ทำไมต้องซิการ์...เจาะประเด็นซิการ์ของ Doechii สัญลักษณ์อันล้ำลึกบนพรมแดง Met Gala 2025

     พรอปนอกเหนือจากที่ประดับตกแต่งบนเสื้อผ้าแล้ว แอ็กเซสเซอรี่บนพรมแดงก็อาจเป็นหัวใจหลักที่พร้อมดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกด้วยเช่นกัน สำหรับ Met Gala 2025 ศิลปินหญิงอย่าง Doechii กำลังหยิบยกรูปแบบการนำเสนอวัฒนธรรมผ่านแฟชั่นและกิจกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างหนาหูเมื่อปรากฏตัวบนพรมแดง Met Gala 2025 พร้อมกับซิการ์มวนใหญ่ ซึ่งนำมาสู่การถกเถียงและประเด็นเบื้องหลังสิ่งนี้มากมายด้วยเช่นกัน
 

     ‘Black Dandyism’ คำนิยามหลักของธีม ‘Superfine: Tailoring Black Style’ เปิดโลกให้โดชีได้ท่องไปในโลกของคนชาติพันธุ์เดียวกับตนเอง ซึ่งเธอเลือกที่จะนำเสนองานเทเลอริ่งอันสะท้อนถึงผลผลิตทางวัฒนธรรมของคนผิวดำอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นชุดแจ็กเก็ตและกางเกงขาสั้นที่มีลวดลายโมโนแกรมและดามิเยร์ เอกลักษณ์ของ Louis Vuitton ตามลำดับ เมื่อจับคู่กันเกิดเป็นลุคลายชนลายบนเนื้อผ้าสีขาวที่มอบกลิ่นอายความจัดจ้านโดยไม่ต้องใช้สีสันเยอะนัก ในขณะเดียวกันก็เลือกจับคู่กับถุงเท้าและรองเท้าสีเบอร์กันดี เช่นเดียวกับโบว์ เติมสีสันคลุกเคล้ากันอย่างพอเหมาะ

     รายละเอียดต่างๆ ในลุคของศิลปินหญิงมากความสามารถคนนี้ชวนให้ย้อนกลับสู่วิถีความจัดจ้านของการสไตลิ่งสูทของคนผิวดำในอดีต ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย การจับคู่สี หรือแม้กระทั่งรูปทรงต่างๆ รวมถึงการเพิ่มเติมแต่งแอ็กเซสเซอรี่ให้ดูน่าสนใจ อย่างเข็มขัดหนังสีขาวหรือเสื้อกั๊กด้านในลายโมโนแกรมที่ทั้งคู่ไม่ได้เป็นไอเท็มที่นิยมมากนักตามขนบธรรมเนียมการสวมใส่แบบอนุรักษ์นิยม แต่เป็นดั่งภาพสะท้อนของความสนุกและวิถีที่แตกต่างของแฟชั่นคนผิวดำเมื่อเธอหยิบมาสวมใส่อย่างมีสไตล์บนพรมแดง Met Gala 2025

     ความน่าสนใจอีกอย่างคือพรอปซิการ์ที่เธอหยิบยกมาเป็นส่วนหนึ่งของลุคแฟชั่นบนพรมแดงครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอหยิบมาทำท่าสูบโพสต์ให้ช่างภาพรัวชัตเตอร์กันอย่างต่อเนื่อง คำถามคือทำไมถึงเลือกหยิบซิการ์มาเป็นพรอปและแสดงท่าทางเหมือนกำลังสูบ ทั้งๆ ที่วัฒนธรรมการสูบใบยา ซิการ์ และบุหรี่ไม่ได้เป็นที่นิยมหรือถูกยอมรับให้เป็นสิ่งสวยงามในวงกว้าง ทั้งยังถูกถอดออกจากนิยามความเท่มีสไตล์ในบริบทสังคมยุคใหม่ไปสักระยะหนึ่ง เมื่อค้นคว้าลึกลงไปจะพบว่าเหตุการณ์นี้มีส่วนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์และสังคมคนผิวดำอย่างมีนัยสำคัญ

     ย้อนกลับไปในสมัยที่ยังไม่มีการยกเลิกระบบทาสในสหรัฐอเมริกา ชุมชนคนผิวดำจำนวนไม่น้อยตกอยู่ในสถานะทาสและทำงานในไร่ยาสูบ ตั้งแต่กระบวนการปลูก เก็บเกี่ยว ไปจนถึงการทำยาสูบ องค์ความรู้ต่างๆ ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นสันหลังของการพัฒนาวงการยาสูบเป็นวงกว้างของสหรัฐอเมริกา แม้จะถูกปลดปล่อยและกลายเป็นเจ้าของไร่ยาสูบ แต่การเผชิญกับการเหยียดผิวในสังคมจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นำมาสู่การต่อสู้เพื่อสิทธิและการพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของเทคนิคฝีมือและความเชี่ยวชาญในการผลิตยาสูบจนกลายเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

     อีกหนึ่งข้อสำคัญคือจากผลวิจัยหลายสำนักในสหรัฐอเมริกา ชุมชนคนผิวดำมีอัตราการสูบซิการ์มากที่สุดในสหรัฐอเมริกาตอนนี้ มากกว่าชาติพันธุ์ใดๆ ในประเทศเลยด้วยซ้ำ รวมถึงมีกิจการและกลุ่มสังคมย่อยมากมายที่เป็นดั่งการรวมตัวของคนผิวดำ ข้อมูลส่วนนี้ชี้ให้เห็นถึงระดับความนิยมการสูบซิการ์จนกลายเป็นวัฒนธรรมสำหรับคนจำนวนไม่น้อย ซึ่งหากย้อนกลับไปจะพบว่าภาพจำของผู้บริโภคซิการ์คือกลุ่มชายผิวขาว และมีธรรมเนียมการสูบรวมถึงสร้างภาพจำอันหรูหราเกี่ยวกับการสูบซิการ์ในบริบทต่างๆ จนคนส่วนใหญ่ติดภาพมาถึงทุกวันนี้

     ลองจินตนาการว่าคนผิวดำจะสูบซิการ์อย่างเลิศหรูท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหรา ภาพนี้ไม่ได้ถูกสื่อสารมากเท่าไหร่นัก ในอดีตมีการแบ่งแยกชนชั้นและซิการ์เป็นวัฒนธรรมของชายผิวขาวชั้นสูงที่เสพสมความสุขจากกิจกรรมเช่นนี้ เมื่อกระแสการเติบโตของแฟชั่นคนผิวดำ การยกระดับมาตรฐานความเท่าเทียมในสังคม และความเปิดกว้างของสังคมยุคใหม่ คนดำเริ่มไม่ใช่แค่แรงงาน ผู้ผลิต หรือแม้กระทั่งเจ้าของกิจการยาสูบเพียงเท่านั้น แต่ความเลิศหรู และกิจกรรมการสูบซิการ์กลายเป็นวัฒนธรรมรวมที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม สอดประสานไปกับวัฒนธรรมการสูบซิการ์ลดทอนความซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องเข้าซิการ์บาร์สุดหรู หรืออยู่ในพื้นที่ลักชัวรีจึงจะสูบได้ กลุ่มคนชนชั้นรองในสังคมยุคก่อนจึงเริ่มมีสิทธิ์ในการสูบซิการ์มากยิ่งขึ้น

     เพียงเวลาไม่กี่วินาทีของโดชิบนพรมแดง Met Gala 2025 ที่มาพร้อมซิการ์ในมือและโพสต์ท่าสูบมันอย่างโจ่งแจ้ง หลายคนอาจวิพากษิ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมการสูบซิการ์ที่อาจเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อสังคม แต่สำหรับประวัติศาสตร์ของคนผิวดำมีอะไรยิ่งใหญ่กว่านั้น ซิการ์ในมือเพียงมวนเดียวชวนให้ผู้เขียนค้นคว้าหาที่มาของวัฒนธรรมที่มาและความสำคัญของซิการ์ที่เกี่ยวข้องกับคนผิวดำ นอกจากนี้แฟชั่นที่สะท้อนถึงสไตล์แดนดี้แล้ว พรอปซิการ์ที่โดชิหยิบยกมาวันนี้คือสัญลักษณ์แห่งวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ของคนผิวดำในสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง

(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Met Gala 2025 ได้ที่บทความ แบกเปียโนมาทั้งหลัง! เปิดลุค Met Gala 2025 ของ André 3000 ที่มีเรื่องราวมากกว่าแค่ความไวรัล)