neng
LIFESTYLE

คุยกับ ‘เน๋ง-ศรัณย์’ แม้จะเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งในบทบาทหมอและนักแสดง เขาจะไม่หยุดพัฒนาตัวเองเด็ดขาด

"บางคนบอกว่าพี่เป็นไอดอลของหนูนะ หนูอยากเรียนสูงๆ เหมือนพี่ ผมฟังแล้วใจฟูมาก สิ่งที่เราทำมีค่าขนาดนั้นเลยหรือ" เน๋งกล่าว

     หากติดตามอินสตาแกรมของ 'เน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล' เราจะเห็นความมุ่งมั่นของเขาใน 2 เส้นทางของชีวิตคือการเป็นสัตวแพทย์และการเป็นนักแสดง ซึ่งเน๋งบอกว่าแม้จะเริ่มต้นจากศูนย์ แต่เขามีความตั้งใจจะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ จะไม่ยอมหยุดอยู่กับที่เด็ดขาด

neng

Vogue: แบ่งเวลารับงานแสดงและเป็นสัตวแพทย์อย่างไร

Neng: จริงๆ ไม่ได้ยากมากครับ เพราะในฝั่งธุรกิจที่ทำ Hato Pet Wellness Center มีหุ้นส่วนที่ช่วยกัน ถ้าช่วงไหนผมถ่ายละครก็ต้องฝากเขาดูแล เพราะอยากโฟกัสงานแสดงให้เต็มที่ ต้องบอกว่าผมไม่ได้แอ็กติ้งเก่งมาก ปกติจะรับละครทีละเรื่องอยู่แล้วเพื่อทำให้ดีที่สุด อย่างที่จะได้ดูกันในปีนี้คือ รักสุดท้ายยัยจอมเหวี่ยง เล่นคู่กับพี่บี น้ำทิพย์ครับ (ยิ้ม)



WATCH




V: สำหรับเน๋ง เสน่ห์ของการแสดงคืออะไร

N: ได้ทำในสิ่งที่ชีวิตนี้อาจไม่มีโอกาส อย่างผมชอบเรื่องยานพาหนะ แล้วในละครเรื่อง ภาตุฆาต เล่นเป็นนักบิน ได้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินรุ่นเก่า ซึ่งไม่รู้ว่าชาตินี้จะมีโอกาสแบบนั้นไหม แล้วละครแต่ละเรื่องจะมีแง่มุมแบบนี้ตลอด หรือฉากยิงปืน ในชีวิตจริงผมก็คงไม่หยิบปืนมายิงใคร การแสดงทำให้เราได้สวมบทบาทใหม่ๆ ตลอด นอกจากนี้ยังเป็นงานที่สร้างความสุขให้คนอื่นด้วย น้องๆ แฟนคลับเคยบอกว่าไม่ว่าเจอเรื่องอะไรไม่ดีมา พอดูละครที่เราเล่นจะรู้สึกมีความสุข และคิดว่าชีวิตไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย หรือบางคนบอกว่าพี่เป็นไอดอลของหนูนะหนูอยากเรียนสูงๆ เหมือนพี่ ผมฟังแล้วใจฟูมาก สิ่งที่เราทำมีค่าขนาดนั้นเลยหรือ ไม่เพียงทำให้ตัวเองมีความสุข แต่ยังเป็นกำลังใจให้คนอื่นได้ด้วย

V: วงการบันเทิงสอนอะไรที่สำคัญต่อชีวิตบ้าง

N: ผมคุยเรื่องนี้กับเพื่อนๆ นักแสดงหลายคนเราคิดคล้ายกันว่าการแสดงทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ยกตัวอย่างหากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีสักอย่าง สมัยก่อนผมอาจจะตัดสินเขาในฐานะบุคคลที่ 3 ว่าไม่น่าทำแบบนั้น แต่พอเป็นนักแสดง ผมไม่สามารถเปลี่ยนบทที่ได้รับ สิ่งที่ทำได้คือการเข้าใจตัวละครว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจทำหรือพูดแบบนั้น ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองในโลกจริงด้วยว่าทุกคนล้วนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง

V: ถ้าให้วิเคราะห์ตัวเองด้านการแสดง คิดว่าเติบโตจากวันแรกขนาดไหน

N: อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้เก่งแอ็กติ้งมากเพราะเริ่มต้นจากคนไม่รู้อะไรเลย เป็นนักเรียนสายวิทย์ที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ ที่ผ่านมาจึงเป็นเหมือนการค่อยๆ เดิน เก็บเกี่ยวประสบการณ์และคำวิจารณ์ต่างๆ มาพัฒนาตัวเอง หรือเวลาละครออนแอร์ ผมจะกลับมาดูว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง เพื่อให้เรื่องต่อไปไม่พลาดซ้ำเรื่องเดิมอีก ผมโชคดีได้เล่นกับนักแสดงรุ่นพี่เก่งๆ ตลอด และที่ประทับใจมากคือการวางตัวของพี่ๆ ที่ไม่ถือตัวทำให้น้องๆ เข้าฉากด้วยความสบายใจ อย่างตอนที่ผมเข้าวงการใหม่ๆ เวลามากองถ่ายไม่กล้าคุยกับใคร รู้สึกกังวลตลอดว่าถ้าเล่นช้าจะทำให้พี่ๆ โกรธไหม แต่ทุกคนที่เล่นด้วยน่ารักมาก เช่น พี่แอฟ ทักษอร พี่บี น้ำทิพย์ที่ให้คำแนะนำดีๆ และให้กำลังใจว่าเล่นให้เต็มที่เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงเป็นนักแสดงที่มีคุณภาพและมีคนชื่นชอบถึงวันนี้ แล้วมันส่งผลให้ผมอยากเป็นแบบนั้นด้วย อย่างเวลาเจอนักแสดงรุ่นน้อง ผมก็อยากเป็นรุ่นพี่ที่ดีแบบนั้นเหมือนกัน

ช่างภาพ : เอกรัชต์ อุบลศรี
สไตลิ่ง : ตะวัน ก้อนแก้ว

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VoguexOne31 #VogueCulture