“แว่นกรองแสง” ถือเป็นไอเท็มที่กำลังได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย เนื่องจากปัจจุบันเราใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงาน ซึ่งทำให้หลายคนมองหาตัวช่วยป้องกันแสงจากหน้าจอที่เป็นอันตรายต่อสายตา แต่ในทางกลับกันก็มีคนจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า “แว่นกรองแสงช่วยถนอมสายตาได้จริงหรือไม่?” เพราะฉะนั้นวันนี้โว้กจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมกัน

แสงสีฟ้า (Blue light) คืออะไร?
แสงสีฟ้า (Blue light) เป็นแสงที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ในทุกๆ วัน โดยอยู่ในช่วงแสงสีขาวที่สามารถแบ่งได้ 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง ซึ่งแต่ละสีมีความยาวคลื่นและพลังงานแตกต่างกันออกไป แสงที่เรามองเห็นได้จะอยู่ที่ช่วงความยาวคลื่นประมาณ 400-700 nm โดยแสงสีฟ้าอยู่ที่ช่วงประมาณ 380-480 nm
อันตรายจากแสงสีฟ้า
- นอนหลับได้ไม่สนิท: แสงสีฟ้าเป็นแสงที่กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้รับแสงสีฟ้าในเวลากลางคืนอาจทำให้นอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่สนิท
- อาการเมื่อยล้า ปวดตา ตาพร่ามัว: เชื่อว่าหลายคนที่จำเป็นต้องทำงานหน้าจอนานๆ คงจะเคยประสบปัญหาเมื่อยล้า ปวดตา และตาพร่ามัวกันอย่างแน่นอน ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากดวงตาได้รับแสงสีฟ้าจากหน้าจอเป็นระยะเวลานาน บวกกับการสั่นกระพริบของหน้าจอ ทำให้ดวงตาของเราต้องทำงานอย่างหนักในการปรับโฟกัสภาพ
- อาการตาแห้ง: เมื่อเราใช้สายตาเพ่งตัวอักษรบนหน้าจอมากขึ้น จะทำให้กระพริบตาน้อยลง ซึ่งผลที่ตามมาคืออาการตาแห้ง
- ส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม: อย่างที่ทราบกันดีว่าแสงสีฟ้ามีพลังงานสูงจึงสามารถทะลุเข้าไปทำลายเซลล์รับแสงในประสาทตาได้ ซึ่งส่งผลกระทบให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นแย่ลง แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าแสงสีฟ้าเป็นสาเหตุของโรคจอตาเสื่อม
แว่นกรองแสงช่วยป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าได้จริงหรือไม่?
แว่นกรองแสงช่วยป้องกันดวงตาจากแสงสีฟ้าได้ แต่ไม่ได้มีความจำเป็นมากเนื่องจากดวงตาของเรามีกระบวนการป้องกันจอตาจากแสงสีฟ้าอยู่แล้ว แว่นกรองแสงสีฟ้าจึงไม่จำเป็นต่อบุคคลทั่วไป แต่อาจเหมาะสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้หน้าจอนานๆ ซึ่งการใส่แว่นกรองแสงจะช่วยลดอาการตาล้า และทำให้ผู้สวมใส่สบายตาขึ้นนั่นเอง

วิธีป้องกันอันตรายจากแสงสีฟ้าบนหน้าจอ
- ปรับความสว่างภายในห้องให้มากขึ้น และปรับความสว่างของหน้าจอให้พอดี ไม่ควรมืดหรือสว่างจนเกินไป เพราะจะทำให้ดวงตาทำงานหนักขึ้น และส่งผลให้มีอาการเมื่อยล้าตานั่นเอง
- ปรับระยะห่างระหว่างตากับหน้าจอให้อยู่ประมาณ 18-25 นิ้ว
- หากรู้สึกเมื่อยล้าดวงตาแนะนำให้ทำตามกฎ “20-20-20” คือการพักสายตาทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที โดยการมองไกลออกไปประมาณ 20 ฟุต เพื่อให้ดวงตารู้สึกผ่อนคลาย
กล่าวได้ว่าแว่นกรองแสงเป็นเพียงแค่ไอเท็มที่ช่วยซัพพอร์ตให้รู้สึกสบายตาขึ้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100% นอกจากนี้ยังมีวิธีป้องกันแสงสีฟ้าอีกมากมายที่ช่วยได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหากใครที่ไม่ได้นั่งทำงานหน้าจอนานหลายชั่วโมงติดต่อกัน แว่นกรองแสงก็อาจจะไม่ได้จำเป็นที่สุดนั่นเอง

5 ทรงแว่นตาที่เหมาะที่สุดสำหรับคนหน้ากลม เพราะการเลือกแว่นตาไม่ได้ดูแค่สีหรือดีไซน์!

ครั้งหนึ่งเมื่อภาพยนตร์เรื่อง Top Gun และ Tom Cruise เคยเป็นผู้กอบกู้แว่นตา Ray-Ban ให้ผ่านพ้นวิกฤติ



