หากจะกล่าวถึงผ้าที่ผู้คนนิยมนำมารังสรรค์ลุคในยุคสมัยนี้ “ผ้าชีฟอง” คงเป็นอันดับแรกๆ ที่นึกถึง เพราะเป็นผ้าน้ำหนักเบา มีความแวววาว และโปร่งแสง จึงได้รับความนิยมในการนำมาออกแบบเสื้อผ้าที่เน้นความสง่างามและความหรูหรา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันผ้าชีฟองก็ได้แพร่หลายในวงการแฟชั่นและนับว่าเป็นการออกแบบที่ผ่านมานานหลายศตวรรษ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าผ้าชีฟองมีความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม ซึ่งวันนี้โว้กจะมาเปิดประวัติและที่มาที่ไปของผ้าชีฟองให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับผ้าชนิดนี้กันมากขึ้น

 

 

     “ชีฟอง” เป็นคำที่ใช้เรียกผ้าที่มีความโปร่ง น้ำหนักเบา และกึ่งโปร่งแสง ผ้าชนิดนี้ผลิตขึ้นครั้งแรกในฝรั่งเศส แต่เดิมทำมาจากผ้าไหมซึ่งมีราคาแพง และเป็นที่ต้องการในหมู่สตรีชนชั้นสูงในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และเนื่องจากผ้าชีฟองทำจากผ้าไหมเป็นหลัก จึงมีราคาแพงมากและใช้ในแฟชั่นและการออกแบบซึ่งบ่งบอกถึงสถานะอันสูงส่ง รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความอุดมสมบูรณ์ โดยกระบวนการทอผ้าชีฟองจะทำให้เกิดรอยย่นเล็กๆ ที่เกิดจากการใช้เส้นด้ายเครปแบบ s-twist และ z-twist บิดเกลียวกันแน่นที่จะทำให้เนื้อผ้ามีสัมผัสที่หยาบเล็กน้อย ต่อมาการผลิตในสหรัฐอเมริกาเริ่มเปลี่ยนมาใช้เส้นใยอื่นในการทอผ้าชีฟอง เช่น ในปี 1938 ผ้าชีฟองจากไนลอนถูกผลิตขึ้น และผ้าชีฟองจากโพลีเอสเตอร์ก็ถือกำเนิดขึ้นในปี 1958 ด้วยการผลิตผ้าชีฟองสังเคราะห์เหล่านี้ จึงทำให้ผู้คนเข้าถึงผ้าชีฟองได้มากขึ้นและเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงมักถูกนำมาใช้เป็นผ้าซ้อนทับหรือเป็นผ้าฐานสำหรับงานปัก ลูกปัด และคริสตัลที่เย็บด้วยมือ

 

 

     ด้วยเนื้อผ้าที่มีลักษณะโปร่งแสงและเบากว่าผ้าชนิดอื่นๆ แต่ยังคงความเรียบลื่นและแวววาว จึงนิยมนำมารังสรรค์ชุดราตรี ซึ่งวัสดุนี้มักใช้เป็นผ้าซ้อนทับบนผ้าอื่นเพื่อสร้างมิติและเพิ่มวอลลุ่มให้กับเสื้อผ้า, เสื้อเบลาส์ สำหรับสร้างความพลิ้วไหว, ชุดชั้นใน อันมีลักษณะโปร่งใสและเบาบาง, ของใช้ในบ้าน อาทิ ผ้าม่านโปร่งมักทำจากผ้าชีฟอง ด้วยลักษณะที่แวววาวของผ้าทำให้เป็นตัวเลือกในการตกแต่งที่ดี และความโปร่งแสงของผ้าช่วยให้แสงส่องผ่านหน้าต่างได้ และผ้าพันคอหรือผ้าคาดเอว ซึ่งไอเท็มเหล่านี้จะช่วยยกระดับความหรูหราให้กับลุคได้เป็นอย่างดี

 

 

     ทั้งนี้เรื่องการดูแลรักษาผ้าชีฟองขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นใยผ้า โดยส่วนใหญ่ผ้าไหมชีฟองควรใช้วิธีซักแห้ง แตกต่างไปจากผ้าชีฟองโพลีเอสเตอร์และผ้าชีฟองไนลอนสามารถซักด้วยมือ หรือซักเครื่องด้วยโปรแกรมการซักที่นุ่มนวล รวมถึงควรใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน หลังจากนั้นจึงซักล้างด้วยน้ำเย็น อาจแช่ไว้ 30 นาที อย่าทิ้งไว้ในน้ำนาน เพราะอาจสีย้อมจางและซีดลง เมื่อซักเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่ควรบิดผ้า เพราะผ้าชีฟองเสียทรงได้ง่าย อีกทั้งไม่ควรใช้คลิปหนีบเพราะจะทำให้เกิดรอยบนผ้า และหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเพราะจะทำให้สีผ้าซีดจางลง อย่างไรก็ตามหากเลือกรังสรรค์ลุคให้เหมาะกับกาลเทศะและดูแลให้ถูกวิธี การเลือกผ้าชีฟองมาเป็นส่วนหนึ่งในการแต่งกายคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป