นับเป็นอีกหนึ่งวง K-pop ที่สามารถเรียกความสนใจ และกลายเป็นกระแสตั้งแต่วันแรกที่มีการประกาศรวมตัวกันออกมา สำหรับวง GOT หรือ ‘Girls On Top’ เกิร์ลกรุ๊ปที่เกิดจากการรวมตัวกันของเหล่าศิลปิน ‘ตัวแม่’ จากหลากหลายวง ทั้งหมด 7 คนด้วยกัน ได้แก่ โบอา, แทยอน และ ฮโยยอน จากวง Girls Generation, เวนดี้ และ ซึลกิ จากวง Red Velvet, คาริน่า และ วินเทอร์ จากวง Aespa ภายใต้สังกัด SM Entertainment ที่สร้างยูนิตเฉพาะกิจนี้ขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์สำคัญนั่นคือ การเป็นตัวแทนผู้หญิงในสโลกสมัยใหม่ ที่เพิ่งปล่อยซิงเกิ้ลสุดพิเศษชื่อว่า ‘Step Back’ ออกมาให้ได้ฟังต้อนรับปีใหม่ พร้อมการแสดงสเตจแรกในวันที่ 3 มกราคม 2022 ที่ผ่านมา

     ทว่ากระแสตอบรับที่ได้กลับมานั้น กลับไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เมื่อมีหลายคนมองว่า เพลงของพวกเธอสะท้อนแนวคิดแบบ ‘เหยียดเพศหญิง’ และล้าสมัย ไม่เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ที่วางเอาไว้...

 

     ประเด็นดังกล่าวถูกสังเกต และหยิบยกไปตีแผ่โดยสื่อหลายหัว รวมทั้งเหล่าแฟนคลับที่ได้ฟังเพลงดังกล่าว และพบว่าเนื้อหาบางส่วนมีการเหยียดผู้หญิงด้วยกันเอง จนนำไปตั้งเป็นกระทู้ในโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อถามความคิดเห็นของแฟนคลับคนอื่นๆ โดยท่อนที่มีปัญหาและกลายเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้ก็คือ เนื้อเพลงที่สะท้อนภาวะการแย่งชิงผู้ชายคนเดียวกัน โดยเนื้อเพลงดังกล่าวเป็นตัวแทนของผู้หญิงฝ่ายหนึ่งที่กำลังถูกท้าทาย และแย่งชายคนรักของเธอไป โดยผู้หญิงฝ่ายตรงข้าม เนื้อหาบางส่วนจึงเป็นเหมือนการที่ผู้หญิงฝ่ายหนึ่งกำลังด่าทอ เสียดสี และต่อสู้กับผู้หญิงด้วยกันเอง

     จากหลายคอมเมนต์ในกระทู้ดังกล่าวมองว่า เนื้อเพลงแบบ “ฉันหวง ฉันมาทวงแฟนของฉันคืน” แบบนี้เป็นเรื่องล้าสมัย และไม่ได้เข้าข่าย Empowered Women เลยแม้แต่น้อยในยุคสมัยนี้ อีกทั้งการแต่งเพลงด้วยเนื้อหาแบบนี้ก็เหมือนเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าผิดแผกไป ปล่อยให้ผู้ชายกลายเป็นตัวละครบุคคลที่สามที่ลอยตัวเหนือปัญหา และปล่อยให้ผู้หญิงสองคนตบตีแย่งชิงกันเอง ไม่ต่างจากพล็อตละครน้ำเน่าที่แสนจะวนเวียน และตกยุคสมัยไปแล้วในเวลานี้

     ไม่เพียงเท่านั้น ผู้แสดงความคิดเห็นหลายรายในกระทู้ดังกล่าวยังได้วิจารณ์การสร้างยูนิตนี้ขึ้นมาว่า เป็นการรวมตัวของศิลปินที่มีความสามารถระดับตัวท็อป แต่กลับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เนื้อเพลงกลับไม่ได้ส่งเสริมให้ยูนิตนี้ติดตลาด หรือน่าสนใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย กลับฉุดให้ยูนิตตัวแม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักด้วยความย้อนแย้งที่เกิดขึ้น

 

     เป็นเรื่องน่าสนใจที่โว้กอยากจะชวนทุกคนได้ตั้งคำถามกันต่อไปว่า ในยุคที่การเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีนั้นเข้มข้นขึ้นทุกวินาทีทั่วโลก การพายเรือวนอยู่ในอ่างเฉกเช่นการนำเสนอเนื้อเพลงผู้หญิงตบตีกันเองเพื่อแย่งผู้ชายนั้น เป็นอุปสรรคอย่างไรต่อการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิของผู้หญิง และความบันเทิงที่มีเนื้อหาแบบนี้ยังขายได้อยู่อีกหรือไม่ หรือจริงๆ แล้วเนื้อหาที่นำเสนอออกมานั้นก็เป็นเพียงแค่กระจกที่สะท้อนให้เห็นภาวะความเป็นมนุษย์คนหนึ่งๆ ที่มีทั้งอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง เท่านั้น...