FASHION

#VOGUEMORE เปิดความทรงจำกับเส้นทางชีวิตซึ่งเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ของสาวเก๋ชื่อ “หลิน-มชณต”

ย้อนรอยเส้นทางชีวิตและความรู้สึกเมื่อนึกย้อนสู่ความทรงจำในอดีตอันผูกโยงตัวตนจนถึงปัจจุบัน และพร้อมต่อยอดสู่อนาคตในหลากด้านของ หลิน-มชณต สุวรรณมาศ

นางแบบ: มชณต สุวรรณมาศ
ช่างภาพ: เอกรัชต์ อุบลศรี
สไตลิสต์: สลาลี สมบัติมี
แต่งหน้า: ชนะจิต เดชาสถิตย์วงศ์
ทำผม: ภากร สีเสม
ผู้ช่วยสไตลิสต์: พลอยไพลิน ดิลกศรี, ดลพร เยื่อแม้นพงศ์
โททัลลุค: Miu Miu


“ความทรงจำ” คำศัพท์ที่หมายถึงสิ่งที่มนุษย์คนหนึ่งจดจำได้ ณ ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต บ้างก็เป็นเหตุการณ์แปลกประหลาด บ้างก็เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต หรือบางครั้งมันเป็นเพียงช่วงเวลาธรรมดาๆ ที่สอดแทรกเข้าไปอยู่ในพื้นที่กลีบสมอง “Temporal Lobe” ซึ่งเป็นส่วนเดียวกับ การเชื่อมโยงการรับรู้เกี่ยวกับความจำ การรับรู้วัตถุ การเข้าใจภาษา การพูด การฟัง ศิลปะ และดนตรี เมื่อ “หลิน-มชณต สุวรรณมาศ” เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับเส้นทางชีวิตผ่านความทรงจำ เอ่ยผ่านภาษา และเชื่อมโยงกับโลกศิลปะอย่างแฟชั่นและแวดวงบันเทิงหลายแขนง ทั้งหมดจึงบ่งบอกตัวตนความเป็นหลิน ผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบที่ไม่มีใครแทนได้

#VOGUEMORE ประจำเดือนมิถุนายน 2023 โว้กจึงชวนแฟนๆ สัมผัสเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตของหลินตั้งแต่จุดเริ่มต้นการเป็นนางแบบสู่การเปลี่ยนแปลงบทบาทในชีวิตหลายรูปแบบ คาแร็กเตอร์ที่สรรสร้างผ่านความทรงจำและถ่ายทอดจนทำให้ปัจจุบันอันโดดเด่นกลายเป็นความทรงจำของใครหลายคน ชื่อ “หลิน” พร้อมเข้าไปอยู่ในเสี้ยวสมองของทุกคนอย่างแน่นอนหากได้อ่านบทความนี้

“ความทรงจำแห่งจุดเริ่มต้น” ปฏิเสธไม่ได้ว่าความทรงจำอันน่าตื่นเต้นของหลินคือการเริ่มต้นเป็นนางแบบชนิดไม่คิดไม่ฝัน ความอยากลองคือแรงผลักดันที่กระตุ้นให้สาววัยรุ่นคนหนึ่งตัดสินใจก้าวเดินโดยไม่ได้คาดหวังผลลัพธ์อันงดงาม “เพื่อนพาไปแคสต์โฆษณา ตอนนั้นมีโมเดลลิ่งกำลังมองหานางแบบก็มาถามเราว่า ‘อยากเดินแบบไหม’ ซึ่งพี่อาร์ต-อารยาเป็นคนพาไป ในมุมมองของคนอยู่นอกวงการอาจไม่ได้รู้จักพี่อาร์ตเท่าไหร่ เราอายุ 18 รอเรียกแคสติ้งแบรนด์ Theatre เจอพี่จ๋อมก็การันตีแล้วว่าไม่ได้โดนหลอก” หลินกล่าวถึงความทรงจำแรกเริ่มของการก้าวเท้าสู่เส้นทางนางแบบ พร้อมเสริมว่า “เขาบอกว่าได้ค่ะ ในขณะที่เรายังเดินงงสงสัยอยู่เลย” หลังจากความทรงจำส่วนนี้หลินก็กลายเป็นนางแบบคิวฮอตที่แบรนด์ไทยต่างเรียกใช้งาน ซึ่งหลินเองก็พูดถึงเส้นทางที่สร้างความตื่นเต้นให้กับชีวิต และนิยามความสำเร็จเพิ่มเติมว่าในมุมมองของเธอพบเจอกับประสบการณ์มากมาย การได้ท่องโลกสัมผัสวิถีแฟชั่นหลากมิติหลายรูปแบบคือความสำเร็จอย่างหนึ่งที่เธอรู้สึกถึงมัน

จากเส้นทางนางแบบสู่การเป็นนักแสดง ความทรงจำอีกส่วนที่เปิดบทใหม่ในหนังสือชีวิตของหลิน “เมื่อเขาพูดถึงตัวละครเรา ทักทายภายใต้บทบาทนั้น แสดงถึงความสำเร็จเชิงหนึ่งในแวดวงการแสดง” หลินพูดถึงมุมมองความสำเร็จ ทว่านี่ไม่ใช่สิ่งเดียว เพราะหลินเองก็ยังมีมุมมองที่ให้ความสำคัญกับความสำเร็จภายในจิตใจตัวเอง ทั้งรูปแบบการแสดง ภาพ และองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ทุกรูปแบบ ความทรงจำอันหอมหวานที่หลินจำขึ้นใจพร้อมติดป้ายงานชิ้นโปรดคือบทบาท ดิว จากภาพยนตร์เรื่องมิสเตอร์เฮิร์ท “เราชอบ เราดูซ้ำได้เรื่อยๆ เราอยากกลับไปดูสิ่งนั้นอีก” นี่คือความทรงจำอันฝังลึกและพร้อมปรากฏขึ้นในความคิดของหลินกับสถานะนักแสดงเสมอ ซึ่งหลินมองว่าความสำเร็จจากความคิดตัวเอง โดยเฉพาะความชื่นชอบเป็นนิยามของความสำเร็จเบื้องต้นสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ เพราะนี่คือความสำเร็จที่ได้พิสูจน์ตัวเอง ทว่าวลี “ยังคงต้องพัฒนาต่อไป” คือคีย์หลักที่ทำให้ความทรงจำนั้นมีค่า ทว่าไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่ปักป้ายให้เธอต้องหยุดพัก

“ความทรงจำแห่งความหลากหลาย” หลินสร้างมิติแห่งความจำหลายรูปแบบอย่างที่กล่าวไป ไม่ว่าจะเป็น นางแบบ นักแสดง หรือแม้กระทั่งยูทูบเบอร์ แม้แพสชั่นบางอย่างจะเสื่อมลงไปบ้างแต่ก็เป็นความทรงจำที่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้กลับมาพูดถึงเสมอ ซึ่งบางครั้งห้วงเวลาบางส่วนก็ถูกทดแทนด้วยบทบาทใหม่เช่นการทำเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง ซึ่งความทรงจำหลากหลายด้านนั้นมีคุณค่าแตกต่างกันไป ชีวิตในทุกสถานะมีไดนามิกลื่นไหลตามกราฟชีวิต “สำหรับนางแบบเราอาจจะไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน การทำเสื้อผ้าเป็นงานอดิเรกที่เติมเต็มความต้องการ นักแสดงยังสนุก ยาก ท้าทาย เหมือนกับเราเป็นมาโซคิสม์” หลินเล่าย้อนถึงความรู้สึกที่พัฒนาจากรากฐานความทรงจำ

การเดินทางในปัจจุบันซึ่งต่อยอดจากความทรงจำในอดีตคือการเป็นนักแสดงที่พัฒนาตัวเองต่อไป “หลินมองว่านักแสดงเหมือนวัตถุชั้นเลิศ ที่ผู้กำกับเลือกใช้คล้ายกับเชฟ ไม่ว่าจะใช้เราในความเป็นเรา หรือใช้แนวโน้มความสามารถที่เราสามารถพัฒนาต่อได้” หลินพูดถึงเส้นทางความทรงจำใหม่ล่าสุดที่ยังคงมอบความสนุกเพื่อเป็นความทรงจำของผู้ชมผ่านหน้าจอ ถึงแม้กระนั้นหลินก็มองย้อนกลับไปสู่การพัฒนาชีวิตเช่นกัน “ตอนเด็กตื่นเต้นกว่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าตอนนี้ไม่มี” วลีที่เผยให้เห็นมุมมองการย้อนมองตัวเองพร้อมนำประสบการณ์นั้นมาย้อนนึกถึงตัวเองในอดีตที่แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านห้วงอารมณ์ แต่ก็ยังเปิดรับประสบการณ์ใหม่ที่พร้อมทำให้ตัวเองตื่นเต้นหรือสนุกไปกับงานในบทบาทสถานะต่างๆ อยู่เสมอ

“ความทรงจำด้านแฟชั่น” สลักสำคัญในชีวิตหลินที่คลุกคลีกับสิ่งนี้มาตั้งแต่เริ่ม หลินเผยว่า “แฟชั่นของเราไม่ได้เปลี่ยน แต่พัฒนาความเข้าใจมากกว่า เราเข้าใจในสิ่งที่สัมผัสและเรียนรู้ผ่านการทำงานในวงการ” สำหรับหลินตู้เสื้อผ้าผันเปลี่ยนไปตามความชื่นชอบในแต่ละยุค ความทรงจำอันหอมหวานกับสไตล์สตรีตยุคดั้งเดิม เสื้อผ้าวินเทจ สีสันจัดจ้าน สไตล์บอยๆ เรื่อยมาจนถึงความหลงใหลในสีดำ จนทำให้ตู้เสื้อผ้าหลักกลายเป็นสีดำที่มีรายละเอียดความแตกต่างที่ตนเองคัดสรรมาอย่างครบถ้วน แม้มันจะเป็นโทนสีดำแต่มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าความทรงจำอันสนุกสนานเรื่องสไตล์ผลิดอกออกผลสู่คำว่า “เข้าใจตัวเองมากขึ้น” สีดำจึงเปรียบดั่งสัญลักษณ์ของหลินที่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองต้องการและเจาะลึกไปกับมัน มากกว่าขวนขวายหาสิ่งใหม่แบบผิวเผิน “แต่เราก็เปิดโอกาสให้ตัวเองนะ เริ่มใส่สีน้ำตาล ใส่สีเทา เพราะเราชอบในการแต่งตัวเพื่อตัวเอง ไม่ได้ใส่ให้คนอื่นชอบ”

 

ความทรงจำเกี่ยวกับแฟชั่นและความงามของหลิน ผูกโยงกับการเข้าใจตัวเอง นอกเหนือจากนั้นยังเข้าใจกรอบวัฒนธรรมหรือขนบธรรมเนียมการปฏิบัติ “ความงาม/แฟชั่นขึ้นอยู่กับกาลเทศะ ถึงเราจะชอบสีดำ แต่ถ้าดำไม่ได้เราก็ไม่” แนวคิดที่นำเสนอจากประสบการณ์และยึดถือกรอบทางสังคมอย่างพอเหมาะพอดีคือสิ่งสำคัญที่สุดในมุมมองของหลิน พร้อมนำเสนอความมั่นใจว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบในอุดมคติ เพราะความมั่นใจจะสะท้อนตัวตนออกมาอย่างมั่นใจ แต่สิ่งนี้จะพาทะยานก้าวออกกรอบหรือขีดเส้นบางอย่างที่อาจเคยลดทอนมิติความงดงามของแต่ละคนไป

 

และถ้าจะเพิ่มความมั่นใจก็ต้องนำเสนอผ่านไอเท็มที่ขาดไม่ได้ ในชีวิตประจำวันหลินไม่เคยขาดแว่นตากันแดด นี่คือไอเท็มหลักที่หลินเผยกับโว้กว่าต้องติดตัวแทบจะตลอดเวลา มากไปกว่านั้นชุดในเซ็ตที่ถ่ายครั้งนี้ยังถูกใจหลินโดยเฉพาะเซ็ตชุดชั้นในกับสูท “เราว่าอันเดอร์แวร์กับสูทน่าจะตอบโจทย์ที่สุด ไม่ว่าจะเอาไปมิกซ์แอนด์แมตช์ หรือใส่แบบโททัลลุค รายละเอียดของเสื้อผ้านำเสนอลูกเล่นที่ทำให้ลุคดูมีอะไร” ทั้งเซ็ตจากคอลเล็กชั่น L'Été จึงเปรียบดั่งความทรงจำอีกหนึ่งจุดในโลกแฟชั่นที่ทำให้หลินหลงรักเสื้อผ้าจากแบรนด์ Miu Miu อันสร้างความประทับใจจนทำให้สาวเก๋คนนี้อยากหยิบไปใส่ต่อในอนาคต “ได้ทั้งเซนส์ความเท่และน่ารัก ชอบ!” หลินกล่าวย้ำอีกครั้ง



WATCH




อีกหนึ่งความทรงจำคือการเผชิญสถานการณ์ทั้งเชิงลบและเชิงบวก โดยเฉพาะเชิงลบที่อาจฝังอยู่ในสมองของมนุษย์ทุกคน “เราเปิดรับความจริง ยอมจะรู้สึกแย่ไปกับมันตามความจริง” หลินกล่าวพร้อมเสริมว่า “เราไม่ได้ใส่ใจคนอื่นน้อยลง แต่เราใส่ใจตัวเองมากขึ้น” เพราะบางครั้งหลินอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์ ต้องเปิดรับความรู้สึกมากมาย ถึงจุดหนึ่งหญิงสาวคนนี้ก็เปิดพื้นที่ให้ตัวเองใส่ใจในความรู้สึกจากใจมากขึ้น การรับรู้และพยายามใส่ใจคนอื่นมากเกินไปก็มีแต่จะสร้างความทรงจำเชิงลบให้กับตัวเองเท่านั้น

ก้าวมาถึง “ความทรงจำใหม่สุด” กับบทบาทอีกี้ จากมิวสิกวิดีโอธาตุทองซาวด์ หลินพูดถึงเรื่องนี้ว่า “อีกี้ออกมาในรูปแบบกึ่งกลางพอดี นำเสนอมุมมองของผู้หญิงคนหนึ่งที่รักสนุก ชอบตามกรอบวัฒนธรรมของกลุ่มๆ หนึ่ง การที่เราได้ถ่ายทอดออกมาและทำให้คนชอบก็เพราะกี้ดูมีชีวิต ทำแค่ให้สวยก็ได้ เราก็ทำการบ้านกับตัวละครอีกี้ สื่อสารออกมาผ่านแววตาท่าทาง คิดว่าคนได้รับสารตรงนั้นถึงชอบ”

อนาคต...นอกเหนือจากความทรงจำ สิ่งที่สำคัญในชีวิตมนุษย์อีกสิ่งก็คืออนาคต เมื่ออดีตดำดิ่งสู่ส่วนลึกของสมอง สิ่งใหม่ชื่อว่า “อนาคต” จะเข้ามาแทนที่ หลิน สาวผู้เปี่ยมสไตล์ยังคิดลุคความเก๋ไว้เช่นเดิม โดยเธอระบุว่า “มีคิดลุคไว้เหมือนกันนะ เริ่มหาเรเฟอเรนซ์ผู้ใหญ่เก๋ๆ” บ่งบอกถึงตัวตนด้านแฟชั่นของนางแบบระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่ไม่มีวันจางหาย ทั้งนี้ยังระบุความตั้งใจว่า “ไม่อยากเป็นผู้ใหญ่ที่ดูเด็ก” เธออยากสมวัยพร้อมพัฒนาแฟชั่นให้เจริญเติบโตไปพร้อมกัน อีกทั้งยังมองถึงอนาคตวงการแฟชั่นว่าจะยังพัฒนาไปได้อีกไกล จากประสบการณ์ผู้เป็นส่วนหนึ่งเสมอมา สาวคนนี้เห็นการเดินหน้าทั้งจากแบรนด์ใหญ่และเล็ก การเข้ามาของโซเชียลมีเดีย รูปแบบความคิดที่ล้ำหน้าชวนติดตาม ทั้งหมดคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต และเตรียมเข้าสู่คลังความทรงจำของหลินเมื่อถึงเวลา

สุดท้ายกับปัจจุบันหลินมีผลงานกับช่อง Thai PBS เป็นผลงานซีรี่ส์เรื่องสืบสวนสำนวนรัก บทบาททนายที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตการแสดงอีกห้วงหนึ่ง ความใฝ่ฝันจากความทรงจำที่วาดภาพทนายไว้อย่างสวยงาม วันนี้เธอทำมันภายใต้ร่มตัวตนนักแสดง เป็นอีกครั้งที่ความทรงจำเกี่ยวกับตัวตนดั้งเดิมเชื่อมโยงเข้าสู่ชีวิตข้างหน้า ซึ่งหมายถึงปัจจุบัน (ณ วันที่ถ่ายแฟชั่นกับโว้ก) ทั้งหมดนี้คือการบอกเล่าความทรงจำอันผูกโยงถึงปัจจุบัน และเชื่อมเส้นทางสู่อนาคตของผู้หญิงสุดเก๋ที่เริ่มต้นจากก้าวเล็กๆ บนเส้นทางสายแฟชั่นและวงการบันเทิงชื่อ “หลิน มชณต สุวรรณมาศ”

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VOGUEMORE