การเดินทางของนิตยสารโว้กประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 เตรียมฉลองครบรอบ 10 ปีในงาน "VOGUE 10th Anniversary Fest" ในวันที่ 10-11 มีนาคม 2023 ณ ลาน Central World Square ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานเฉลิมฉลองแห่งทศวรรษ เนรมิตลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ให้กลายเป็นถนนสำหรับคนแฟชั่น มารวมตัวร่วมกิจกรรมสนุกๆ ได้ตลอดทั้งงาน ทั้งแฟชั่นโชว์ในรูปแบบพาเหรด คอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซิฟแบบใกล้ชิดกับศิลปิน ร้านค้าสุดเก๋ที่คัดมาสำหรับคนสายแฟ(ชั่น)โดยเฉพาะ และไฮไลต์ของงานที่พลาดไม่ได้คือร้านอาหารและเครื่องดื่มมากกว่า 10 ร้าน คัดสรรเมนูพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ชมลิสต์ร้านทั้งหมด 12 ร้านได้ที่นี่
1 / 12
ร้าน “Amatissimo” กับเมนู “Wheelie Rollie Croissant รส Inspired by ISPAHAN”
เปิดมากันที่ร้านแรกกับร้าน Amatissimo ร้านที่มีชื่อเสียงด้านครัวซองต์และเบเกอร์รี่แสนอร่อย ที่เจ้าของร้านมีประสบการณ์เรียนการโรงแรมและการทำอาหารจาก Le Cordon Bleu ได้นำเมนูสุดพิเศษ Wheelie Rollie Croissant รส Inspired by ISPAHAN กับครัวซองต์รูปแบบใหม่ที่มีชื่อเสียงดังไกลไปทั่วโลกมาให้ได้ลิ้มลองในงานนี้แล้ว
2 / 12
ร้าน “Cagatte” กับเมนู “Coldcuts”
ร้านต่อมาคือร้าน Cagatte ร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้วัตถุดิบคุณภาพดีได้นำเมนูโคลด์คัตที่เคยเป็นกระแสมาให้ทุกคนได้รับประทานกัน ทางร้าน Cagette ได้รังสรรค์เมนูนี้ตามต้นฉบับจากฝรั่งเศส เป็นเมนูที่ถูกรังสรรค์ด้วยความละเอียดอ่อนและประณีต เหมาะสำหรับรับประทานคู่กับไวน์ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับงานครบรอบ 10 ปีของนิตยสารโว้กประเทศไทย
3 / 12
ร้าน “Can Cafe” กับเมนู “Exclusive Drink”
พบกับเมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษจาก Can Cafe x Vogue Thailand กับกระป๋องอะลูมิเนียมพร้อมฝาปิดสนิทพิมพ์ลายเฉพาะงาน VOGUE 10th Anniversary Fest เป็นกระป๋องที่สะอาด ปลอดภัย และช่วยลดขยะ นอกจากนี้ยังมีลวดลายที่สวยงามไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้นอกจากในงานนี้เท่านั้น
4 / 12
ร้าน “Cholos” กับเมนู “Crispy Chipotle Enchiladas”
ร้าน Cholos ร้านอาหารเม็กซิกันก็ไม่น้อยหน้ากับเมนู Crispy Chipotle Enchiladas ทาโก้ทอดกรอบราดด้วยซอสสไตล์เม็กซิกัน ซึ่งทางร้านได้ออกแบบเมนูใหม่ตามสไตล์โว้ก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความล้ำสมัยของโว้กที่ขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมแฟชั่น ออกมาเป็นการตกแต่งจานที่มีสีสันและรูปแบบที่สดใสเพื่อสะท้อนถึงศิลปะและแฟชั่นในเมือง การค้นหาแรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต ภาพกราฟิตี้ การใช้ชีวิตยามค่ำคือแสงไฟในเมืองให้สมกับการที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
5 / 12
ร้าน “Jamie’s Grill” กับเมนู “Beef Stew Mini Pie & Beef Tongue Stew Mini Pie”
ถัดมาที่ร้าน Jamie’s Grill ร้านเด็ดที่สายเนื้อห้ามพลาด ได้รังสรรค์เมนูที่ทุกคนมีความคุ้นเคยแต่สามารถอยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย เหมือนกับแฟชั่นที่ถึงแม้จะมีอะไรแปลกใหม่เข้ามาแต่สุดท้ายสิ่งเดิมๆ ก็ยังวนกลับมาได้รับความนิยมอยู่เสมอ กับเมนู Beef Stew Mini Pie & Beef Tongue Stew Mini Pie พายชิ้นเล็กพอดีคำ รสชาติคลาสสิกนุ่มนวลถึงเครื่อง ใช้เวลาในการปรุงถึง 3 วันเพื่อโว้กโดยเฉพาะ
6 / 12
ร้าน “Jing Jing” กับเมนู “ไอศกรีมรสกะทิท็อปปิ้งด้วยกล้วยไข่เชื่อม”
สายของหวานต้องเดินตรงมาที่ร้าน Jing Jing ร้านขายไอศกรีมชื่อดังได้นำเมนูสุดพิเศษมาขายสำหรับงานนี้เท่านั้น กับเมนูไอศกรีมรสกะทิท็อปปิ้งด้วยกล้วยไข่เชื่อม ที่รับประทานคู่กันแล้วเข้ากันอย่างกลมกล่อม และยังมีเมนูไอศกรีมที่น่าสนใจอีกมากมายให้มาชิมกันในงาน
7 / 12
ร้าน “Larder” กับเมนู “Canapé”
ต่อกันที่ร้าน Larder ที่ได้รังสรรค์เมนูอาหารเช้าที่สามารถรับประทานตอนไหนก็ได้ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯ กับ Canapé คำเล็กพร้อมรับประทาน เน้นที่รายละเอียดของรสชาติอาหารและคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีเยี่ยมมาให้ทุกคนได้ชิมกัน
8 / 12
ร้าน “Luggaw” กับเมนู “มะยงชิดปั่น และมะยงชิดปลาร้าแซ่บ”
ร้านผลไม้ชื่อดังอย่าง 'ร้านลูกก๊อ' ก็ไม่พลาดรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มภายในงานนี้ด้วย ซึ่งมะยงชิดมาจากผลผลิตเกษตรกรท้องถิ่นของไทย พร้อมเสิร์ฟเมนูพิเศษ 2 เมนู คือ เมนูมะยงชิดปั่น และมะยงชิดปลาร้าแซ่บเพื่อต้อนรับฤดูร้อน มะยงชิดปั่นรสชาติหวานอมเปรี้ยว รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น ส่วนใครต้องการความแซ่บต้องลองเมนูมะยงชิดปลาร้าแซ่บ มะยงชิดเนื้อกรอบคว้านเย็นๆ ราดน้ำปลาร้าและข้าวคั่วสูตรเฉพาะของลูกก๊อ
9 / 12
ร้าน “Pani Sandwich” กับเมนู “Akami Twist”
ร้าน Pani Sandwich ได้รังสรรค์เมนูภายใต้คอนเซปต์ Fashion for all โดยได้ทำออกมาเป็น Bagel ที่มีชื่อเรียกว่า Akami Twist ตัวไส้เป็นปลาทูน่า Akami และไส้ที่มีส่วนผสมอีกมากมาย ราดด้วยซอสสูตรพิเศษจากทางร้าน ราวกับรับประทาน Omakase แต่เราไม่รู้ว่าในคำนั้นจะมีวัตถุดิบอะไรบ้าง
10 / 12
ร้าน “The Meat Pan” กับเมนู “Holy Chuckkkk Wagyu Burge”
สุดยอดเบอร์เกอร์จากร้าน The Meat Pan กับเมนู Holy Chuckkkk Wagyu Burger เนื้อวากิวบดผสมกับแองกัสหอมละมุน ชุ่มฉ่ำ แต่ยังคงความเข้มข้นของรสชาติ ประกบด้วยขนมปังบริยอชสูตรพิเศษโดยเป็นบริยอช Sour dough จากยีสต์ธรรมชาติที่ทางร้านเลี้ยงเอง พร้อมซอสสูตรพิเศษ และ Onion marmalade ที่เชฟใช้เวลาทำถึง 4 ชั่วโมง
11 / 12
ร้าน “Uglydough” กับเมนู “Am I HawaiiAN?”
ถัดมาที่ร้าน Uglydough กับเมนู Am I HawaiiAN? พิซซ่าที่มีครบสี เพิ่มความสดชื่นสู้กับหน้าร้อนด้วย Pine Apple มีความสดชื่นจากซอสพิซซ่ารสสับปะรด ท็อปปิ้งด้วยแฮมและพริกหยวกหลากสี สดใส อบอวลไปด้วยกลิ่นของความสดชื่นและกลิ่นหอมของแฮมที่เกรียมด้วยไฟ
12 / 12
ร้าน “Guten German Sausages” กับเมนู “Hot dog spicy kimchi”
ส่งท้ายความอร่อยไปกับร้าน Guten German Sausages นำเสนอเมนู Hot dog spicy kimchi ขนมปังเชียบัตต้าและไส้กรอกพริกขี้หนู ราดด้วยซอส Spicy mayo และมัสตาร์ด รับประทานคู่กับกิมจิ ไส้กรอกพริกขี้หนู ที่มีพริกขี้หนูสวนรสเผ็ดจัดจ้าน ตัดเปรี้ยวเค็มด้วยกิมจิ ความมันจาก Spicy mayo จะให้รสชาติคล้ายกับยำของไทย
สำหรับผู้ที่สนใจมาตะลุยรับประทานของอร่อยในงานและร่วมกิจกรรมสนุกๆ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถเข้าร่วมงานเปิดในวันที่ 10 มีนาคม 2023 ตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป โดยลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/Vogue10THReg (ตรวจสอบเงื่อนไขการลงทะเบียนและการเข้าร่วมงานด้านล่าง) และสามารถ Walk-in เข้าร่วมงานได้ในวันที่ 11 มีนาคม 2023 ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไป
เงื่อนไขการลงทะเบียนร่วมงาน
- ผู้ที่จะเข้าร่วมงานในวันที่ 10 มีนาคม 2023 จะต้องทำการลงทะเบียนก่อนเท่านั้น
- สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2023 ผ่านทาง www.vogue.co.th
- หากมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทางโว้กขอสงวนสิทธิ์จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมงานตามความเหมาะสม โดยจะยึดสิทธิ์ในการเข้าร่วมงานตามลำดับผู้ที่มาลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่หน้างานเท่านั้น
- วันที่ 11 มีนาคม 2023 บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน
‘Cloud Dancer’ คลาสสิก หรือ ว่างเปล่า? เมื่อ Pantone เลือกสีขาวครีมเป็นสีแห่งปี 2026
Netflix ปิดดีลเข้าซื้อ Warner Bros. สำเร็จ! แต่กลับทำให้คอหนังทั่วโลกหวาดกลัว
Anne Hathaway สวมบทป๊อปสตาร์! ที่เผชิญภาวะสั่นคลอนทางตัวตน ในภาพยนตร์ ‘Mother Mary’
