FASHION

ล้วงเบื้องหลัง ‘นางงามกองขยะ’ ของแอนนา เสืองามเอี่ยม ที่กว่าจะไชน์ในแบบฉบับของเธอ #BehindtheShine

“แอนนาเชื่อว่าถ้าเรามีความมั่นใจและความพยายาม ถึงแม้จะมาจากกองขยะแต่แอนนาก็สามารถมีวันนี้ได้ค่ะ” แอนนา เสืองามเอี่ยม

     ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมากับกระแสของโลกนางงามที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งบนเวทีประกวด มิสยูนิเวิร์ส ประเทศไทย 2022 พร้อมการปรากฏตัวของนางงามอย่าง “แอนนา เสืองามเอี่ยม” ผู้คว้ามงกุฎที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝันไปครอบครอง ความสำเร็จอันสวยงามที่เราเห็นเธอไชน์ได้ในวันนี้นั้น หากมองลึกไปให้ถึงเบื้องหลังมันคือกระจกสะท้อนถึงความพยายาม ความมุมานะที่จะฝ่าฟันต่ออุปสรรคอย่างไม่หยุดหย่อนและไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา จนเธอสามารถก้าวขึ้นมาสู่ตำเเหน่งที่ใฝ่ฝันในวันนี้ได้

    โว้กประเทศไทยได้รับโอกาสพิเศษในการร่วมพูดคุยกับแอนนาถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เธอได้ประสบพบเจอมาทั้งในชีวิตจริงที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคตลอดจนเรื่องราวดราม่าที่เธอถูกวิจารณ์จากสังคมนางงาม

      โว้กคงต้องขอใช้ศัพท์ง่ายๆ อย่างคำว่า “สมมง” ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่แฟนนางงามมักใช้เพื่อเป็นการอธิบายถึงความเหมาะสมในการเป็นเจ้าของมงกุฎในการประกวดแต่ละเวที ซึ่งเธอได้บอกเล่าเรื่องราวถึงเบื้องหลังการเติบโต โดยที่มีคุณพ่อและคุณแม่ประกอบอาชีพเป็น “พนักงานทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ”  ซึ่งชีวิตของเธออาจจะไม่ได้เติบโตมาอย่างเพียบพร้อมเฉกเช่นที่ใครวาดภาพเอาไว้ กระนั้นเองการตอบคำถามของเธอก็ยังคงสร้างความประทับใจให้ใครหลายคน รวมถึงยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่อาจจะเติบโตมาในลักษณะที่คล้ายกัน



WATCH




      “นางงามกองขยะ...ส่วนตัวแอนนามองว่าคำนี้มันไม่ได้เป็นการด้อยค่าตัวเราเลยแม้แต่น้อย แอนนากลับรู้สึกชอบเสียด้วยซ้ำ เพราะคำนี้คือคำเดียวที่บอกเล่าเรื่องราวและตัวตนของแอนนาได้อย่างชัดเจน แถมยังแฝงไปด้วยความขัดแย้งในตัวไว้ด้วยว่า ถึงแม้เราจะโตมาจากคำว่า ‘ขยะ’ แต่เราก็สามารถ Shine ในแบบของเราได้” นี่คือคำตอบของแอนนาประเด็นเรื่อง #นางงามกองขยะ ทว่าความหนักอึ้งของเรื่องราวเหล่านี้อาจจะยังไม่เพียงพอ แอนนาได้เล่าต่อไปอีกว่านอกจากเรื่องของครอบครัวเธอจะเป็นที่ถกเถียงแล้ว ในเรื่องของทักษะด้านภาษาของเธอยังกลายมาเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกคนเอาบูลลี่เช่นกัน ซึ่งเธอเผยกับโว้กขณะร่วมทำแคมเปญครั้งสำคัญนี้ว่ากว่าเธอจะก้าวข้ามช่วงเวลาที่บั่นทอนมาได้นั้น เธอยังคงต้องฝ่าฟันมาด้วยความลำบากอยู่ไม่น้อย

     ไม่เพียงเล่าถึงช่วงเวลาแห่งความยากลำบากเท่านั้น ทว่าแอนนายังเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เธอเปี่ยมไปด้วยความสุข และความมั่นใจในแบบฉบับของเธอเช่นกัน โดยเธอเผยว่าช่วงเวลาที่เธอต้องขึ้นประกวดในรอบชุดว่ายน้ำนั้นเต็มไปด้วยความเครียดและความกดดันต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามา เพราะการเดินบนรันเวย์ภายใต้ชุดว่ายน้ำที่ไม่มีลูกเล่นของระบายผ้าเหมือนกับชุดอื่นๆ ในรอบก่อนหน้า ทำให้เธอเองก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่เมื่อเธอใช้ความมั่นใจเป็นตัวนำและทำให้จับจุดได้ มันทำให้แอนนาได้ไชน์ประกายในตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่

"เพราะว่าการประกวดในรอบอื่นๆ เรายังมีชุดให้เล่น มีกระโปรงพลิ้วๆ แต่ในรอบชุดว่ายน้ำ เราไม่สามารถเล่นอะไรได้เลย แอนนาเลยจำเป็นต้องเดินให้เป๊ะ และพยายามทำผมให้พลิ้วที่สุด เอาผมของเราให้มันเด้งเหมือนนางพญามากที่สุด จะได้ทำให้โมเมนต์นั้นกลายเป็นโมเมนต์ที่ทุกคนประทับใจค่ะ"

      โว้กยังได้ถามต่อไปถึงเคล็ดลับความมั่นใจของแอนนาที่ทำให้เธอนั้นได้เปล่งประกาย พร้อมเผยตัวตนที่เต็มไปด้วยความสามารถและดูแข็งแกร่งมากขึ้นในตอนนี้ "กว่าจะมาถึงการประกวดนางงาม แอนนาผ่านเรื่องราวมากมาย ต้องหมั่นฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าเราเปล่งประกายได้มากที่สุด จนไปถึงเป้าหมายที่วาดไว้ แต่เราต้องไม่ลืมนะคะ ว่าเราเคยเป็นใครมาจากจุดไหน หากเรามีความพยายาม ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ถึงแม้จะมาจากกองขยะ แต่แอนนาก็มีวันนี้ได้ค่ะ"

     หลังจากที่เราพูดคุยกันอย่างออกรสมาสักพักแล้ว คงถึงเวลาที่ต้องจากกัน โดยแอนนายังได้ทิ้งท้ายข้อความสั้นๆ ที่ทำให้โว้กได้รู้จักและเข้าใจในตัวตนของเธอมากยิ่งขึ้น “แอนนาเชื่อว่าชีวิตก็เหมือนกับเส้นผมทุกเส้น ถึงจะมีต้นทุนที่ไม่เท่ากัน แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่น ใส่ใจดูแล เราก็สามารถเปล่งประกายความงามจากภายในได้อย่างมั่นใจ ส่องสว่างความไชน์ออกมาในทุกรายละเอียด และพาเราไปอยู่ในจุดที่เราตั้งใจไว้ได้จริงๆค่ะ ” เธอกล่าวก่อนที่จะทิ้งรอยยิ้มเเละดวงตาอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับเรา


WATCH