การเปลี่ยนแปลงในโลกแฟชั่นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการสร้างคาแร็กเตอร์ให้กับแบรนด์ๆ หนึ่งสามารถแปลงโฉมภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปได้ชนิดคนละขั้ว แต่สำหรับ Alessandro Michele ที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการเผยโฉมผลงานแรกในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์แบรนด์ Valentino ด้วยสไตล์แฟชั่นที่เด่นชัดตามแนวทางของเขากับคอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2025 ความตื่นเต้นเกิดขึ้นเกิดขึ้นเมื่อผลงานการออกแบบครั้งแรกของดีไซเนอร์สุดจัดจ้านเปลี่ยนแปลงมิติความเรียบหรูให้กลายเป็นแฟชั่นที่เต็มไปด้วยรายละเอียดทั้งสีสัน ลวดลาย แพตเทิร์นการตัดเย็บ รวมถึงซิลูเอตที่แปลกแตกต่างกว่าเดิม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้หลายคนมองว่าวาเลนติโน่กำลังจะผลัดยุคสู่ยุคแม็กซิมัล จากเดิมที่สาวกแฟชั่นพันธุ์แท้นิยามความเป็นวาเลนติโน่ = ความเรียบหรูเหนือระดับ ผลงานของหัวเรือคนใหม่แตกต่างจาก Pierpaolo Piccioli โดยสิ้นเชิง และมันก็ถูกนำกลับไปเปรียบเทียบกับ Valentino Garavani ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เมื่อย้อนกลับไปสู่ยุคอดีตจะเห็นว่าแนวทางของเมซงแห่งนี้ไม่ได้เน้นย้ำเพียงความหรูหราอันนิ่งเฉย ทว่ายังสอดแทรกเอาความสนุกจัดจ้านเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์แฟชั่นอยู่เสมอ ไม่แน่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเห็นวาเลนติโน่ยุคเก่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะเปลี่ยนรูปแบบแนวทางไปตามหัวเรือคนใหม่ก็ตาม
“วาเลนติโน่ไม่เคยเป็นแนวมินิมัล แถมจะเป็นสไตล์แม็กซิมัลเสียด้วยซ้ำ แม้ในยุค ‘70s ที่มีการให้ชุดเพรียวคล่องตัวก็ตาม” อเลสซานโดรเผยให้เห็นถึงการศึกษามรดกของแบรนด์ที่สืบทอดมาหลายทศวรรษ หลายคนอาจวิพากษ์วิจารณ์เพราะคุ้นชินกับภาพที่ปิแอร์เปาโลนำเสนอ ในอีกมุมหนึ่งอเลสซานโดรกำลังดึงเอารากฐานแรงบันดาลใจในอดีตมาคลุกเคล้าใหม่กับสไตล์อันเด่นชัดของตัวเอง นำมาสู่คอลเล็กชั่นรีสอร์ต 2025 ที่ทุกคนตื่นตาตื่นใจ และถูกวิจารณ์ว่าผลงานของเขามีเอกลักษณ์จากตัวดีไซเนอร์อย่างชัดเจนจนอาจไม่ได้รู้สึกถึงกลิ่นอายของวาเลนติโน่เท่าที่ควร
อ่านบทความ คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของ Valentino ภายใต้การเข้ามาของ Alessandro Michele ได้ที่ vogue.co.th/fashion/inspirations/article/valentino-alessandro-michele-prediction
เส้นทางการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดจากการที่อเลสซานโดรเลือกจะหยิบจับเอาผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาเป็นต้นแบบเท่านั้น เพราะเขาศึกษาจากเสื้อผ้าในคลังเก่าของแบรนด์อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากยุคที่ผู้ก่อตั้งยังกุมบังเหียนแบรนด์ตนเอง ถึงกระนั้นเขาก็เผยว่าได้ซึมซับกลิ่นอายจากผลงานเมื่อปี 1968 กับธีมสีขาวล้วนสุดงดงาม พร้อมทั้งนำเอาเสน่ห์แห่งยุค ‘70s ที่เขาชื่นชอบมาปรับเป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์ครั้งนี้ นอกจากนี้ยังซึมซับกลิ่นอายจากยุค ‘80s มาผสมผสานแบบบางๆ “ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องสำรวจลงลึกกับการที่วาเลนติโน่สร้างสรรค์ผลงานในยุคนั้น” อเลสซานโดรกล่าว ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแสดงให้เห็นว่าเขาทำการบ้านอย่างหนักเพื่อนำเสนอผลงานครั้งใหม่ที่กำลังชูภาพลักษณ์ของความแม็กซิมัลเมื่อครั้งอดีตกลับมาอีกครั้ง ติดตามกันต่อไปว่าเขาจะทำให้ทุกคนสัมผัสกับเสน่ห์ของแฟชั่นที่เขากำลังนำเสนอได้มากน้อยและลึกซึ้งเพียงใด
ข้อมูลและภาพ: Vogue Runway


.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)
.webp)