bright
LIFESTYLE

เปิดสัมภาษณ์ 'ไบรท์-นรภัทร' กับการพัฒนาตัวเองในฐานะนักแสดงที่เขาเลือกเดิมพันด้วยชีวิต

"สิ่งเดียวที่ทำได้ในวันนี้คือต้องพัฒนาให้เร็ว เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผมเก่งให้ได้ และตั้งใจว่าอีก 5 ปีข้างหน้าอยากได้รางวัลการแสดงสักอย่าง" ไบรท์กล่าว

     เมื่ออ่านบทสัมภาษณ์นี้จบ เราเชื่อว่าคุณจะรัก "ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์" มากขึ้น ทั้งความเป็นธรรมชาติ ตรงไปตรงมา และความพยายามที่อยากจะพัฒนาตัวเองในฐานะนักแสดงบนเส้นทางที่เขาเลือกเดิมพันด้วยชีวิต

bright

Vogue: เผลอแป๊บเดียว ไบร์ทเป็นนักแสดงมา 5 ปีแล้ว จำตัวเองในวันแรกได้ไหม

Bright: จำได้ครับ (ยิ้ม) ตอนนั้นเหมือนเด็กหลงทาง เดินแบบไม่มี Google Map รู้แค่ว่าจุดหมายหน้าตาประมาณนี้ แต่ก็เดินไปมั่วๆ จนผ่านมา 3-4 ปีจึงเริ่มจับทางได้บ้าง ถึงจะใช้เวลานานแต่คิดว่าคุ้มค่านะ

V: จุดหมายที่วางไว้ในวันแรกคืออะไร

B: ง่ายๆ เลยครับ คือเล่นละครให้ดี เป็นเรื่องเดียวที่สนใจในตอนนั้น เพราะตอนเล่นละครเรื่องแรก (ดอกแก้วกาหลง) ผมเล่นแย่มาก คนอื่นอาจบอกว่าไม่เป็นไร เพิ่งเรื่องแรกเอง แต่ผมไม่ให้อภัยตัวเองเลย แต่ความที่มันผ่านมาแล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือผมต้องพัฒนาให้เร็วเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผมเก่งให้ได้ นี่คือความตั้งใจในวันนี้แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายนะครับ แค่เริ่มจับทางได้ และตั้งใจว่าอีก 5 ปีข้างหน้าอยากได้รางวัลการแสดงสักอย่าง ผมจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะเลือกเดิมพันกับเส้นทางนี้แล้ว



WATCH




V: อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เด็กหลงทางในวันแรกกลายเป็นคนที่ทุ่มเทมากขนาดนี้

B: คงเพราะเริ่มเข้าใจว่าการแสดงคืออะไร ผมยังจำความรู้สึกตัวเองตอนแรกๆ ได้ว่าอยากแสดงให้ดีแค่ไหน แต่เราทำไม่ได้ พอวันนี้เริ่มรู้ทางแล้ว ก็พยายามวิ่งครับ ไม่เดินแล้ว กลัวตามคนอื่นไม่ทัน (หัวเราะ) ผมโชคดีที่ได้เล่นละครกับคนเก่งๆ เยอะ ผมอดถามไม่ได้หรอกว่าซีนเมื่อกี้พี่ทำอย่างไรครับ หรือถ้าไม่กล้าถามก็จะไปนั่งอยู่หน้ามอนิเตอร์ อย่างตอนเล่นเรื่อง หีบหลอนซ่อนวิญญาณ เฌอเบลล์ (ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์) เป็นคนที่เล่นคมและใส่อารมณ์แรงมาก ในขณะที่มะปราง (อลิสา ขุนแขวง) ก็มีพลังเยอะ ผมยกเก้าอี้ไปนั่งเฝ้าจอมอนิเตอร์เพื่อดูเลยว่าเขาเล่นอย่างไร รวมถึงคุยกับพี่เต๋า (สมชาย เข็มกลัด) และอาหมู (กลศ อัทธเสรี)ที่ช่วยแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำที่ดีมาก

V: อาชีพนักแสดงเปลี่ยนชีวิตไบร์ทขนาดไหน

B: เยอะมากครับ อันดับแรกคือทำให้คุณภาพชีวิตเราดีขึ้น และเรื่องที่สำคัญมากคือทัศนคติ เมื่อก่อนผมไม่รู้จักคำนี้ด้วยซ้ำ จนได้ฟังพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) พูดกรอกหูทุกวันว่าต้องมีทัศนคติและเป้าหมาย ช่วงแรกๆ สารภาพว่าเคยคิดว่าพูดอะไรนักหนาเนี่ย (หัวเราะ) คือตอนนั้นยังไม่เข้าใจ จนวันหนึ่งเหมือนเปิดสวิตช์ขึ้นเองว่า อ๋อ...มันดีนี่หว่า ผมมาเข้าใจจริงๆ ตอนทำการบ้านเล่นละครว่าตัวละครมีทัศนคติแบบนี้ เขาเดินเป็นสเตป หนึ่ง สอง สาม เพื่อไปถึงเป้าหมายนี้ แล้วจู่ๆ ผมก็ตกตะกอนได้เองว่าชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้ ทัศนคติที่ดีจะช่วยให้เราไปถึงสิ่งที่ตั้งใจไว้ ผมได้แนวคิดพวกนี้จากการเล่นละครล้วนๆ กองถ่ายทำให้ผมค่อยๆ โตขึ้น ทั้งบทบาทนักแสดงและตัวตนไปพร้อมกัน

V: ปีนี้เราจะได้เห็นงานอะไรของไบร์ทบ้าง

B: มีละคร 2 เรื่องครับ พิษรักรอยอดีต กับ ใต้หล้า นอกจากนี้ก็มีโปรเจกต์พิเศษ “Mission Unscripted ภารกิจชีวิตนอกจอ” ที่รวมพระเอก 5 คน (ฟิล์ม เน๋ง ตงตง ตรี ไบร์ท) ไปทำภารกิจที่ไม่มีสคริปต์ ทุกคนจะเห็นเราในมุมที่เป็นธรรมชาติมากๆ ไม่รู้คนดูจะชอบไหม แต่ผมเป็นตัวเองเต็มที่ เพราะวางเส้นทางในวงการบันเทิงไว้อีกนาน จึงเลือกเป็นตัวเองตั้งแต่วันแรก หวังว่าทุกคนจะสนุกกับรายการนะครับ (ยิ้ม)

ช่างภาพ : เอกรัชต์ อุบลศรี
สไตลิ่ง : ตะวัน ก้อนแก้ว

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VogueCulture #VoguexOne31