วิถีแฟชั่นหมุนเวียนตามกระแสความนิยมและการปรับเปลี่ยนของโลกในมิติต่างๆ เศรษฐกิจก็เป็นส่วนสำคัญเพราะสุดท้ายแฟชั่นก็เป็นธุรกิจอีกแขนงหนึ่ง มากไปกว่านั้นยังเชื่อมโยงถึงกระแสนิยมและรูปแบบการเสพงานศิลปะของคนในสังคมอีกด้วย ตอลดระยะเวลาช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลงานโอตกูตูร์เรียกว่าเสื่อมความนิยมลงไปพอสมควร แม้แบรนด์ทั้งหลายจะยังรักษามาตรฐานการรังสรรค์เสื้อผ้าตัดเย็บชั้นสูงไว้เสมอ ทว่าความสนใจของคนในสังคมและการเข้ามาแทนที่ของความรวดเร็วในอุตสาหกรรมอาจทำให้โอตกูตูร์ไม่ใช่ไฮไลต์ประจำปีของปฏิทินวงการแฟชั่นอีกต่อไป
โชว์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ประจำปี 2025 ของแบรนด์ Valentino โดย Alessandro Michele
ด้วยต้นทุนมหาศาลในการรังสรรค์ผลงาน ไม่ใช่เพียงเม็ดเงิน แต่หมายถึงเวลาและปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ในการกอบโกยรายได้ ดูเหมือนโอตกูตูร์จะไม่ใช่สิ่งชูโรงและค้ำจุนสภาพคล่องของแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย ประเด็นเหล่านี้เองทำให้หลายคนอาจสังเกตได้ว่าตารางปารีสโอตกูตูร์แฟชั่นวีกมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา บางแบรนด์มาๆ หายๆ บางแบรนด์ยังคงยึดถือตารางเดิม หรือบางแบรนด์อาจจะหายไปจากสารบบโดยสมบูรณ์
ลุคจากคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ประจำปี 2024 ของแบรนด์ Balenciaga โดย Demna
‘New Normal’ ของวงการแฟชั่นระดับโอตกูตูร์คือการนำเสนอคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าชั้นสูงเพียงปีละ 1 คอลเล็กชั่นเท่านั้น ซึ่งแนวทางเช่นนี้เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Alessandro Michele ประกาศอย่างชัดเจนว่า Valentino จะนำเสนอคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์เพียงรอบเดียวต่อปี ในขณะที่แบรนด์อย่าง Balenciaga ที่กำลังจะปิดฉากเส้นทางกับ Demna ก็ยึดถือแนวทางการนำเสนอคอลเล็กชั่นเป็นจำนวนครั้ง ไม่ใช่ตามฤดูกาล โดยจะจัดโชว์ ณ Avenue George V ทุกช่วงกลางปี
โชว์โอตกูตูร์ประจำปี 2024 ของแบรนด์ Robert Wun
นอกจากแบรนด์ระดับยักษ์ใหญ่ของวงการแล้ว แบรนด์อย่าง Robert Wun ก็กระโดดข้ามการนำเสนอโชว์โอตกูตูร์ช่วงต้นปี และกลับมามีชื่อในตารางอีกครั้งช่วงกลางปี ช่วงเวลาเดียวกันกับการนำเสนอคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์เมื่อปี 2024 ในขณะเดียวกันแบรนด์อย่าง Iris Van Herpen ที่หลายคนเฝ้ารอก็กลับมาพร้อมลงตารางกลางปี รวมถึง Maison Margiela โดย Glenn Martens ที่กำลังจะเปิดฉากเส้นทางโอตกูตูร์เป็นครั้งแรก และยังมีแบรนด์อย่าง Jean Paul Gaultier ที่ปกติจะโดดเด่นด้วยดีไซเนอร์รับเชิญ ตอนนี้แบรนด์มีหัวเรือใหญ่ประจำอย่าง Duran Lantink ซึ่งคาดว่าอาจไม่ได้รักษาระดับความถี่ของการรังสรรค์คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์เช่นเดิมอีกแล้ว เรื่องราวเหล่านี้อาจบอกสะท้อนถึงการชะลอตัวของวงการแฟชั่น และวิถีใหม่โลกโอตกูตูร์ที่จะไม่ใช่สุดยอดแห่งคอลเล็กชั่น (ในแง่เศรษฐกิจ) อาจหลงเหลือเพียงรูปแบบการนำเสนองานศิลปะที่พร้อมเดินทางบรรจบกันแบบปีละครั้งเท่านั้น
(สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับปารีสโอตกูตูร์แฟชั่นวีกได้กับบทความ กางตารางโอตกูตูร์แฟชั่นวีก ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 กับบรรยากาศการเปลี่ยนแปลงของโลกแฟชั่น)