FASHION

BODE นำเสนอคอลเล็กชั่นใหม่ด้วยตุ๊กตาจิ๋ว รำลึกถึงนักประพันธ์เพลงผู้เกี่ยวพันกับดีไซเนอร์

Emily Adams Bode หยิบยกแรงบันดาลใจจาก Moose Charlap และสรรสร้างโลกขนาดจิ๋ว จำลองช่วงชีวิตและบรรยากาศในจังหวะเวลา รวมถึงสถานที่ถึง 4 รูปแบบของนักประพันธ์เพลงผู้มีความเกี่ยวข้องกับครอบครัว

เมื่อโลกแฟชั่นต้องการความสดใหม่อยู่เสมอ หน้าที่ของแบรนด์น้อยใหญ่คือการผลิไอเดียความสร้างสรรค์เพื่อนำเสนอความแปลกแตกต่าง แต่ยังคงวิถีการถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของความสวยงามจากเสื้อผ้าและแอ็กเซสเซอรี่ได้อย่างชัดเจน แคมเปญและลุคบุ๊กประจำซีซั่นคือกุญแจสำคัญในการนำเสนอว่าแบรนด์และดีไซเนอร์ รวมถึงทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์มีแนวคิดที่จะเล่าเรื่องราวของคอลเล็กชั่นต่างๆ ในรูปแบบใด ซึ่ง BODE แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่โด่งดังในเรื่องความสร้างสรรค์ของแคมเปญ ที่แม้จะไม่ค่อยได้จัดโชว์รูปแบบรันเวย์ แต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจจากคนทั่วโลกได้อยู่เสมอ

สำหรับคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 Emily Adams Bode ย้อนเรื่องราวสู่ชีวิตและการทำงานของ Moose Charlap นักประพันธ์แพลงผู้ทำงานในวงการบรอดเวย์ช่วงยุค 50s – 60s ซึ่งเขาเป็นเครือญาติห่างๆ เนื่องจาก Bill Charlap นักเปียโนลูกชายของมูสแต่งงานกับน้าของสามีของเอมิลี่ เรื่องราวชีวิตและการทำงานจึงไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจที่มาจากการอ่านชีวประวัติ แต่เป็นเรื่องราวเล่าขานจากสายเลือดโดยตรง นำมาสู่การสร้างโลกเสมือนที่เป็นดั่งโลกของตระกูลศิลปิน ดังนั้นการจำลองทุกสิ่งออกมาในรูปแบบตุ๊กตาตัวจิ๋วอาจเป็นคำตอบที่ทำให้สามารถสร้างสรรค์โลกจากเรื่องเล่าออกมาได้ตามภาพดั่งจินตนาการ

การนำเสนอคอลเล็กชั่นนี้จึงแบ่งออกเป็นช่วงชีวิตและมุมมองต่างๆ ของมูสถึง 4 รูปแบบ ตั้งแต่การตั้งแคมป์ช่วงวัยเยาว์ วิถีชีวิต ณ สวนสาธารณะ Central Park กลางมหานครนิวยอร์ก บรรยากาศโรงละคร Winter Garden ซึ่งเป็นสถานที่การเริ่มแสดงมิวสิคัลเรื่อง Peter Pan ที่เขาประพันธ์เพลง ปิดท้ายด้วยสตูดิโอของ Fernard Léger จิตรกรมากฝีมือที่กรุงปารีส เส้นเรื่องของชีวิตมูสถูกถ่ายทอดผสมผสานกับเรื่องราวและวิธีการตีความของเอมิลี่ผ่านข้อมูลที่เป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งได้รับมาจากคำบอกเล่าโดยตรง

เหล่าตุ๊กตาตัวน้อยท่ามกลางบรรยากาศตามช่วงชีวิตและสถานที่สำคัญตามประวัติของมูสไม่เพียงแต่ปรากฏขึ้นอย่างตรงไปตรงมา แต่เอมิลี่เลือกสอดแทรกมนต์เสน่ห์ด้านแฟชั่นของแบรนด์โบดี้เข้าไปอย่างสมดุล หากพูดถึงแบรนด์นี้จะต้องนึกถึงกลิ่นอายความวินเทจที่นำเสนองานถักทอ การปัก และแพตช์เวิร์กที่มีเอกลักษณ์ คอลเล็กชั่นนี้ยังนำเสนอสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างครบถ้วนเช่นเดิม เพิ่มเติมคือมันถูกแปรสภาพเป็นชุดตุ๊กตาที่จำลองออกมาเป็นลุคบุ๊กที่มีเอกลักษณ์และเล่าเรื่องราวได้แบบไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีไอเท็มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสูง ไม่ว่าจะเป็นสูทผ้าลูกฟูกลายดอกไม้ งานปักแจ็กเก็ตหนังกลับ หรือแม้กระทั่งไอเท็มชิ้นเบสิกอย่างสูทผ้าวูลก็มีให้เห็นด้วยเช่นกัน มากไปกว่านั้นคอลเล็กชั่นสำหรับผู้หญิงยังเสริมเติมแต่งความสนุกขึ้นอีกระดับด้วยแนวคิดที่จะสร้างสรรค์เสื้อผ้าตามคาแร็กเตอร์ Sandy ภรรยาของมูสที่เป็นนักแสดง โดยคิดคำนึงถึงว่าหากแซนดี้ต้องสวมบทบาทต่างๆ จะสวมเสื้อผ้าอย่างไร มีตั้งแต่ชุดเดรสลายสไตรป์ ไปจนถึงชุดเดรสหรูหราสำหรับค่ำคืนแห่งโอเปร่า และยังมีการหยิบยกแรงบันดาลใจจากผลงานของเฟอร์นันด์ ศิลปินเจ้าของสตูดิโอตามบทบรรยายช่วงชีวิตของมูสมาผสมผสานจนเกิดเป็นลวดลายสะดุดตาอีกด้วย นับเป็นคอลเล็กชั่นที่แปลกใหม่ทั้งวิธีการนำเสนอ และเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวเบื้องหลังอันล้ำลึกและน่าประทับใจ ติดตามชมลุคทั้งหมดในเวอร์ชั่นตุ๊กตาไซซ์จิ๋วได้แล้วที่ด้านล่างนี้เลย