McLaren เป็นรถสปอร์ตสัญชาติอังกฤษที่เรียกว่ากำลังสะสมไมล์ชื่อเสียงก็ว่าได้ เพราะถือเป็นแบรนด์เลือดใหม่ที่เปิดตัวในปี 1989 ไม่นานจากปัจจุบันมากนัก เรื่องราวเริ่มต้นที่ Bruce McLaren นักแข่งรถฟอร์มูลาวันชาวนิวซีแลนด์ได้ฟอร์มทีมแข่งรถขึ้นมาภายใต้ชื่อของเขาในปี 1963 ซึ่งบรูซนับว่าเป็นนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทีมก็มาถึง เมื่อ 7 ปีต่อมาบรูซดันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการทดสอบรถ สปอนเซอร์รายใหญ่อย่าง Ron Dennis นักธุรกิจชาวอังกฤษจึงก้าวเข้ามาสานต่อทีมแข่งของบรูซ จากนั้นไม่นานเขาก็เดินหน้าสร้างแบรนด์เพื่อผลิตรถสปอร์ตที่ดีที่สุดของโลกภายใต้ชื่อของผู้ก่อตั้งทีมที่เสียชีวิตไปแล้ว

ภาพ: Blimagasinet

     แม้ว่าแม็กลาเรนแบรนด์นี้จะผลิตรถสปอร์ตออกมาให้เน้นไปที่การใช้ขับบนถนนทั่วไป โดยใช้เทคโนโลยีพลังจากฟอร์มูลาวันมาเป็นฐานสำคัญในการผลิตก็ตาม แต่แม็กลาเรนเองก็ยังโด่งดังในสนามแข่งรถถึงความเร็วและความแรงด้วยเช่นกัน ทั้งบอดี้โหลดต่ำและโฉบเฉี่ยวพลิ้วไหวไปกับลม จึงพุ่งทะยานบนสนามได้อย่างเมามันส์เฉกเช่นรถแข่งแบรนด์อื่นๆ แต่ชื่อเสียงของแม็กลาเรนก็ไม่ควรหยุดแค่บนท้องถนนทั่วไป หรือว่าได้เห็นผ่านหน้าจอโทรทัศน์เล็กๆ ตามช่องกีฬาเท่านั้น เพราะแม็กลาเรนควรได้โชว์พลังที่ก้าวไปกว่านี้ และนั่นคือการได้ขึ้นบนหน้าจอเงินในฮอลลีวู้ดเพื่อโชว์ความเจ๋งของเครื่องยนต์และดีไซน์ที่แท้จริง ต่อไปนี้คือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ดึงศักยภาพที่แท้จริงของแม็กลาเรนออกมาได้เจ๋งสุดๆ 

ภาพ: Major Cineplex

Fast and Furious: Hobbs and Shaw (2019)

     ภาคแยกของภาพยนตร์แฟรนไชส์ชื่อดัง Fast and Furious อย่าง Hobbs and Shaw โดยภาคนี้เน้นไปที่ตัวละครที่เคยโผล่มาในภาคก่อนอย่าง Dwayne Johnson ในบทของ Luke Hobbs และ Jason Statham ในบทของ Deckard Shaw ในเรื่องนี้เรียกว่าแม็กลาเรนเป็นพระเอกของเรื่องก็ว่าได้ เพราะตัวละครของเรื่องขับมันตระเวนไปทั่วเมืองอังกฤษ และยังขับผ่านสำนักงานใหญ่ของแบรนด์แถว Surrey อีกด้วย แต่ฉากเด็ดของเรื่องต้องยกให้ตอนที่ทั้งคู่ควบเจ้าแม็กลาเรนรุ่น 720S หลบหนีการตามล่าจากผู้ร้ายด้วยการลอดใต้ท้องรถสิบล้อได้พอดีราวกับจับวาง เป็นฉากที่นอกจากจะโชว์สกิลการขับรถขั้นเทพของตัวละครชอว์แล้ว ยังได้โชว์ดีไซน์และความเท่ของรถอีกด้วย

ภาพ: IMCDB

Transformers: The Last Knight (2017)

     ภาพยนตร์ที่โชว์รถสวยๆ ไม่ได้มีแค่พล็อตการแข่งรถกันเท่านั้น เพราะแฟรนไชส์ Transformers เองก็ขนสารพันรถสวยรถเท่มาอวดโฉมเช่นเดียวกัน สำหรับภาค The Last Knight นั้นได้แม็กลาเรนรุ่น 570S คันสีแดงเพลิงมาเป็นอีกหนึ่งตัวชูโรงของเรื่อง โดยได้เจ้าหุ่นยนต์ขนาดเท่ามนุษย์ Cogman เป็นผู้ขับพา Sir Edmund Burton แสดงโดย Anthony Hopkins ที่ต้องหลบหนีจากการตามล่าจากฝั่งผู้ร้ายเมื่อพวกเขารู้ความจริงเกี่ยวกับเอเลี่ยนหุ่นยนต์ที่มาบุกโลก โดยแฟนๆ คงคาดหวังว่าจะได้เห็นแม็กลาเรนแปลงกายเป็นหุ่นยนต์เสียหน่อยหากก็ต้องผิดหวังเล็กๆ แต่อย่างน้อยก็ยังได้เห็นความโฉบเฉี่ยวของรุ่น 570S แบบใกล้ชิดติดขอบจอ เรียกว่าโดดเด่นท่ามกลางกรุงลอนดอนแบบสุดๆ

ภาพ: IMDB

Need for Speed (2014)

     อีกหนึ่งภาพยนตร์การแข่งรถที่แม้เรื่องราวอาจฟังดูเป็นพล็อตเดิมๆ ที่พอจะเดาทางออกได้ง่าย แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนที่รักรถสปอร์ตเป็นพิเศษอย่างไรก็ต้องยอมแพ้แล้วตีตั๋วเข้าไปดูรถแข่งที่มาพร้อมบอดี้สวยๆ ขับเร่งเครื่องแรงๆ แซงกันไปมาบนท้องถนน เพราะมันตื่นเต้นเร้าใจและเท่ไม่น้อยเราพอเข้าใจได้ ในภาพยนตร์เรื่องนี้เองแม้แม็กลาเรนรุ่น P1 จะโผล่มาในช่วงสุดท้ายของเรื่องในจังหวะไคลแมกซ์แถมยังโดนสอยด้านหลังจนต้องแพ้ราบคาบให้กับรถของพระเอกไปก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าแม็กลาเรนได้แอร์ไทม์ไปเต็มๆ ในการโชว์ความรวดเร็วของรถยามที่ขับฉวัดเฉวียนกันไปมาแบบไม่มีแกว่ง แถมยังได้บอดี้สวยๆ ที่พูดเลยว่ากินซีนคู่แข่งอีกสองคันที่เหลือแบบสบาย

ภาพ: HollywoodReporter

Rush (2013)

     Rush เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวจากชีิวิตจริงของนักแข่งรถฟอร์มูลาวันตัวพ่อระหว่าง James Hunt แสดงโดย Chris Hemsworth และ Niki Lauda แสดงโดย Daniel Brühl ในช่วงที่ชีวิตของทั้งคู่รุ่งเรืองถึงขีดสุด ทั้งคู่เป็นดั่งเส้นขนานบนถนนใหญ่ เป็นคู่แข่งคนสำคัญบนสังเวียนศึก และเป็นเพื่อนที่ผูกมิตรภาพไว้อย่างเหนียวแน่น ในเรื่องเล่าย้อนไปถึงช่วงการแข่งขันปี 1976 Formula 1 ตัวรถที่ใช้แข่งก็จะมีบอดี้และดีไซน์ที่เฉพาะตัว ทั้งล้อบดใหญ่ขนาบทั้งสองด้านและตัวเครื่องโหลดต่ำ ที่สำคัญคือในเรื่องยังขนแม็กลาเรนเวอร์ชั่นวินเทจของจริงให้ออกมาสูดอากาศข้างนอกอีกครั้ง รวมไปถึงตัวที่ทำเลียนแบบอย่างรุ่น M23 ที่ฮันต์เป็นผู้ขับหลังเข้าร่วมกับทีมแข่งรถแม็กลาเรนด้วย

     นอกจากนี้แม็กลาเรนยังโผล่มาให้เห็นผ่านตาไปมาในภาพยนตร์อีกหลายเรื่องทั้ง Mission Impossible: Rogue Nation (2015) หรือจะเป็นในเรื่อง Tomb Raider (2018) ก็ตาม นับว่ารถสปอร์ตคันหรูแบรนด์นี้ไม่มีทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง มาดูกันว่าต่อจากนี้แม็กลาเรนจะไปโลดแล่นบนภาพยนตร์เรื่องไหนให้เราต้องตื่นเต้นไปกับความเท่ของเขาอีกบ้าง งานนี้ต้องคอยติดตาม