เทศกาลภาพยนตร์ระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเมืองคานส์ เวนิส เบอร์ลิน และหลายๆ พื้นที่ทั่วโลกคือเวทีหลักสำหรับเหล่านักสร้างสรรค์ที่จะมอบประสบการณ์ทางศิลปะในรูปแบบพิเศษให้คอภาพยนตร์เชยชมกันอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปี แต่อีกองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือแฟชั่นพรมแดงของเหล่านักแสดง ดารา และเซเลบริตี้ระดับแถวหน้าของโลกที่ใช้พรมแดงนี้ในการสร้างกระแสความนิยมและถ่ายทอดตัวตนของทั้งปัจเจกบุคคล ผู้อยู่เบื้องหลัง และแบรนด์แฟชั่นได้อย่างน่าประทับใจ ในอีกมุมหนึ่งมีแฟชั่นที่หลายคนอาจไม่ได้เห็นว่าอยู่ท่ามกลางแสงสปอตไลต์แต่ก็สำคัญไม่แพ้กันคือแฟชั่นนอกพรมแดงในช่วงเทศกาลภาพยนตร์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าลุคของเหล่าเซเลบริตี้มักจะได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศิลปินดาราระดับแถวหน้าที่ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลกอย่างสม่ำเสมอ พรมแดงอาจเป็นไฮไลต์ที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกับความหวือหวาและรูปแบบชุดที่ผูกติดกับนิยามคำว่า ‘พรมแดง’ ได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับเทศกาลภาพยนตร์ แฟชั่นพรมแดงไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เหมือนกับงานประกาศรางวัลหรืองานกาล่าที่ไฮไลต์เกี่ยวกับแฟชั่นเกือบทั้งหมดจะลงเอยที่ทางเดินก่อนเข้างานเพียงเท่านั้น

Julia Roberts ในลุคจาก Versace โดย Dario Vitale ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส 2025
สำหรับงานเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก แฟชั่นระหว่างสัปดาห์ก็เป็นประเด็นให้คนติดตามอยู่ตลอด อย่างเช่นการเปิดตัวผลงานการออกแบบครั้งแรกของ Dario Vitale แบรนด์ Versace ก็ถ่ายทอดผ่านลุคของ Julia Roberts ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิส หรือจะเป็นความโดดเด่นของลุคเดินทางด้วยเรือแสนเก๋ของ Harry Styles ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเดียวกัน และ Shu Qi กับการสไตลิ่งลุคของแบรนด์ Bottega Veneta และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีลุควันสบายๆ ของ Rihanna ที่ถือกระเป๋า Saint Laurent จนกลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลก
ช่วง Photocall และการรับรางวัลอันทรงเกียรติ รวมถึงช่วงการสัมภาษณ์ต่างๆ นานาก็ล้วนอยู่ในแสงสปอตไลต์แทบทั้งสิ้น มากน้อยไปตามระดับความนิยมของศิลปินหรือความน่าสนใจของรางวัล ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้เองเป็นโอกาสทองของแบรนด์แฟชั่นระดับแถวหน้าที่จะนำพาชุดในรูปแบบต่างๆ มานำเสนอด้วยบริบทของการสวมใส่จริง ทั้งลุคลำลอง ลุคกึ่งทางการ และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาฤดูร้อนอันเป็นช่วงเวลาแห่งการจัดเทศกาลภาพยนตร์ชั้นแนวหน้า เสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนจึงกลายเป็นไอเท็มชิ้นเด่นที่ไม่ควรพลาด

ในมุมมองแบรนด์เทศกาลภาพยนตร์จึงเป็นเหมือนเวทีที่เปิดโลกให้นำเสนอผลงานแบบครบถ้วนที่สุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าศิลปินดาราเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพราะการปรากฏตัวบนพรมแดงต้องจัดเต็มด้วยชุดหรูหราอย่างสมเกียรติ ในขณะที่การใช้ชีวิตประจำวัน การสัมภาษณ์ และกิจกรรมต่างๆ ก็ล้วนแต่มีบริบทให้สวมใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เท่ากับว่าแบรนด์จะได้ผลของการเผยแพร่เรื่องราวแฟชั่นในทุกบริบทและที่สำคัญคือการเป็นสวมใส่จริงโดยไม่ได้สร้างสถานการณ์จำลองขึ้นเหมือนบนรันเวย์หรือแม้กระทั่งแคมเปญแฟชั่นก็ตาม
สุดท้ายแฟชั่นคือสิ่งที่สอดแทรกอยู่ในสารบบของทุกสิ่งอยู่เสมอ เทศกาลภาพยนตร์ก็เช่นกัน ทว่าสิ่งที่กำลังพูดถึงคือพรมแดงไม่ใช่พระเอกของงานแต่เพียงอย่างเดียว เพราะช่วงเวลาต่างๆ นั้นเติมเต็มทุกองค์ประกอบให้สมบูรณ์แบบและน่าติดตามยิ่งขึ้น มากไปกว่านั้นบรรยากาศของเมืองที่จัดงานต่างๆ ยังสร้างอารมณ์ร่วมให้ทุกคนอยากลองสัมผัส เช่นเดียวกับแฟชั่นที่ทำหน้าที่ฉายภาพของสไตล์ที่เหมาะสมกับช่วงเวลา สถานการณ์ และสถานที่ หากไม่เชื่อลองจินตนาการว่าเมื่อพูดถึงแฟชั่นเมืองคานส์หรือเมืองที่จัดงานเทศกาลภาพยนตร์ เราจะยิ่งเห็นภาพแรงบันดาลใจเรื่องแฟชั่นผ่านสไตล์วันธรรมดาแต่โดดเด่นของเหล่าศิลปินดาราสายแฟชั่นนอกพรมแดงไม่มากก็น้อยแน่นอน

