หูฟังตัวล่าสุดของแบรนด์ที่มาพร้อมไดรฟ์เวอร์ (Driver) มาให้ถึง 3 ตัว เพื่อตอบโจทย์สายฟังเพลงจริงจัง ในราคาที่ย่อมเยาจนเรียกได้ว่าเหลือเชื่อ ส่วนดีไซน์นั้นถือว่าหรูหราไม่ต่างจากเครื่องประดับในสีดำตัดกับสีทองเงาวับ ที่ช่วยขับกันและกันให้ดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวหูฟังเท่านั้น แต่ตัวเคสก็มีดีไซน์เรียบหรูภายใต้คอนเซปต์เดียวกันด้วย

ราคา 3,990 บาท

     นอกจากสีทองเงาวามแล้ว สีทองแบบแมตช์ก็หรูหราไม่แพ้กัน สำหรับหูฟังรุ่นนี้จาก B&O ที่มาในดีไซน์สีทอง 2 เฉดสี ที่แม้จะไม่สร้างคอนทราสต์แต่ก็ยังทำให้หูฟังโดดเด่นได้ อีกทั้งยังเป็นความเรียบหรูที่ไม่ฉูดฉาด เหมาะกับการพกไปใช้ในงานทางการที่ต้องการความสุภาพ และถึงแม้จะมีรูปลักษณ์หรูหราแต่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็ถือว่าคุณภาพคับแก้ว

ราคา 16,500 บาท

     แบรนด์ที่การันตีเรื่องคุณภาพเสียงและประสิทธิภาพของระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ซึ่งในรุ่นนี้มีการปรับดีไซน์ของตัวหูฟังให้มีรูปทรงที่ต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจน เพื่อให้พอดีกับสรีระของหูมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความมินิมัลสุดเรียบง่าย พร้อมแต่งแต้มตัวหูฟังด้วยสีทองแบบแมตต์ที่เสริมให้ภาพลักษณ์ดูหรูหราขึ้นอีกหลายระดับ

ราคา 8,990 บาท

     สีเงินก็เป็นอีกหนึ่งสีที่ให้ความหรูหราดั่งจิวเวลรีไม่ต่างจากสีทอง โดย JBL ได้หยิบสีเงินหลากหลายเฉดมาสร้างลูกเล่นเพื่อความน่าสนใจ เริ่มจากการใช้สีเงินแบบแมตต์บนตัวบอดี้ ก่อนจะตัดด้วยสีเงินแบบแมตต์ในเฉดที่เข้มขึ้น และปิดท้ายด้วยการใช้สีเงินเงาวับตัดขอบระหว่างสีเงินแบบแมตต์ทั้ง 2 เฉดสี

ราคา 7,990 บาท

     ในขณะที่แบรนด์อื่นเลือกใช้สีเงินและสีทอง Marshall ขอนำเสนอความหรูหราด้วยสีดำสนิท สะท้อนถึงความเท่ ลุ่มลึก และน่าค้นหา โดยเพิ่มลูกเล่นด้านพื้นผิวที่แตกต่างกันลงไปทั้งในส่วนของตัวเคสและตัวหูฟัง ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าตัวหูฟังส่วนบนนั้นเป็นวัสดุพื้นผิวแมตต์ ต่างจากส่วนล่างที่สร้างรอยบากลงบนพื้นผิว ซึ่งทั้ง 2 ส่วนถูกคั่นไว้ด้วยวัสดุแบบเงา

ราคา 6,990 บาท