่วนหนึ่งที่เขาแต่งมาใช้ “Run to the rescue with love and peace will follow.”

 

“ผมรู้สึกเหมือนในภาพยนตร์แทบทุกเรื่องที่ผมเล่น มีความเกี่ยวข้องกับ River ในทางใดทางหนึ่ง และผมคิดว่าเราทุกคนต่างรู้สึกถึงการมีอยู่ของเขาและการชี้นำในชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน” เป็นประโยคสั้นๆ ไม่เศร้าโศกหรือฟูมฟาย ทว่ากลับถ่ายทอดความสัมพันธ์พี่น้องที่จะคงอยู่ตลอดกาลได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด