“มังกรหยก” เป็นนิยายชุดไตรภาคของเจ้าของปากกานามว่า “กิมย้ง” และถูกนำมาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์และซีรี่ส์จำนวนหลายครั้ง นิยายในชุดนี้ประกอบด้วย มังกรหยก ภาค 1, มังกรหยก ภาค 2 และดาบมังกรหยก มังกรหยกนับเป็นนิยายกำลังภายในท่องยุทธภพที่โด่งดังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และครองใจผู้อ่านและผู้ชมมายาวนานมากกว่า 50 ปี ปัจจุบันนิยายชุดนี้ก็ยังได้รับการรีเมกในเวอร์ชั่นใหม่อยู่เรื่อยๆ เรียกว่าต่อให้นำมาทำอีกสักกี่เวอร์ชั่นก็ยังมีแฟนๆ ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่ารอรับชมและตามซื้อแผ่นเพื่อเก็บสะสมอยู่ดี จุดไหนกันที่ทำให้ซีรี่ส์ชุดนี้ติดตราตรึงใจผู้คนได้ยาวนานมากขนาดนี้ เสน่ห์ของซีรี่ส์กำลังภายในชุดนี้อยู่ที่ตรงไหน ในบทความนี้เราจะพาไปดูกัน 

มังกรหยกภาคแรก เวอร์ชั่น 1983 / Pinterest

     เริ่มต้นด้วยเรื่องราวในแต่ละภาคกันก่อน มังกรหยกในช่วงสองภาคแรกนั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์ซ้องใต้ของประเทศจีน เป็นช่วงที่บ้านเมืองทรุดโทรมในทุกๆ ด้าน ประชาชนยากแค้นแสนเข็ญ เหล่าขุนนางฉ้อฉลกดขี่กันเอง จุดเริ่มต้นของมังกรหยกอยู่ที่ตัวละครหลักอย่าง “ก๊วยเจ๋ง” เด็กหนุ่มที่ไปเติบโตในดินแดนของประเทศมองโกล ภายใต้บุญบารมีของเจงกิสข่านผู้ยิ่งใหญ่ในยุคนั้น ตัวเขาได้เดินทางกลับสู่ยุทธจักรจีนที่เป็นมาตุภูมิเพื่อฝึกฝนกลยุทธ์ต่างๆ และได้กู้ชาติบ้านเมืองจีนของเขาเอง 

     เขามีวิทยายุทธสูงและมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ เพราะก๊วยเจ๋งได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากหลายสำนัก ทั้งวิชาสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรวิชาคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง เป็นต้น แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นพวกปัญญาทึบ เพราะเป็นคนซื่อและมีเมตตามากเกินไป ในขณะฝึกวิทยายุทธเขายังได้พบรักกับ “อึ้งย้ง” ที่อาศัยอยู่ที่เกาะดอกท้อ เธอเป็นหญิงสาวแสนฉลาดและมีไหวพริบเป็นอย่างสูง ซึ่งอึ้งย้งเองท้ายที่สุดแล้วยังได้กลายมาเป็นประมุขของพรรคกระยาจกอีกด้วย

มังกรหยกภาค 2 เวอร์ชั่น 2006 / Pinterest

     ตามมาด้วยภาคที่สองที่ใช้ชื่อว่ามังกรหยก ภาค 2 เรื่องราวตามติดไปที่ตัวละคร “เอี้ยก๊วย” บุตรชายของ “เอี้ยคัง” ผู้เป็นเพื่อนสนิทของก๊วยเจ๋ง (พระเอกในภาคแรก) เรื่องราวเล่าต่อกันมาโดยมีตัวละครจากภาคแรกโผล่มาสมทบด้วยตลอด เอี้ยก๊วยเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องปากกัดตีนถีบด้วยตัวเองเพราะพ่อตายตั้งแต่ตัวเขายังไม่เกิด และแม่สุดที่รักเองก็มาด่วนจากไปในวัยที่เขายังเด็กนัก ในภายหลังที่ก๊วยเจ๋งมาเจอเข้าจึงรับเอี้ยก๊วยไปเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน เอี้ยก๊วยเองก็ได้รับการถ่ายทอดวิทยายุทธมาจากหลายสำนัก รวมไปถึงจากอาจารย์หญิง “เซียวเหลงนึ่ง” ที่ท้ายที่สุดยังได้กลายมาเป็นคนรักกัน

     ตัวเอี้ยก๊วยนั้นเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี มีไหวพริบในการเอาตัวรอด และมีวิทยายุทธสูง เขาเรียนรู้วิชาหลากหลายแขนงทั้งวิชาจากคัมภีร์เก้าอิม วิชาสำนักชวนจิน รวมไปถึงเรียนวิชาจาก “อาวเอี้ยงฮง” และ “อั้งฉิกกง” ภาคที่ 2 นับว่ามีการหยิบมารีเมกจำนวนน้อยครั้งกว่าภาคแรกและภาคสาม เพราะแม้เอี้ยก๊วยนั้นแม้จะเก่งในเชิงยุทธ แต่สิ่งที่ทำให้ตัวละครนี้โด่งดังมากที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องของความรักที่มั่นคงต่ออาหญิงของเขา ว่าแม้ตัวเขาจะมากเสน่ห์และมีผู้หญิงรุมล้อมขนาดไหน แต่เขานั้นมีรักมั่นคงและใจเดียวต่ออาหญิงของเขาเป็นที่สุด

ดาบมังกรหยก เวอร์ชั่น 2003 / Pinterest

     ภาคที่สามคือดาบมังกรหยก เป็นภาคที่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องปะติดปะต่อกับสองภาคแรก เพราะพื้นเรื่องเกิดขึ้นหลังจากเรื่องมังกรหยกมาแล้วหลายร้อยปี ซึ่งในภาคนี้เองเกิดขึ้นในช่วงสมัยปลายราชวงศ์หยวน ตัวละครจึงไล่มาสู่รุ่นลูกรุ่นหลานไปมากแล้ว โดยเฉพาะเรื่องนี้เองก็เป็นเรื่องของตัวละคร “เตียบ่อกี้” ผู้เป็นบุตรชายของ “เตียชุ่ยซัว” จอมยุทธลำดับที่ 5 ของสำนักบู๊ตึ๊ง เรื่องราวเล่าถึงการแย่งชิงความเป็นใหญ่ในยุทธภพระหว่างสำนักง้อไบ้และสำนักบู๊ตึ๊ง 

     เตียบ่อกี้เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเด็กหนุ่มที่มีวิทยายุทธสูงมาก เพราะได้รับการฝึกพลังที่หลากหลาย ทั้งพลังเก้าเอี๊ยง และฝึกคัมภีร์เคลื่อนย้ายจักรวาลที่ต่อมาภายหลังทำให้เขาได้ขึ้นเป็นประมุขนิกายเม้งก่าอีกด้วย การท่องยุทธภพของเตียบ่อกี้ทำให้เขาต้องไปพัวพันเรื่องราวกับหญิงสาวหลายนางรวมไปถึงนางเอกของเรื่องคือ “เตี๋ยเมี่ยง” ลูกสาวของท่านอ๋องจากมองโกล และด้วยความที่เขาเป็นคนอัธยาศัยดี มองโลกในแง่บวก และชอบช่วยเหลือคนอื่น ทำให้ผู้หญิงหลายคนตกหลุมรักเขาในที่สุด

มังกรหยกภาค 2 เวอร์ชั่น 2006 / Pinterest

เนื้อเรื่องที่ร่วมสมัย

     ซีรี่ส์มังกรหยกชุดนี้นับว่าได้รับความนิยมมากที่สุด เหตุผลที่ผู้คนติดกันงอมแงมเลยก็เพราะมันเป็นดั่งภาพสะท้อนการรวมชาติจีนเข้าไว้ด้วยกัน เป็นการเล่าเรื่องในสมัยที่แผ่นดินจีนยังกระจัดกระจายและยากจนข้นแค้นนัก โดยมีเหล่าจอมยุทธที่เปรียบเหมือนอัศวินที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยกอบกู้บ้านเมืองจากพวกผู้ร้ายหรือชนชาติมองโกล เป็นกลุ่มคนสำคัญในการรวบรวมแผ่นดินจีนให้กลับมาเป็นปึกแผ่น ซึ่งเนื้อหาเช่นนี้นับว่าเป็นเนื้อหาที่ไม่มีวันตกยุคสมัย เพราะมีการสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปอย่างแยบยลและสามารถสะท้อนความเป็นไปในสังคมได้ตลอดเวลา นำมาใช้อ้างอิงเหตุการณ์ในปัจจุบันและบุคคลในชีวิตจริงได้ด้วย ที่สำคัญคือเป็นการถ่ายทอดวัฒนธรรมอย่างหนึ่งให้คนรุ่นหลังได้รู้สึกภูมิใจในชาติกำเนิดของตัวเองอย่างถ่องแท้

ตัวละครที่มีเอกลัษณ์

     ต่อมาเพราะตัวละครในแต่ละภาคนั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สำคัญเลยคือผู้แต่งอย่างกิมย้งนั้นสร้างคาแร็กเตอร์ให้เหมือนคนจริงๆ ที่ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เก่งในบางด้านแต่ก็แย่ในบางส่วน เป็นคนดีบางเรื่องแต่ก็เลวในบางสถานการณ์ ทั้งการที่พระเอกดูเก่งกาจทางด้านบู๊แต่เรื่องบุ๋นกลับไม่เอาไหนอย่างก๊วยเจ๋ง การสร้างคนดีๆ ให้กลายเป็นคนเลวเพราะความละโมบโลภมากอย่างเอี้ยคัง คนที่มีวิทยายุทธสูงแต่ก็ขาดความเป็นผู้นำอย่างเอี้ยก๊วย หรือกระทั่งคนที่ไม่ได้ยืนหยัดแสดงท่าทีว่ารักชอบต่อหญิงใดเป็นพิเศษอย่างเตียบ่อกี้ก็ตาม จึงพูดได้ว่ากิมย้งพยายามทำให้ตัวละครเหล่านี้เป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง เก่ง ฉลาด เลว ร้าย ครบถ้วนทุกอุปนิสัย

ดาบมังกรหยก เวอร์ชั่น 2019 / Pinterest

เอฟเฟ็กต์และการแสดงที่เข้มข้น

     อย่างที่เรากล่าวไปนั้นว่าซีรี่ส์ชุดนี้มีการนำมารีเมกจำนวนหลายครั้ง และในการสร้างแต่ละครั้งก็มีการพัฒนาเอฟเฟ็กต์ให้ดูสมจริงมากขึ้นในทุกปี รวมไปถึงคอสตูมการแต่งหน้าแต่งตัวที่ก็เริ่มเข้าเค้ามากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ดีมากอยู่แล้วก็ยังดีแบบคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง คือนักแสดงที่เข้ามารับบทบาทเหล่านี้ที่มาพร้อมฝีมือการแสดงและเคมีที่เข้ากันแบบสวยงาม

     ซีรี่ส์มังกรหยกชุดนี้มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างวัฒนธรรมและความทรงจำดีๆ ให้กับผู้ชมหลายคนตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นผลงานชิ้นเอกแห่งยุคที่กิมย้งทิ้งเป็นมรดกไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ข้อคิดมากมายนับไม่ถ้วนจากนิยายชุดนี้ ไม่แปลกใจนักว่าแม้จะผ่านมานับกว่า 50 ปีแล้วซีรี่ส์ชุดมังกรหยกยังคงได้รับความนิยมและตรึงใจผู้คนได้แบบไม่รู้จบ