จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยกับการฟ้องร้องคดีอื้อฉาวที่คนทั้งโลกใจจดใจจ่อมากที่สุด กับคดีระหว่างคู่สามีภรรยาเก่า Johnny Depp และ Amber Heard ที่กินระยะเวลามานานพอสมควร ซึ่งผลจากการตัดสินของเหล่าคณะลูกขุนออกมาว่าเดปป์นั้นสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้อย่างไร้มลทินจากคำที่ภรรยาเก่าเขาเคยกล่าวอ้าง เป็นอันว่าเหตุการณ์และคดีที่ผ่านมาพลิกตัวเขาจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นคนตีเมียสู่การเป็นผู้ “ถูก” กระทำแทน หากว่าในช่วงมรสุมที่เกิดขึ้นระหว่างการที่ถูกกล่าวหาและช่วงฟ้องร้องนั้น ตัวเดปป์เองก็เป็นผู้สูญเสียชื่อเสียงและรายได้จำนวนมหาศาล แต่ตัวเขาเองก็ยังได้กำลังใจจากคนทั่วโลกยืนเคียงข้างเขาจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน

ภาพ: PotC Wiki

     ชีวิตการทำงานของเดปป์ดิ่งลงอย่างฉับพลัน สังคมบางส่วนหันหลังให้เขา ตัวเขาถูกปลดออกจากงานโฆษณาและภาพยนตร์หลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ที่ต้องรื้อถ่ายทำกันใหม่โดยได้ Mads MIkkelsen มารับบทพ่อมดร้าย Grindelwald แทน ตามมาด้วยบทบาทสร้างชื่อที่สุดในชีวิตการทำงานของเขาอย่าง Jack Sparrow ที่ค่าย Disney นั้นดันปากไวใจเร็วไปนิดออกมายื่นคำขาดพร้อมปลดเขาสายฟ้าแลบจากการเป็นตัวละครกัปตันแจ็ก โดยไม่รีรอฟังคำตัดสินหรือไม่ให้ความเชื่อใจกันเลยสักนิด ซึ่งเดปป์เองยังออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยว่าใจจริงแล้วเขาวางแผนที่จะปลดระวางคาแร็กเตอร์นี้อย่างสมเกียรติด้วยซ้ำ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำเอาเขาเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ทั้งๆ ที่เดปป์เองก็สร้างชีวิตให้ตัวละครนี้มานานเกือบ 20 ปี 

     มากกว่านั้นเดปป์เองก็ออกมายื่นคำขาดต่อทันทีว่าเขาจะไม่กลับไปเล่นบทนี้อีกเด็ดขาด และปล่อยมุขตลกขนาดว่าถ้าดิสนีย์จ่ายค่าตัว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมเอาตัวอัลปาก้าอีกร้อยตัวมาให้เขาก็จะไม่ยอมกลับไปเล่นอย่างแน่นอน แล้วแบบนี้ภาพยนตร์แฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean จะเดินหน้าต่อด้วยเส้นทางไหนหลังกัปตันโจรสลัดเลิกเดินทะเลแล้ว ในบทความนี้เราจะพาไป “เดา” เส้นเรื่องในอนาคตกันว่า ดิสนีย์จะแก้ตัวภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ด้วยวิธีไหนกัน

ภาพ: PotC Wiki

เปิดเส้นเรื่องใหม่

     เริ่มต้นด้วยการเดาเส้นเรื่องแรกกับการวางผังเรื่องใหม่ เปิดเส้นเรื่องและการผจญภัยครั้งใหม่โดยยังอยู่ในน่านน้ำของทะเลแคริเบียนเช่นเดิม แต่ค่ายอาจสร้างเป็นภาคสปินออฟคล้ายกับภาพยนตร์แฟรนไชส์ชื่อดังเรื่อง Fast and Furious: Hobbs and Shaw ที่ดึงเอาตัวละครหน้าใหม่มาลงจอโดยยังอยู่ในแวดวงของรถแข่งและรถสปอร์ต ซึ่งค่ายเองก็ยังต้องโยงเรื่องราวเกี่ยวกับโจรสลัด ชาวบ้าน และเหล่าขุนนางอยู่ดี ยิ่งดิสนีย์ชอบตามกระแสโลกด้วยแล้ว ก็อาจจะมีโจรสลัดหญิงมาเป็นตัวเอกแทนก็เป็นได้ พร้อมด้วยการเพิ่มตัวละครหลากหลายสัญชาติเข้ามาสร้างสีสันและรสชาติในเรื่องให้มากขึ้น

ภาพ: PotC Wiki

พึ่งพิงตัวละครเก่า

     ดำเนินเรื่องในแบบที่สอง คือการดึงเอาตัวละครเก่ามาเป็นแม่แรงทั้ง Keira Knightley ที่รับบท Elizabeth Swann, Orlando Bloom ในบท Will Turner และ Bill Nighy กับบท Davy Jones ซึ่งภาคล่าสุด Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales เองก็ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้ว่าคำสาปทั้งหมดถูกถอนทิ้งแล้ว ทั้งคำสาปที่ว่ากัปตันเรือ Flying Dutchman จะขึ้นบกได้ทุก 10 ปีเองก็ถูกถอนทิ้ง วิลจึงได้ครองรักกับเอลิซาเบธในที่สุด แต่แล้วก่อนจบภาคนั้นไปเรายังได้เห็นเงาของเดวี่ โจนส์ กลับมาอีกครั้ง ไม่แน่ว่าภาคต่อนี้อาจดึงเรื่องราวของโจรสลัดหน้าปลาหมึกกลับมาเป็นตัวเด่นอีกครั้งก็เป็นได้

ภาพ: PotC Wiki

กลับไปที่จุดเริ่มต้น

     หรือเส้นเรื่องที่สาม คือการกลับไปที่จุดเริ่มต้นแบบที่ภาพยนตร์หลายเรื่องชอบทำทั้ง Lord of the Rings และ Harry Potter เองก็สร้างภาคต่อไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ดิสนีย์อาจทำเป็นเรื่องราวของ Pirates of the Caribbean: The Begining กำเนิดแจ็ก สแปร์โรว์ เล่าเรื่องของแจ็กตั้งแต่วัยเด็กและวัยแรกรุ่นกว่าจะมาเป็นเขา แบบที่ช่วงหนึ่งในภาค Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales เองก็มีการพาดพิงถึงแจ็กในตอนที่ยังเป็นโจรสลัดเด็ก จึงอาจดึงเอาจุดนี้ขึ้นมาแผ่ขยายเป็นเส้นกว้างต่อก็ได้เช่นกัน แบบนี้ยังสามารถดึงนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาเล่นบทบาทของแจ็กในวัยเด็กได้ด้วย

ภาพ: PotC Wiki

ไม่ไปต่อ พอแค่นี้

     และเส้นทางสุดท้ายที่ดิสนีย์อาจตัดสินใจ คือการปล่อยแฟรนไชส์นี้ไว้ให้เป็นปริศนา ไม่ต้องกลับไปยุ่งหรือทำเรื่องเพิ่มต่อจากนี้ เพราะเดาว่าโอกาสขาดทุนน่าจะมากกว่าได้กำไร เนื่องจากขาดตัวละครหลักไปเสียขนาดนั้น และแน่นอนยิ่งกว่าคือดิสนีย์จะไม่มีทางแตะคาแร็กเตอร์นี้โดยการหาคนอื่นมาทดแทนอย่างแน่นอน และนักแสดงชายเองถ้าโดนทาบทามให้เล่นเป็นกัปตันแจ็กก็คงจะปฏิเสธแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ชัวร์ๆ เพราะรู้ดีว่าบทบาทบางตัวก็ไม่สามารถทดแทนกันได้ ยิ่งบทที่นักแสดงทำเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแจ็ก สแปร์โรว แล้วด้วย

     เรียกได้ว่าดิสนีย์งานเข้าเต็มๆ และคงกำลังง่วนกับการหาทางออกจากปัญหานี้จนมือเป็นระวิง อย่างไรก็แล้วแต่หลายคนก็ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นกัปตันแจ็กอีกแล้ว เพราะเดปป์เองก็เอ่ยปากไว้เสียขนาดนั้น แต่แฟนๆ ก็ยังอยากให้ดิสนีย์ออกมากล่าวขอโทษนักแสดงแบบจริงใจอยู่ดี งานนี้ดิสนีย์เองถือว่าโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง เราต้องมารอติดตามกันต่อไปว่าดิสนีย์จะออกมาขอโทษเดปป์หรือไม่ แล้วภาพยนตร์แฟรนไชส์สุดฮิตชุดนี้จะได้มีโอกาสไปต่อหรือว่าพอแค่นี้...