ถือเป็นกระแสข่าวที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อล่าสุดบริษัท นาดาว บางกอก ออกมาประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ โดยจะสิ้นสุดการทำหน้าที่ในบทบาทของการเป็นสังกัดดูแลศิลปิน, การผลิตซีรี่ส์ และงานเพลง ในวันที่ 1 มิถุนายน 2022 นี้ สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าแฟนคลับศิลปินจำนวนมาก กระทั่งที่แฮชแท็ก #NadaoBangkok ในทวิตเตอร์กลับมาขึ้นเทรนด์อีกครั้ง และแน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งที่เหล่าแฟนคลับบนโลกโซเชียลมีเดียต่างพูดถึงเป็นเสียงเดียวกันก็เห็นจะหนีไม่พ้น ผลงานซีรี่ส์ระดับคุณภาพหลายเรื่องที่ช่วยขับเคลื่อน และยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโว้กขอรวบรวมซีรี่ส์เรื่องเยี่ยมที่ทุกคนห้ามพลาดของ นาดาว บางกอก และต้องตามไปดูให้ได้สักครั้งในชีวิต มาให้ได้เช็กลิสต์กันแล้วที่นี่

• ซีรี่ส์ Hormones วัยว้าวุ่น

     ซีรี่ส์เรื่อง Hormones วัยว้าวุ่น ทั้ง 3 ซีซั่น ที่ออกฉายในช่วงปี 2013 - 2015 เคยกลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญครั้งหนึ่งของประเทศไทย กับการหยิบยกเรื่องราวใต้พรมของนักเรียนวัยมัธยมที่ไม่เคยมีซีรี่ส์เรื่องไหนในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเคยพูดถึงอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้มาก่อน จนกระทั่งกลายเป็นที่ถกเถียงถึง 'ความเหมาะสม' และ 'ความไม่เหมาะสม' อย่างกว้างขวางในสังคมไทย และแม้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้จะต้องฝ่าฟันดราม่ามากมาย ทว่าสุดท้ายเราทุกคนก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้คือหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การตั้งคำถาม และเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในโรงเรียนระดับมัธยมจนกระทั่งปัจจุบัน

 

• ซีรี่ส์เรื่อง เลือดข้นคนจาง

     ไล่เรียงมาตั้งแต่โปรดักชั่นการถ่ายทำ, พล็อตเรื่องสุดเข้มข้น, ทีมนักแสดงระดับหัวกะทิทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ไปจนถึงเพลงประกอบละคร ทุกรายละเอียดที่พูดมานี้คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ซีรี่ส์เรื่อง 'เลือดข้นคนจาง' กลายเป็นซีรี่ส์ยอดนิยมของใครหลายๆ คนในปีที่ออกฉาย กับการหยิบยกเอาเรื่องราวของตระกูลคนจีนในประเทศไทยมาพูดถึง พร้อมผูกเรื่องแนวดราม่า และมีการดำเนินเรื่องให้เราได้ติดตามและคาดเดาจนจบเรื่องว่าใครคือฆาตกรตัวจริง โดยระหว่างทางของซีรี่ส์เรื่องนี้ยังสอดแทรกรายละเอียดวัฒนธรรม และมายาคติของคนจีนให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย

 

• ซีรี่ส์เรื่อง แปลรักฉันด้วยใจเธอ

     ซีรี่ส์ Y เรื่องนี้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า เป็นซีรี่ส์ Y น้ำดีอีกหนึ่งเรื่องของอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ที่แตกต่างและยกระดับวงการซีรี่ส์ Y ไทยให้สูงขึ้นกว่าเดิม โดดเด่นตั้งแต่พล็อตเรื่องแบบ Coming of Age ของคู่รักนักเรียนวัยมัธยมในซีซั่นแรก ที่เติบโตไปพร้อมๆ กันจนถึงช่วงวัยมหาวิทยาลัยในซีซั่นที่ 2 ไปจนถึงการแสดงของคู่นักแสดงหน้าใหม่ในตอนนั้นอย่าง 'บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล' และ 'พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร' ที่โด่งดังเป็นพลุแตก สู่การต่่อยอดเป็นศิลปินประจำค่าย Nadao Music จนถึงตอนนี้

 

• ซีรี่ส์ รักฉุดใจนายฉุกเฉิน

     การโคจรมาเจอกันระหว่าง 'ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่', 'ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์' และ 'สกาย-วงศ์รวี นทีธร' คือหนึ่งในปรากฏการณ์สำคัญที่ถูกพูดถึงอยู่พักใหญ่ กับการแสดงระดับมืออาชีพ นอกจากนี้เรื่องราวของซีรี่ส์เรื่อง รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นการเดินทางมาพบกันขององค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเรื่องราวพลังวิเศษมหัศจรรย์ ซึ่งได้รับคำชื่นชมว่าทำถึงทั้งสองด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการแพทย์ที่ทีมเขียนบททำการบ้านมาเป็นอย่างดี หรือแม้แต่เอฟเฟ็กต์ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมกราฟิกที่ดูไม่ประดักประเดิด นั่นจึงไม่แปลกใจที่ซีร่ี่ส์เรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งผลงานของ นาดาว บางกอก ที่แฟนคลับยังพูดถึงจนทุกวันนี้

 

• ซีรี่ส์ Project S

     อีกหนึ่งผลงานในฝั่งของซีรี่ส์ในสังกัดของ นาดาว บางกอก ที่ไม่พูดถึงเลยไม่ได้นั่นก็คือซีรี่ส์ชุด Project S ที่เป็นการผูกเรื่องขึ้นมาจาก 'กีฬา' ขึ้นมาเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น วอลเลย์บอล, แบดมินตัน, สเก็ตบอร์ด และยิงธนู  (นับเป็นซีรี่ส์เรื่องแรกๆ ในอุตสาหกรรมซีรี่ส์ไทยที่นำเสนอเรื่องราวของกีฬาอย่างจริงจัง) โดยแบ่งออกเป็น 4 เรื่องด้วยกัน อีกทั้งในแต่ละเรื่องยังมีเส้นเรื่องและรายละเอียดประเด็นสังคมน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้า หรือกระทั่งความสัมพันธ์ในแบบของพี่ชายที่มีน้องเป็นออทิสติก ที่นอกจากจะสร้างความสนุกให้กับผู้ชมแล้ว ยังสามารถสร้างความเข้าใจให้กับสังคมอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

     อย่างไรก็ตาม ซีรี่ส์ทั้ง 5 เรื่องที่โว้กคัดมานี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของผลงานชิ้นเยี่ยมของสังกัด นาดาว บางกอก เท่านั้น เพราะยังมีซีรี่ส์ ภาพยนตร์ และผลงานเพลงอีกมากมายภายใต้ร่มเงาของ นาดาว บางกอก แห่งนี้ ที่ช่วยเปิดโลกให้กับคนไทยหลายกลุ่ม อีกทั้งยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้พัฒนาไปอีกขั้น ที่โว้กขอการันตีให้คุณตามไปหาดูกันได้เลยตอนนี้ แล้วคุณจะเห็นด้วยกับเราว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่เกินจริง