elie saab
FASHION

คุยกับ 'Elie Saab' เจ้าของผลงาน 'Golden Dawn' ที่ผสานความเป็นไทยและตะวันตกไว้อย่างลงตัว

ด้วยแรงบันดาลใจจากราชสำนัก นำมาสู่ 'Golden Dawn' คอลเล็กชั่นโอตกูตูร์อันงดงามที่ร้อยเรียงผสมผสานวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว

     โอตกูตูร์ครั้งล่าสุดของเอลี ซาบหยิบเอาความรุ่มรวยของวัฒนธรรมไทยมาตีโจทย์เป็นคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าที่สื่อถึงมรดกทางอารยธรรมที่สั่งสมมายาวนาน จุดเริ่มต้นคือความต้องการถ่ายทอดความสง่างามของขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งราชสำนักอันเป็นความหลงใหลส่วนตัว ลงในคอลเล็กชั่นที่มีกลิ่นอายสไตล์การแต่งตัวแบบไทยโบราณแต่ทำให้มีความทันสมัยและงดงามตามแบบฉบับของเอลี ซาบ หางปลา พญานาค และดอกบัวบนความเรืองรองของลายปักอันแสนวิจิตรทำให้คอลเล็กชั่นนี้สะท้อนความเป็นไทยในมุมมองของคนต่างชาติได้อย่างน่าสนใจ โว้กประเทศไทยมีโอกาสสัมภาษณ์ดีไซเนอร์ชาวเลบานอนผู้นี้ถึงการนำความเป็นไทยมาตีโจทย์อย่างสร้างสรรค์ และแน่นอนว่าเขาทำออกมาได้ดีสมศักดิ์ศรีเบอร์หนึ่งแห่งโลกกูตูร์ของศตวรรษนี้

 

Vogue: องค์ประกอบไหนของวัฒนธรรมไทยที่คุณเลือกมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้

Elie Saab: ผมได้แรงบันดาลใจมาจากราชวงศ์และพระราชพิธี รวมถึงพิธีต่างๆ ในวัฒนธรรมไทย ผมใช้เวลาสร้างธีมอย่างละเอียดเพื่อให้คอลเล็กชั่นนี้สะท้อนความมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ สำหรับผมนี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็นไทย

 

V: มุมมองที่คนต่างชาติมีต่อวัฒนธรรมไทยค่อนข้างแตกต่างจากที่คนไทยมอง ในฐานะที่คุณเป็นชาวต่างชาติที่มองเข้ามา คุณตีความหมายของวัฒนธรรมไทยอย่างไร

ES: ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่เข้าใจวัฒนธรรมไทยดีเท่าคนไทย แต่ผมก็ทึ่งในความรุ่มรวยของอารยธรรมโบราณของไทย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีหรือการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ทุกอย่างคือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งซึ่งสิ่งเหล่านี้เปิดโอกาสไปสู่การสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ รวมถึงเปิดโอกาสให้เราต่อยอดไปสู่การตีความอื่นๆ ได้อีกมากมาย

 



WATCH




V: ก่อนจะออกมาเป็นคอลเล็กชั่นนี้ คุณใช้เวลานานไหมในการศึกษาวัฒนธรรมไทย

ES: ผมเริ่มทำงานธีมนี้อยู่ 8 เดือนก่อนเริ่มโชว์ ในสตูดิโอโอตกูตูร์ของเรา เราศึกษาเกี่ยวกับพระราชพิธี พิธีการต่างๆ ของไทยในหลายแง่มุม เรามองหาพวกสัญลักษณ์ต่างๆ รูปทรง วัสดุ และสีที่เข้ากับมุมมองที่เราต้องการนำเสนอเพื่อให้ตรงกับวิสัยทัศน์ของผม เพราะเวลาทำคอลเล็กชั่น เราไม่ได้ใส่ใจแค่เรื่องธีม แต่ต้องสอดคล้องกับดีเอ็นเอของเอลี ซาบด้วย

 

V: ตอนทำคอลเล็กชั่น คุณได้พูดคุยกับคนไทยเกี่ยวกับการเลือกผ้า รูปทรง สี หรือแพตเทิร์นบ้างไหม

ES: ไม่ครับ นี่เป็นการตีความของผมเอง

 

V: มีอะไรที่คุณตั้งใจจะสื่อสารความเป็นไทยผ่านคอลเล็กชั่นนี้บ้าง ยกตัวอย่างเช่น พญานาค ปลา หรือดอกบัว เพราะอะไรคุณถึงเลือกสิ่งเหล่านี้มานำเสนอ

ES: สิ่งเหล่านี้สำคัญ เพราะเป็นการตีความวัฒนธรรมไทยจากมุมมองของผม ผมตีโจทย์สัญลักษณ์เหล่านี้แล้วนำไปสอดแทรกไว้ในรายละเอียดต่างๆ อยู่ในซิลูเอตเกือบทั้งหมด แต่ใช้เทคนิคการนำเสนอที่แตกต่างกันไป ซึ่งสตูดิโอโอตกูตูร์ของเราทำออกมาได้อย่างมหัศจรรย์ จึงออกมาเป็นงานปักและลวดลายที่มีความละเอียดประณีตแต่ก็แสดงถึงความเกรียงไกรด้วย เราได้สอดแทรกองค์ประกอบของพญานาคเข้ามาบางส่วน เห็นได้จากลายปักบนชุดกระโปรงและชุดราตรียาว ส่วนดอกบัว ผมตั้งใจใส่ความละมุนละไมของดอกบัวไว้ในบางลุค บางลุคก็นำมาทำเป็นดอกใหญ่ประดับบนชุดราตรีเพื่อให้ดูโดดเด่นสวยสง่า

 

V: ในส่วนของการเลือกใช้สี คุณตั้งใจใช้สีอ่อนคู่กับงานปักสุดพิถีพิถันในคอลเล็กชั่น Golden Dawn ด้วยใช่ไหม

ES: แน่นอนครับ พาเลตต์สีของคอลเล็กชั่นนี้มีสีอ่อนละมุน เมื่อจับคู่กับงานปักจะดูเรืองรอง ส่วนตัวผมชอบสีโทนร้อนเพราะมันทำให้ผมนึกถึงบ้านเกิดของตัวเองแล้วก็เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ด้วย ขณะเดียวกัน ผมก็พยายามใส่ความสว่างของแสงอาทิตย์เข้าไปในงานดีไซน์ของผม โดยตีความออกมาเป็นวัสดุที่มีความแววววาวและงานปักอันตระการตา แม้ว่าพาเลตต์สีที่ใช้ในเมืองไทยจะสว่างกว่านี้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะคอลเล็กชั่นนี้ผมเลือกโฟกัสไปที่สัญลักษณ์ รูปทรง และโครงสร้างเสื้อผ้ามากกว่า

 

V: คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าการออกแบบของคุณทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน คุณรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนี้

ES: เป้าหมายของผมตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ คืออยากให้ผู้หญิงรู้สึกเหมือนฝัน และผมจะทำให้พวกเธอสวยที่สุด ความสุขของผมคือการได้เห็นดวงตาของพวกเธอเป็นประกายเมื่อใส่ชุดของผม

 

 

V: คุณชอบอะไรมากที่สุดในคอลเล็กชั่นนี้

ES: งานปักอันตระการตาที่แสดงถึงความหรูหรามั่งคั่ง อันที่จริงทุกคอลเล็กชั่นของผมมักมีเรื่องราวเสมอ แต่ผมจะซาบซึ้งใจมากเมื่อได้ส่งผลงานออกสู่สายตาสาธารณชน เพราะทุกคอลเล็กชั่นจะไม่มีความหมายเลยถ้าไม่มีผู้ชม

 

V: ในคอลเล็กชั่นมีเสื้อผ้าผู้ชายผสมเข้ามาด้วย มันสำคัญอย่างไร

ES: นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมทำเสื้อผ้าผู้ชายในโชว์โอตกูตูร์ ธีมของคอลเล็กชั่นนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมเนียมพิธีต่าง ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีเสื้อผ้าผู้ชายด้วย ซิลูเอตเสื้อผ้าผู้ชายผมใช้สีสว่างเพื่อแสดงความเคารพเสื้อผ้าผู้ชายที่สวมในพิธีต่างๆ ของคนไทย

 

 

V: คุณคิดว่าคนไทยจะมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อคอลเล็กชั่นนี้

ES: เรามีลูกค้าคนไทยเยอะ ผมหวังว่าพวกเขาจะให้การตอบรับที่ดีและคิดว่านี่คือการตีความความเป็นไทยออกมาในมุมที่งดงาม

 

V: คุณจะนำวัฒนธรรมไทยกลับมาใช้ในงานดีไซน์คอลเล็กชั่นต่อๆ ไปไหม

ES: ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยใช้ธีมเดิม แต่ก็มีวัฒนธรรมไทยบางส่วนที่ผมอาจจะนำมาเล่นอีกก็ได้ ผมรู้สึกว่าตัวเองได้แรงบันดาลใจมาจากแง่มุมอื่นๆ เช่นกัน

 

V: หลังจากสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นนี้เสร็จ คุณมีความคิดอยากจะมาเที่ยวเมืองไทยบ้างไหม

ES: แน่นอนครับ ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

 

ช่างภาพ : Charlotte Krieger
สไตลิสต์ : Natalie Yuksel
นางแบบ : Shuting Yang
แต่งหน้า : Anna Sadamori
ทำผม : Sachi Yamashita
แคสติ้งไดเร็กเตอร์ : Sébastien Hernandez
ผู้ช่วยช่างภาพ : Valentin Godineau
ขอบคุณ : Maria at Studio La Brique Rouge
สัมภาษณ์ : Rachel Melissa Brennan
แปลและเรียบเรียง : ฐาดิณี รัชชระเสวี

WATCH

คีย์เวิร์ด: #ElieSaab #GoldenDawn #VogueThailandApril2023