FASHION

5 คนดังที่ใช้คำดูถูกเป็นแรงผลักดัน! จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

     จริงอยู่ที่มนุษย์เรานั้นมักจะเก็บเอาพลังด้านบวกรอบตัวมารวบรวม และใช้เทียมเป็นดั่งพลังงานที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ทำสิ่งดีๆ จนกระทั่งประสบความสำเร็จได้ในที่สุด หากก็ไม่ใช่ทุกครั้งไปที่โลกใบนี้จะหยิบยื่นพลังด้านบวกให้กับพวกเรา เพราะหลายครั้งเรายังจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับความโหดร้าย อย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้นเรื่องของ คำดูถูก น้ำคำมนุษย์ที่ทำลายคนมาแล้วนับไม่ถ้วน และสร้างคนมานับไม่ถ้วนอีกเช่นเดียวกัน เฉกเช่นคนดังทั้ง 5 คนนี้ ที่โว้กได้รวบรวมมาไว้ให้ทุกคนได้เห็นว่า เราต่างก็สามารถเปลี่ยนคำดูถูกเหล่านั้น ให้กลายเป็นพลังด้านบวกเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ อีกทั้งยังสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับคนอื่นได้อีกด้วย...

 

วทานิกา ปัมทสิงห์ ณ อยุธยา

     ไทยดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้า ที่ได้รับการยอมรับไปไกลในระดับฮอลลีวู้ด เมื่อเราได้เห็นเหล่าเซเลบริตี้ และดาราฮอลลีวู้ดอีกหลายคนยังเคยพาเหรดชุดสวย และคีย์ลุคจากแบรนด์ VATANIKA ออกไปเดินพรมแดงให้กลายเป็นที่้ประจักษ์ของสายตาคนต่างชาติแล้วนับไม่ถ้วน ก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จอีกครั้งกับรายการ This Is Me VATANIKA ที่ยิ่งส่งให้แบรนด์แฟชั่นเดียวกันนี้ป็อปคัลเจอร์เมืองไทยได้สำเร็จ หากแน่นอนว่าเส้นทางที่หลายคนเห็นว่าสวยงาม และโรยด้วยกลีบกุหลาบราวกับเส้นทางของเทพนิยายนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นได้โดยง่าย เพราะแพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ดีไซเนอร์สาวผู้มีความสามารถคนนี้ ยังเคยได้ปะทะกับพลังด้านลบของคนอื่นมาแล้ว โดยเธอยังเคยได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในรายการ Woody Talk ถึงเรื่องราวนี้ว่า ตอนสมัยที่เธอกำลังเรียนอยู่นั้น เธอตั้งใจทำชุดๆ หนึ่งอย่างมาก เพื่อนำไปส่งอาจารย์ หากสิ่งที่อาจารย์คนนั้นตอบกลับมาคือ “Darling, This look exactly just like Jlo’s dancer.”  ที่มีคำแปลว่า ชุดนี้มันไม่ต่างอะไรกับชุดหางเครื่องของเจนนิเฟอร์ โลเปซเลยนะ... หากใครที่ตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ก็คงจะคิดเช่นเดียวกันว่า ช่างเป็นคำพูดที่แสนโหดร้าย ทว่าสิ่งนั้นก็ผลักดันให้ แพร-วทานิกา มายืนอยู่ในจุดสูงสุดอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ อีกทั้งศิลปินสาวเจนิเฟอร์ โลเปซที่ว่านั้น ยังเคยสวมชุดสวยจากแบรนด์ VATANIKA แล้วด้วยเช่นกัน นับเป็นการนำพลังด้านลบมาแปรผลให้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนในอาชีพที่ทำได้ดีทีเดียว

 

ไมเคิล  เจฟฟรี จอร์แดน

ภาพ : nba.com

 

     เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกคนบนโลกใบนี้แล้วสำหรับผลงาน และฝีมือขั้นฉกาจของนักบาสเกตบอลระดับโลกอีกหนึ่งคนอย่าง Michael Jordan หากเมื่อย้อนกลับไปในสมัยที่ จอร์แดน กำลังศึกษาอยู่ที่ไฮสกูล ชั้นปีที่ 2 นั้น เขายังเคยต้องประสบกับความล้มเหลว และเสียใจ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบคัดตัวเพื่อเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียน พร้อมคำดูถูกจากเพื่อนรอบข้างมากมายในเวลานั้น กระทั่งหลังจากที่ขังตัวเองเอาไว้ในห้องนอน และร้องไห้จนหลับไป ก็นับเป็นจุดพลิกผันของชีวิตจอร์แดนก็ว่าได้ เพราะหลังจากได้ผ่านเหตุการณ์ที่เกือบทำให้จอร์แดนยอมแพ้ต่อคำดูถูกมากมาย และเลิกสนใจกีฬาบาสเกตบอลมาได้แล้วนั้น เขากลับเลือกที่จะพยายามฝึกฝนให้มากขึ้นโดยใช้เวลาวันละหลายๆ ชั่วโมงหมดไปกับการฝึกซ้อมบาสเกตบอล โดยที่ยังมีคำดูถูก และความล้มเหลวในครั้งนั้น ไหลเวียนเป็นดั่งเชื้อฟืนในกระแสเลือด พร้อมที่จะลุกโชนเป็นเปลวไฟอยู่ตลอด เมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มท้อ ภาพในวันนั้นก็จะแล่นเข้ามาในหัวของเขาทันที เพื่อที่จะกลายเป็นแรงฮึดให้เขาสู้จนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด และกลายเป็นนักบาสเกตบอลระดับโลกที่ทำรายได้สูงที่สุดมาแล้วด้วยเช่นกัน

 

วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์



WATCH




ภาพ : Disney.Wiki fandom

 

     จะเกิดอะไรขึ้น หากว่าผู้ก่อตั้ง Walt Disney นั้นล้มเลิกความตั้งใจ และตัดสินใจยอมแพ้ต่อคำดูถูกที่เขาต้องเคยพบเจอ...เพราะคนที่รักการวาดการ์ตูนอย่าง Walter Elias Disney ยังต้องผ่านความล้มเหลวมาหลายครั้งหลายครา ทั้งการถูกไล่ออกจากบริษัทหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Kansas City ด้วยเหตุผลที่ว่า เขานั้นไม่มีความคิดสร้างสรรค์มากพอ และไม่มีไอเดียดีๆ เลยแม้แต่น้อย กระทั่งตัวละครดังในโลกการ์ตูนที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Mickey Mouse นั้นก็ยังเคยถูกปฏิเสธมาแล้ว กับเหตุผลแสนโหดร้ายที่ว่า มันคือตัวละครที่เด็กผู้หญิงไม่มีวันชอบ หากท้ายที่สุดแล้ว คำดูถูก และการถูกปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วนเหล่านี้เอง ที่ทำให้ Walter Elias Disney ลุกขึ้นสู้ เพื่อเอาชนะคำดูถูกเหล่านั้น และไม่คิดจะล้มเลิก หรือทิ้งความฝันของตัวเอง เขาจึงต้องทำงานหนัก และต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง จนทำให้วันนี้เขาประสบความสำเร็จในที่สุด มีอาณาจักรการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่อย่าง Disneyland ได้ในที่สุด อีกทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให่ใครหลายคนเห็นว่า ความมุ่งมั่นในความฝัน และการศรัทธาในความสามารถของตัวเองเรื่อยมานั้น ทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

 

โอปราห์ วินฟรีย์

ภาพ : Vogue

 

     เธอคือพิธีกรชื่อดังระดับโลก ที่ไม่มีใครไม่รู้จักเธอ ด้วยความสามารถในการดำเนินรายการที่ได้รับการขนานนามว่า เก่งในระดับที่หาตัวจับได้ยาก กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลอีกหนึ่งคนในวงการสื่อสารมวลชนอันดับต้นๆ ของโลก กระทั่งที่ยังมีบุคคลดังในสายอาชีพเดียวกันนี้ยังออกมาชื่นชม และยกย่องให้เธอเป็นดั่งตัวอย่างในการทำงานมากมาย หากก่อนที่โอปราห์ วินฟรีย์ ผู้มากความสามารถคนนี้จะขึ้นมาอยู่ ณ จุดนี้ได้ เธอยังเคยโดนดูถูกจากสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งมาแล้วว่า เธอมีความสามารถไม่เพียงพอ และไม่เหมาะกับงานโทรทัศน์อย่างที่สุด ในวัยเพียง 19 ปี หากนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้โอปราห์ล้มเลิกความตั้งใจ กลับทำให้เธอมีพลังในการสานต่อความฝัน และความสามารถของเธอจนได้ในที่สุด เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมานั้น เธอยังเคยโดนดูถูก และเผชิญหน้ากับความล้มเหลวมาแล้วนับไม่ถ้วนตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยที่เธอเป็นหญิงสาวผิวสี แม้ว่าจะเป็นบาดแผลที่ฝังใจ และติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด หากเธอก็ได้แปรเปลี่ยนมัน และยังเคยให้สัมภาษณ์พร่้อมกับทัศนคติที่เธอยึดถือไว้ว่า จงเปลี่ยนบาดแผลให้กลายเป็นสติปัญญา จนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเธอไปทั่วโลก อีกทั้งในปี 1998 เธอยังได้ส่งต่อโอกาสที่เธอเคยได้รับ ให้กับคนอีกมากมายกับการก่อตั้ง The Oprah’s Angel Network เพื่อสนับสนุนโครงการเพื่อการกุศล และมอบทุนให้กับองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรทั่วโลก นับเป็นการช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

 

อุดม แต้พานิช

ภาพ : เดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 9

 

     ความกล้าบ้าบิ่นอย่างสร้างสรรค์ ในแบบฉบับของ โน้ต-อุดม แต้พานิช ไม่ได้ถูกแสดงออกด้วยฝีปากบนเวทีเดี่ยวไมโครโฟนที่เรารู้จักกันดีเท่านั้น เพราะเมื่อย้อนกลับไปก่อนที่ โน้ต-อุดม จะกลายเป็นตลกเดี่ยวชั้นนำผู้มีชื่อเสียงของเมืองไทยอย่างเช่นทุกวันนี้ เขายังต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มามากมาย ตั้งแต่การเริ่มต้นบนสายทางบันเทิงแห่งนี้ด้วยการสมัครเป็นตัวประกอบให้กับวิก 07 ก่อนจะขยับไปเป็นส่วนหนึ่งในรายการที่ดังที่สุดรายการหนึ่งแห่งยุคอย่าง ยุทธการขยับเหงือก ที่ระหว่างนั้นเขายังต้องอดทน กับการรับน้องจากรุ่นพี่ตลกหลายต่อหลายครั้ง กว่าที่จะแจ้งเกิดเป็น เสนาฯโน้ต ฉายาที่ทำให้ใครหลายคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตาเขาขึ้นมาในที่สุด อีกทั้งก่อนที่ทุกคนจะได้รู้จักกับ เดี่ยวไมโครโฟน ที่โด่งดังอย่างเช่นทุกวันนี้ โน้ต-อุดม แต้พานิช ยังต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ราวกับเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งของชีวิต ด้วยการรวบรวมเงินที่มีอยู่ทั้งหมดตอนนั้นจำนวน 4 แสนบาทเพื่อเริ่มต้นจัดทำเดี่ยวไมโครโฟน หากด้วยความตั้งใจ และพรสวรรค์ ที่ใครก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้ลง ทำให้ โน้ต-อุดมคนนี้ กลายเป็นนักพูดเดี่ยวที่มีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงข้ามคืน อีกทั้งเดี่ยวไมโครโฟนที่ว่ายังได้รับการตอบรับดีเกินคาด จนเมื่อนับจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 12 แล้วเรียบร้อย นับเป็นอีกคนดังที่ย้ำเตือนให้เราทุกคนได้เห็นแล้วว่า หากเราไม่ละทิ้งความฝัน มีความมานะบากบั่น และอดทน ก็สามารถที่จะไปถึงในสิ่งที่ตัวเองฝัน และคาดหวังไว้ได้เช่นเดียวกัน

WATCH

คีย์เวิร์ด: #InfluentialPerson