การเลือกน้ำยาซักผ้าไม่ใช่แค่เรื่องของกลิ่นหอมหรือขจัดคราบได้ดีเท่านั้น แต่ยังควรมองลึกถึงเรื่องสุขภาพของผู้ใช้ อายุการใช้งานของผ้า และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราอีกด้วย เพียงแค่เริ่มจากการอ่านฉลาก ใช้ในปริมาณที่พอดี และเลือกให้ตรงกับประเภทเสื้อผ้าและเครื่องซักผ้าที่ใช้ เท่านี้ก็จะช่วยให้เสื้อผ้าสะอาดนุ่มนวล ลดอาการระคายเคืองของผิวลงได้ ในบทความนี้ โว้กพามาเปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับน้ำยาซักผ้า เลือกใช้อย่างไรให้ถูกต้องและเกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
-
ส่วนผสมของน้ำยาซักผ้ามีผลต่อสุขภาพและผิวหนัง
น้ำยาซักผ้าบางยี่ห้ออาจมีสารเคมีรุนแรง เช่น SLS (Sodium Lauryl Sulfate), ฟอสเฟต, น้ำหอมสังเคราะห์, พาราเบน หรือสารกันบูด ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวบอบบาง เด็กเล็ก หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้ แนะนำให้เลือกสูตรอ่อนโยน หรือมองหาที่มีคำว่า ‘Hypoallergenic’ สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หากมีอาการคัน ผื่นขึ้น หรือแพ้ผิวหนัง ควรลองเปลี่ยนน้ำยาซักผ้าเป็นสูตรออร์แกนิกหรือไม่มีน้ำหอมจะดีกว่า
-
น้ำยาซักผ้าขาวและผ้าสีใช้งานแยกกัน
สูตรของ ‘น้ำยาซักผ้าขาว’ กับ ‘น้ำยาซักผ้าสี’ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า เพราะถ้าใช้น้ำยาผ้าขาวไปซักผ้าสีอาจเกิดรอยด่าง สีตกได้ง่าย แต่ถ้าใช้น้ำยาผ้าสีไปซักผ้าขาวก็มักได้ความสะอาดไม่เพียงพอ

Photo by Rachel Claire from Pexels:
https://www.pexels.com/photo/women-clothes-on-hangers-in-shop-5531540/
-
น้ำยาซักผ้าที่แรงเกินไป ทำให้ผ้าเสื่อมเร็ว
น้ำยาซักผ้าที่มีฤทธิ์กัดสูงแม้จะขจัดคราบได้ดี แต่ในระยะยาวอาจทำให้เสื้อผ้าสีซีด เส้นใยผ้าเปื่อย และเนื้อผ้าหยาบกระด้างเร็วขึ้น ควรเลือกน้ำยาที่เหมาะกับประเภทผ้า เช่น สูตรสำหรับผ้าสี ผ้าขาว หรือผ้าละเอียด ถ้าหากซักผ้าเนื้อบางอย่าง ผ้าชีฟอง ผ้าลูกไม้ ผ้ายืด ควรเลือกสูตรซักถนอมผ้าโดยเฉพาะ รวมถึงการใส่น้ำยามากเกินความจำเป็นก็ไม่ได้ช่วยให้สะอาดขึ้น แต่อาจกลับทำลายเนื้อผ้าและเปลืองน้ำยาซักผ้าโดยใช่เหตุ
-
น้ำยาซักผ้าอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
น้ำยาซักผ้าบางชนิดมีสารที่ย่อยสลายยาก เช่น ฟอสเฟต ซึ่งเมื่อถูกปล่อยลงแหล่งน้ำ จะทำให้เกิดการเติบโตเกินควบคุมของสาหร่ายในแม่น้ำลำคลอง ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และสัตว์น้ำขาดอากาศหายใจ แนวทางที่เป็นมิตรกับโลก แนะนำให้เลือกน้ำยาซักผ้าที่ระบุว่า ‘biodegradable’ หรือย่อยสลายได้ทางชีวภาพ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารเรืองแสง น้ำหอมแรงจัด และฟองเยอะเกินไป
-
ใช้น้ำยาซักผ้าผิดประเภท = ลดประสิทธิภาพการซัก
น้ำยาซักผ้ามีหลากหลายประเภท ทั้งแบบใช้มือ แบบสำหรับเครื่องฝาหน้า หรือฝาบน ซึ่งแต่ละแบบออกแบบให้ทำงานร่วมกับแรงหมุนและปริมาณฟองที่ต่างกัน ฉะนั้นน้ำยาสำหรับเครื่องฝาหน้า ไม่ควรใช้กับเครื่องฝาบน เพราะอาจทำความสะอาดไม่พอ ส่วนน้ำยาซักผ้ามือหรือน้ำยาซักผ้าที่มีฟองเยอะ ไม่ควรใช้กับเครื่องซักผ้า เพราะจะเกิดฟองล้น ทำให้เครื่องทำงานผิดปกติหรือเสื่อมเร็ว ทางที่ดีควรอ่านฉลากก่อนทุกครั้งและเลือกให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ใช้

Photo by Tima Miroshnichenko from Pexels:
https://www.pexels.com/photo/woman-in-a-public-launderette-8774420/
-
หมั่นสังเกตเสื้อผ้าหลังซัก
บางครั้งปัญหาเล็กๆ ที่มองข้าม เช่น สีตก ผ้าแข็ง หรือรู้สึกคันหลังใส่เสื้อผ้า อาจเป็นผลมาจากน้ำยาซักผ้าที่ไม่เหมาะกับผิวหรือชนิดผ้า แนะนำให้หมั่นสังเกตเสื้อผ้าหลังซักเสร็จ หากเสื้อผ้าเริ่มสีหม่น หรือผิวรู้สึกแห้ง คัน ลองเปลี่ยนยี่ห้อหรือสูตรดู หรือถ้าเสื้อขาวหม่นเร็ว อาจเกิดจากสารตกค้างในน้ำยาที่ซักไม่หมด รวมถึงถ้าน้ำยาซักผ้ามีกลิ่นฉุนจนเกินไป ลองเปลี่ยนเป็นแบบ fragrance-free แล้วสังเกตความแตกต่างหลังจากเปลี่ยนประเภทของน้ำยาซักผ้า