กลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามองอีกครั้งเมื่อมีข่าวลืออย่่างหนาหูว่าศิลปินหนุ่มสุดฮอต 'G-Dragon' แห่งวง BIGBANG อาจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด YG Entertainment พร้อมหันไปซบอก Warner Music Records ค่ายเพลงชื่อดังในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะยังไม่มีการยืนยันข่าวลือนี้จากฝั่งวายจี ทว่าสังเกตได้จากที่จีดราก้อนโพสต์ภาพของตัวเองลง SNS ส่วนตัวโดยมีภาพหนึ่งที่เขายืนหน้าบิลบอร์ดซึ่งเขียนคำว่า "WELCOMES G-DRAGON" จากค่ายวอร์นเนอร์ ทำให้แฟนๆ ต่างคิดและแสดงความคิดเห็นเชื่อมโยงย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่วายจีปล่อยลิสต์ศิลปินในการรายงานประจำไตรมาสแต่กลับไม่มีชื่อของจีดราก้อนปรากฏอยู่ในครึ่งปีหลัง จึงกลายเป็นที่มาของข่าวลือว่าจีดราก้อนอาจไม่ไปต่อกับต้นสังกัดเดิมแล้ว

 

ภาพบนบิลบอร์ดที่ค่ายดังจากสหรัฐอเมริกา Warner Music Records กล่าวต้อนรับศิลปินหนุ่ม G-Dragon / ภาพ: NAVER

     ทั้งนี้สื่อเกาหลียังเผยอีกว่า จริงๆ แล้วถ้าจีดราก้อนและทุกคนเลือกที่จะต่อสัญญากับสังกัดเดิม เหล่าแฟนๆ คงจะได้ฟังเพลงในอัลบั้มสุดท้ายของบิ๊กแบง เพราะเขาทำผลงานเพลงเสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือแค่รอเวลาปล่อยออกมาก็เท่านั้น แต่ยังไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดว่าเหตุใดวายจีถึงไม่ประกาศการคัมแบ็กอัลบั้มของพวกเขาอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้สมาชิกในวงต่างทยอยออกจากค่ายเพื่อไปทำกิจกรรมส่วนตัว จนท้ายที่สุดก็เหลือจีดราก้อนเพียงหนึ่งเดียวและอาจออกจากค่ายตามเพื่อนร่วมวงไป นี่จึงเป็นประเด็นที่ผู้คนต่างคาดเดาว่าอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้จีดราก้อนเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับวายจี และหากข่าวลือเป็นความจริงเหล่าแฟนๆ คงไม่มีโอกาสได้ฟังผลงานเพลงจากอัลบั้มนี้อีกแล้ว อาจต้องรอติดตามผลงานของเขาภายใต้สังกัดใหม่ได้เลย 

     สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งสิ่งคือวายจีเอ็นเตอร์เทนเมนต์จะต้องพบกับผลกระทบอย่างไรบ้าง เพราะต้องยอมรับว่าศิลปินเบอร์ใหญ่จากค่ายมีแววที่จะไม่ต่อสัญญาเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ลิซ่า เจนนี่ และจีซู แห่งวง Blackpink ก็มีข่าวลือเช่นกันว่าจะเลือกไปทำกิจกรรมตามเส้นทางของตัวเอง มีเพียงโรเซ่ที่ยังจะร่วมงานกับค่ายต่อไปในอนาคต (ตามไปอ่านบทความเกี่ยวกับการต่อสัญญาของวง Blackpink ต่อได้ที่ 'ลือสะพัด! 'โรเซ่ BLACKPINK' ต่อสัญญาแค่คนเดียว ส่วนเจนนี่, ลิซ่า และจีซู อาจเซ็นสัญญากับค่ายอื่น') หรือถ้าจีดราก้อนเลือกที่จะเป็นศิลปินภายใต้การบริหารของค่ายวอร์นเนอร์จริงๆ ก็น่าติดตามไม่แพ้กัน เพราะอาจมีแนวเพลงที่แตกต่างไปจากเดิม และอาจตีตลาดเพลงทั่วโลกได้มากกว่าที่ผ่านมาก็เป็นได้ วายจีอาจต้องเร่งปั้นศิลปินสายเลือดใหม่หรือมองหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อกู้สถานการณ์ในตลาดเพลงให้กลับมาคงที่อีกครั้ง