ในภาคที่สองของ 'Normal People' ทีวีซีรี่ส์ดัดแปลงจากนิยายโดย Sally Rooney มีฉากเซ็กซ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสองเป็นเวลาถึงหกนาที นั่นคือฉากที่ Marianne นำแสดงโดย Daisy Edgar-Jones เสียความบริสุทธิ์ให้แก่ Connell ซึ่งนำแสดงโดย Paul Mescal เพื่อนร่วมชั้นที่เธอมีความสัมพันธ์ลับๆ ด้วย ถือเป็นฉากที่มีความใกล้ชิดอย่างแนบแน่นและสื่ออารมณ์ออกมาได้สมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ มันคือโมเมนต์ที่เปิดเผยให้เห็นถึงความเปราะบางและการโหยหาซึ่งกันและกันเมื่อความสัมพันธ์เริ่มลงลึกขึ้นไปอีกขั้น นอกจากต้องยกความดีความชอบให้นักแสดงทั้งสองและผู้กำกับ Lenny Abrahamson และ Hettie Macdonald อีกหนึ่งคนที่ขาดไม่ได้ก็คือ Ita O’Brien ผู้ประสานงานด้านความชิดใกล้ ที่เป็นผู้จัดท่าทางการจูบ การสัมผัส และการจู่โจมทางเพศในทุกๆ ฉากตอนของซีรีส์เรื่องนี้
อดีตแดนเซอร์ นักแสดง และผู้กำกับการเคลื่อนไหวที่ดำเนินงานมากว่าทศวรรษ โอไบรอันเริ่มช่ำชองด้านฉากเซ็กซ์และนู้ดในภาพยนตร์ ทีวี และโรงละครเมื่อหกปีที่แล้ว “ฉันเริ่มศึกษาว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้นักแสดงมีความปลอดภัยและสิ่งที่จะต้องทำเพื่อให้พวกเขาเข้าถึงบทบาทและสามารถสวิตช์ออกจากฉากนั้นๆ โดยไม่กระทบต่อความรู้สึก” เธอกล่าว บทบาทหน้าที่ของเธอใกล้เคียงกับการเป็นผู้ประสานงานสำหรับสตั๊น (Stunt Coordinator) ทั้งประเมินความเสี่ยง ควบคุมการซ้อม และให้คำแนะนำระหว่างเข้าฉาก เพื่อให้นักแสดงมีความเข้าใจที่ชัดเจนต่อสิ่งที่พวกเขากระทำ
จากความนิยมที่ล้นหลามของซีรี่ส์เรื่องนี้ เราได้พูดคุยกับโอไบรอันผ่านซูม เกี่ยวกับการวางแผนการถ่ายทำเพื่อให้สอดคล้องกับรอบเดือนของนักแสดง เวิร์คช็อปที่ศึกษาเรื่องการปฏิสัมพันธ์ของสัตว์ และสิ่งที่ผู้ประสานงานด้านความชิดใกล้กระทำเพื่อเปลี่ยนแปลงวงการภาพยนตร์

Vogue: เซ็กซ์คือส่วนสำคัญใน ‘Normal People’ คุณนำความแนบแน่นของตัวละครมาปรากฏขึ้นในฉากได้อย่างไร?
O' Brien: มันเกี่ยวข้องกับการบอกเล่าเรื่องราวเสมอ และหลังจากที่ฉันได้อ่านนิยายเรื่องนี้ ฉันมองเห็นว่าเราถูกดึงเข้าไปลึกถึงสภาพจิตใจของตัวละครผ่านช่วงเวลาที่แนบแน่นเหล่านั้น มารีแอนน์และคอนเนลล์อยู่ด้วยกันได้อย่างงดงาม และแตกต่างกันเป็นอย่างมากในแง่ของการบ่งบอกความเป็นตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ ฉันก็เลยคิดว่า ถ้าซีรี่ส์เรื่องนี้ต้องการจะสื่อให้ผู้ชมรับทราบในแง่ที่กล่าวมา ฉากตอนที่แสดงออกถึงความแนบแน่นต้องได้รับการถ่ายทอดออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือ ฉากเหล่านั้นมีมากมายเหลือเกิน!

V: ทุกๆ ฉากได้รับการจัดแจงมาก่อนหน้าหรือมีการเว้นช่องว่างให้ผู้แสดงได้ทดลองแสดงออกในแนวทางของตนเอง?
O: เราเริ่มต้นด้วยการนำสคริปต์ออกมาไฮไลต์ การเคลื่อนไหวของเธอถูกขีดด้วยสีชมพู ของเขาด้วยสีเขียว และสีเหลืองสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น มีฉากหนึ่งที่เขียนในสคริปต์ว่า ‘เธอจูบเขา การจูบนั้นลึกซึ้งขึ้น เขาขยับมือลงบนเรือนร่างของเธอ เธอเขยิบเข้าใกล้เขามากขึ้น’ สิ่งที่เราทำก็คือค่อยๆ ย่อยแต่ละฉากออกเป็นส่วนๆ และคิดถึงการเคลื่อนไหวในแต่ละท่วงทำนอง หลังจากนั้นเราแปลความหมายออกมาเป็นท่าทาง แต่ยังไม่ได้กำหนดท่วงท่าแก่นักแสดง ในช่วงซ้อมบท ฉันจะคอยดูให้มั่นใจว่าในแต่ละท่วงท่ามีความชัดเจน มีการตกลงซึ่งกันและกัน และมีการยินยอมเมื่อนักแสดงต้องสัมผัสซึ่งกันและกัน นั่นทำให้นักแสดงวางใจได้ในระดับหนึ่ง เพราะพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและสามารถนำท่วงท่าและความเป็นตัวเองเพิ่มเติมลงในการแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

V: คุณได้พูดคุยกับ Daisy และ Paul อย่างไรในระหว่างที่แนะนำพวกเขาสำหรับการเข้าฉากร่วมกัน?
O: นักแสดงต้องการจะถ่ายทอดเรื่องราวออกมาอย่างดีที่สุด พวกเขาอยากจะตอบตกลง แต่เราต้องสร้างบรรยากาศที่จะทำให้พวกเขาไม่สามารถตอบตกลงเพียงเพราะมันเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำ เลนนี่ได้มีการพูดคุยกับพวกเขา ทุกคนได้อ่านนิยายเรื่องนี้ พวกเขาจึงรู้ว่าจะมีฉากเหล่านี้เกิดขึ้น แต่พวกเขาเห็นชอบด้วยหรือไม่? ตอนที่ฉันได้พูดคุยกับเดซี่และพอลเป็นครั้งแรก ในช่วงซ้อมบท ฉันอธิบายให้พวกเขารับทราบถึงข้อปฏิบัติของการร่วมฉากแนบชิด หลังจากนั้นเราทดลองแสดงฉากที่ให้ความรู้สึกเหมือนการขยับท่วงท่าของร่างกาย เมื่อขั้นตอนทุกอย่างจบลง พวกเขาออกไปพร้อมกับรับรู้ว่าทุกๆ อย่างจะได้รับการดูแลอย่างมืออาชีพ

V: ฉากเซ็กซ์ในรูปแบบใดที่แสดงออกมาได้ยากเย็นที่สุด?
O: เดซี่และพอลมีการเชื่อมโยงถึงกันที่งดงามจนเป็นการยากเมื่อตัวละครอย่างมารีแอนน์และคอนเนลล์มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้อื่น (หัวเราะ) เมื่อถึงเวลาที่พวกเราใกล้จะถ่ายทำกันเสร็จ เดซี่และพอลมีความเข้าใจร่วมกัน แต่สำหรับคนที่เข้ามาใหม่ คุณต้องทำความเข้าใจกับกระบวนการและวิธีที่จะแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ มันไม่ได้ยากอะไร แค่แตกต่างไปจากเดิม
V: มารีแอนน์ยังได้ทำการทดลองกับ BDSM และการมีเซ็กซ์อย่างยอมจำนน คุณบอกเล่าเรื่องราวในส่วนนี้อย่างไร?
O: เฮตตี้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธออยากให้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่สองคนที่ยินยอมในการแสดงออกซึ่งการละเล่นที่ว่านี้ มีการผูกรัดและความรุนแรงในระดับหนึ่ง และยังมีช่วงเวลาที่มันจบลง เฮตตี้ต้องการให้ฉากเหล่านั้นแสดงออกถึงความรู้สึกที่มารีแอนน์มีต่อตนเอง

V: คุณได้ร่วมงานในซีรีส์และภาพยนตร์อีกหลากหลายเรื่อง ทั้ง ‘Sex Education’ (Netflix), ‘Watchmen’ (HBO), และ ‘Gentleman Jack’ (BBC/HBO) การทำงานของคุณในแต่ละโปรเจกต์แตกต่างกันอย่างไร?
O: คุณต้องคำนึงถึงประเภทของหนัง (เช่น คอมเมดี้หรือดราม่า) และงานเขียนที่นำมาดัดแปลงเป็นซีรี่ส์หรือภาพยนตร์ ใน 'Gentleman Jack' นั่นเป็นการให้เกียรติผลงานของ Sally Wainwright และไดอารี่ของ Anne Lister ในส่วนของ 'Sex Education' มีการจัดเวิร์คช็อปพร้อมนักแสดงเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจจังหวะจะโคนในการปฏิสัมพันธ์ของสัตว์ มันคือเครื่องมือในการลงรายละเอียดของท่วงท่าเพื่อสร้างการเคลื่อนขยับร่างกายที่สอดคล้องกับตัวละครนั้นๆ ทั้งยังดึงนักแสดงออกจากประสบการณ์ส่วนตัว เป็นการแยกความเป็นส่วนตัวกับการทำงานอย่างมืออาชีพ

V: คุณได้สร้างกฎเกณฑ์ ‘การแนบชิดในกองถ่าย (Intimacy on Set)’ เป็นไปได้ไหมว่าไกด์ไลน์เหล่านี้จะได้รับการปฏิบัติจากทั่วโลก?
O: ฉันเสนอไกด์ไลน์นี้ในการประชุม Time’s Up ที่ประเทศอังกฤษและได้รับการสนับสนุนจาก Women in Film & Television นอกจากนั้นแล้ว Time’s Up ที่สหรัฐอเมริกาและ Directors UK ยังได้สร้างไกด์ไลน์ขึ้นมาเป็นของตัวเอง โดยที่ฉันเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกเขา ไกด์ไลน์เหล่านี้ได้รับความสนใจจากทั่วโลกและเป้าหมายของเราก็คือการทำให้กฎเกณฑ์เหล่านี้กลายร่างเป็นกฎหมาย มันควรจะเป็นสิ่งที่กองถ่ายทุกๆ ที่ต้องปฏิบัติตาม เช่นเดียวกับท่วงท่าการเต้นหรือการแสดงผาดโผน ฉากที่มีการแนบชิดกันของนักแสดงจะต้องมีกฎเกณฑ์การปฏิบัติที่ชัดเจน ถ้ามีฉากที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ ควรมีการว่าจ้างผู้ประสานงานด้านความชิดใกล้ มันไม่ควรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละกองถ่าย มันควรจะเป็นมาตรการขั้นพื้นฐานของการถ่ายทำ

‘Cloud Dancer’ คลาสสิก หรือ ว่างเปล่า? เมื่อ Pantone เลือกสีขาวครีมเป็นสีแห่งปี 2026

เจาะลึกปรากฏการณ์ Texas Chainsaw ที่เปิดโลกภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำจนทำรายได้มหาศาล

เจาะลึกภาพยนตร์เรื่อง Dune กับปรากฏการณ์ Standing Ovation ยาวนานถึง 8 นาที ณ เมืองเวนิส

