Alexander McQueen, Alexander McQueen Birds, Alexander McQueen ตาย, Alexander McQueen อายุ, Alexander McQueen ประวัติ
FASHION

ย้อนรอยคอลเล็กชั่น ‘Birds’ สุดยอดผลงานของ Alexander McQueen ที่สั่นสะเทือนโลกแฟชั่น

Seán McGirr กำลังหยิบยกแรงบันดาลใจอันเข้มข้นจากเมื่อ 3 ทศวรรษก่อนมารังสรรค์ใหม่ แต่มิติความเข้มข้นของ Alexander McQueen ในยุคนั้นอาจสะท้อนให้เห็นว่าเขายังก้าวไปไม่ถึง

     ท่ามกลางวังวนแห่งความแคลงใจและคาดหวัง แบรนด์ Alexander McQueen ภายใต้การนำทัพของ Seán McGirr จึงจัดโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ด้วยความกดดัน หัวเรือใหญ่คนใหม่ต้องเฟ้นหาวิธีสร้างความประทับใจให้กับสาวกพันธุ์แท้ที่ติดตามมนต์เสน่ห์ของแบรนด์ที่ก่อตั้งโดยดีไซเนอร์ระดับตำนาน และแล้วก็เกิดเป็นโชว์ที่หลายคนคาดหวังโดยหยิบจับเอากลิ่นอายของคอลเล็กชั่นชื่อ ‘Birds’ มาตีความและนำเสนอใหม่ภายใต้รูปแบบแฟชั่นในยุคปัจจุบัน ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม ชอนกลายเป็นเป้าสังคมแฟชั่นไปโดยทันที วันนี้โว้กจะพาย้อนกลับไปสู่คอลเล็กชั่นดั้งเดิมเมื่อเกือบ 3 ทศวรรษก่อนของแบรนด์ที่เป็นแรงบันดาลใจว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่

 

อ่านบทความเรื่อง Alexander McQueen ยุคใหม่! กับเสื้อผ้าที่ยังไร้จิตวิญญาณของแบรนด์ ในยุค Seán McGirr ได้ที่ vogue.co.th/fashion/inspirations/article/alexander-mcqueen-autumn-winter-2024

Alexander McQueen, Alexander McQueen Birds, Alexander McQueen ตาย, Alexander McQueen อายุ, Alexander McQueen ประวัติ

ความโกลาหลและระทึกขวัญในภาพยนตร์เรื่อง The Birds (1963) โดย Alfred Hitchcock ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับโชว์ Alexander McQueen คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 1995 / ภาพ: Moxie Cinema

     คอลเล็กชั่นที่ชื่อว่า ‘Birds’ ของแบรนด์อเล็กซานเดอร์ แม็กควีน ฉบับดั้งเดิมถือกำเนิดขึ้นในคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 1995 ต้นสายของแรงบันดาลใจเกิดจากผลงานภาพยนตร์ “The Birds” ของผู้กำกับชื่อดังอย่าง Alfred Hitchcock ตำนานผู้รังสรรค์งานศิลปะระทึกขวัญบนจอเงิน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของการโจมตีอย่างฉับพลันของเหล่าฝูงนกและหาคำอธิบายไม่ได้ ณ ย่านหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ความโกลาหลวุ่นวายและระทึกจิตถูกขับเคี่ยวผ่านวิธีการเล่าเรื่องของอัลเฟรด นอกจากนี้ยังสร้างความอึดอัดและสะท้อนภาพความแข็งแกร่งของนกในแบบที่เหนือจินตนาการ ผลงานชิ้นนี้จึงถูกยกให้เป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งจนต้องถูกเก็บรักษาไว้โดยองค์กรระดับประเทศเลยทีเดียว



WATCH




     เมื่อแรงบันดาลใจด้านเชิงศิลป์และการเล่าเรื่องถูกหยิบยกขึ้นมา สิ่งที่ดีไซเนอร์ระดับตำนานไม่เคยพลาดคือการต่อยอดและผูกโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน การศึกษาเพิ่มเติมของลี แม็กควีนคือการเจาะลึกถึงเรื่อง ‘Ornithology’ หรือการศึกษาเกี่ยวกับนกอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังเชื่อมเรื่องราวเข้ากับเรื่อง ‘Roadkill’ หรือเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ที่ถูกยานพาหนะชนจนเสียชีวิต ความมืดมนและด้านเลวร้ายถูกแปรเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจสอดประสานกับกายภาพของนกและรูปแบบของความเกรี้ยวกราด ทรงพลัง รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกอันเข้มข้น

     การสื่อสารด้วยวัสดุ รูปทรง และรายละเอียดคือหัวใจสำคัญของลีเสมอมา ในคอลเล็กชั่นอันเลื่องชื่อนี้เขาเลือกใช้ขนนกและลายพิมพ์นกเพิ่มเข้ามาเพื่อสื่อสารทางตรงกับผู้ชม พร้อมทั้งเลือกใช้วัสดุแปลกตาอย่างเทปและยางรถยนต์เพื่อสื่อถึงอุบัติเหตุกระชากชีวิตสัตว์ต่างๆ บนท้องถนนแบบทางอ้อม มาพร้อมกับเซ็ตติ้งที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่างยิ่งกับแนวถนนเส้นตรงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยคราบแห่งความสกปรก ขับอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมรู้สึกถึงนกทั้งในรูปแบบมีชีวิตและซากนกไร้วิญญาณที่จะปรากฏบนถนนเหล่านี้ ความแข็งแกร่งทรงพลังเหล่านี้คือข้อความที่มีความหมายโดยนัยอันแสดงถึงแรงบันดาลใจอันเข้มข้นของลีจนกลายมาเป็นแฟชั่นบนรันเวย์

     ความเข้มข้น หนักแน่น และเกรี้ยวกราดคือพลังของแฟชั่นในแบบฉบับของลีโดยแท้ การตีความนกที่ไม่ได้พลิ้วไหวสวยงามไปเสียทั้งหมดสร้างความตื่นตะลึงในโลกแฟชั่นได้ไม่น้อย อีกทั้งการรังสรรค์เสื้อผ้ายังเต็มไปด้วยความแปลกใหม่ รื้อสร้างทุกองค์ประกอบและค่อยๆ บรรจงใส่เข้าไปใหม่ในรูปลักษณ์ที่ไม่เคยซ้ำ เรื่องราวเบื้องหลังคอลเล็กชั่นที่น่าหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าบนเรือนร่างของผู้หญิง จุดนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าลีกำลังสวมกรอบของเหยื่อความโหดร้ายลงบนตัวผู้หญิงหรือไม่ ซึ่งลีก็ตอบกลับอย่างชัดเจนว่า เขาออกแบบเสื้อผ้าเพราะไม่ได้ต้องการให้ผู้หญิงดูไร้เดียงสาหรือใสซื่อ นำมาสู่การตีความผ่านมิติการเสพศิลป์ว่าแม้มันจะเป็นรูปแบบของความโหดร้าย ไม่ใช่ความพลิ้วไหวสวยงามดั่งปีกนกที่คุ้นตา แต่มันก็ทำให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้แข็งแกร่งและทรงพลัง ซึ่งมันก็สอดคล้องไปกับวิธีการโจมตีของนกในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Birds’ อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เช่นกัน

     “ผู้หญิงคือผู้อยู่รอดอย่างแข็งแกร่ง ไม่ใช่เหยื่อผู้อ่อนแอ” ต่อยอดการตีความด้วยแนวคิดที่ทำให้ผู้หญิงยืนหยัดผ่านประสบการณ์อันหฤโหดมาได้ด้วยความหนักแน่น ทั้งหมดถูกสื่อสารผ่านรูปแบบศิลปะที่ใช้สัญญะความรุนแรงและความตาย รวมถึงการสร้างมิติด้านความงามให้ลดทอนความเป็นมนุษย์ มันไม่ใช่การสื่อสารโดยตรง แต่มันคือการเสียดสีและสร้างความตระหนักรู้ผ่านแฟชั่น ซึ่งลีดำเนินการเรื่องนี้ด้วยข้อความอันเข้มข้นจนสร้างข้อวิพากษ์วิจารณ์ และนั่นคือสิ่งที่เขาถนัดทำมาทั้งชีวิต อีกทั้งนี่ยังเปรียบเหมือนจุดเริ่มต้นของการนำเสนอความจัดจ้านทะลุกรอบสังคมจนได้รับความสนใจและเป็นแฟชั่นโชว์ที่ได้รับคำวิจารณ์โต้เถียงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นดั่งรากฐานของงานศิลปะแฟชั่นยุคใหม่ที่เป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้า

Alexander McQueen, Alexander McQueen Birds, Alexander McQueen ตาย, Alexander McQueen อายุ, Alexander McQueen ประวัติ

Lee Alexander McQueen ออกมารับเสียงปรบมือช่วงสุดท้ายเพื่อปิดโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 1995 อย่างสมบูรณ์แบบ

     ความล้ำลึกของลีที่สร้างชื่อแบรนด์อเล็กซานเดอร์ แม็กควีนให้ดั่งขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศโดยสมบูรณ์ คอลเล็กชั่นนี้คือตัวอย่างของงานศิลปะแฟชั่นที่เป็นที่ถกเถียงเป็นวงกว้าง เรื่องราวแรงบันดาลใจเบื้องหลังถูกนำเสนออกมาอย่างเข้มข้น ผสมผสานกับรูปแบบความสวยงามอันได้อิทธิพลมาจากการศึกษาต่อยอดเพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างแรงบันดาลใจด้านศิลปะแบบนามธรรมและความเป็นรูปธรรมที่ปรากฏขึ้นผ่านรูปทรง รายละเอียด และสีสัน ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกองค์ประกอบต้องถูกประกอบสร้างเข้าด้วยกันอย่างลงตัวที่สุด มันจึงสามารถสื่ออารมณ์ เรื่องราว และผลงานการออกแบบอันซ่อนนัยสำคัญบางอย่างไว้ นี่คือสิ่งที่สาวกแฟชั่นทุกคนเฝ้ารอคอยและคาดหวังกับชอนในฐานะหัวเรือใหญ่คนใหม่ และคงเข้าใจได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นผิดหวังไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนรันเวย์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 เพราะคอลเล็กชั่นดังกล่าวมันช่างไร้อารมณ์รู้สึกเสียเหลือเกินเมื่อนำมาเทียบกับผลงานฉบับดั้งเดิมของดีไซเนอร์ผู้จะถูกจดจำในฐานะสุดยอดตำนานแห่งโลกแฟชั่นผู้ก่อตั้งแบรนด์คนนี้

ภาพ: Condé Nast Archive

WATCH

คีย์เวิร์ด: #AlexanderMcQueen