Swarovski เปิดตัวคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูง ‘Vienna’ ฉลองครบรอบ 130 ปีแห่งความสุข

เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 130 ปีแห่งความสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ของแบรนด์ออสเตรียระดับโลก 'Swarovski' ภายใต้วิสัยทัศน์ของ 'Giovanna Engelbert' ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจาก 'หงส์' ซึ่งเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความสง่างามเหนือกาลเวลาของแบรนด์ สู่ 'Vienna Collection' ที่สะท้อนจิตวิญญาณของสวารอฟกี้ได้อย่างวิจิตรบรรจง

โดยคอลเล็กชั่นลิมิเต็ดเอดิชั่นนี้ได้รับการตั้งชื่อตามกรุงเวียนนา เมืองหลวงแห่งศิลปะและวัฒนธรรม ต้นกำเนิดแห่งแรงบันดาลใจให้กับ 'Daniel Swarovski' ผู้ก่อตั้ง และผู้ปฏิวัติการเจียระไนคริสตัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมเสน่ห์อันไร้กาลเวลา ความหรูหรา และกลิ่นอายวัฒนธรรมของเมืองเวียนนา ที่ยังคงเป็นแหล่งบันดาลใจไม่รู้จบให้แก่ 'จิโอวานน่า อิงเกอเบิร์ท' ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ในการนิยามความงาม ผ่านงานออกแบบระดับโลกให้กับสวารอฟสกี้

1 / 8

Vienna Collection รังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคระดับไฮจิวเวลรีอันประณีต เพื่อนำเสนอความสง่างามของ 'หงส์แห่งสวารอฟสกี้' ผ่านการผสมผสานมรดกของงานดีไซน์ทรงคุณค่า อาทิ โชกเกอร์ที่แฝงกลิ่นอายพังก์, ต่างหูเอียร์คัฟคริสตัลแบบ Pavé รูปทรงขนนก พร้อมทั้งจี้รูปหงส์สุดพิเศษในสไตล์ ‘baguettage’ ด้วยเทคนิค Sparkling Dance ที่เคลื่อนไหวอย่างอ่อนช้อย ดุจท่วงท่าของหงส์ในยามโบยบิน ขับเน้นความงดงามของแต่ละชิ้นงานให้เปล่งประกาย อีกทั้งยกย่องช่วงเวลาตลอด 130 ปีแห่งความเชี่ยวชาญในการรังสรรค์คริสตัลและฝีมือชั้นสูง

1 / 5

จิโอวานน่า อิงเกอเบิร์ท เผยว่า “หงส์เป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามราวกับต้องมนตร์ สื่อถึงความสง่างาม ความงาม ความรักนิรันดร์ และการเปลี่ยนแปลง จึงถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์สวารอฟสกี้เพื่อสะท้อนถึงความรักนิรันดร์ที่เรามีต่อคริสตัล และความประณีตงดงามของงานออกแบบและชิ้นงานสร้างสรรค์ของเรา สำหรับ Vienna Collection ฉันต้องการเชิดชู ‘หงส์แห่งสวารอฟสกี้’ ด้วยการตีความในเชิงนามธรรม เสมือนหงส์ที่กำลังโบยบิน เป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวและการแปรเปลี่ยนสู่สิ่งใหม่ๆ ดีไซน์ในคอลเลกชันนี้ถูกออกแบบมาให้ถ่ายทอดจิตวิญญาณความคลาสสิก ทว่าแฝงด้วยลายเส้นที่เฉียบคมและร่วมสมัย ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและไร้กาลเวลา เป็นเสมือนการเดินทางจากปี 1895 แล้วพุ่งทะยานสู่ปี 2025 เปรียบดั่งได้เดินทางเพื่อเชื่อมโยงมรดกแห่งอดีตและโลกแห่งอนาคตอย่างงดงาม”