นอกจากความสามารถทางการแสดงแล้ว สาวน้อยลูกครึ่งไทย-เบลเยียมคนนี้ยังมีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์และแต่งตัวได้โดนใจวัยรุ่นฮิปสเตอร์ทั่วเมือง วันนี้เธอก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจไม่ว่าจะในเรื่องผลงาน การใช้ชีวิต หรือสไตล์ส่วนตัว

 

“Let’s just drive out of town

Let’s runaway

Let’s get high

Forget the world

Forget everything”

 

ท่อนฮุกจากเพลง Drive ซิงเกิลล่าสุดในฐานะศิลปินเดี่ยวของ วี-วิโอเลต วอเทียร์ ชวนให้เราคิดถึงความอินดี้และเป็นตัวของตัวเองที่ไม่แคร์กระแสใดๆ ที่นับวันยิ่งหาได้ยากสำหรับนักร้องสมัยนี้ เพราะส่วนใหญ่ต้องคำนึงถึงตลาดเป็นหลักมากกว่าความต้องการของตัวเอง “ตอนแรกที่คิดจะทำเพลงภาษาอังกฤษออกมามันเป็นสิ่งที่ท้าทายเรามาก แต่มันเป็นหนึ่งในความฝันและความตั้งใจของเรา” จากหญิงสาวที่แจ้งเกิดจากรายการเรียลิตี้ The Voice Thailand สู่การเป็นนักร้อง ก่อนจะมาเป็นนักแสดงที่ได้รับเสียงตอบรับมากมายจากภาพยนตร์เรื่อง ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย..ห้ามพัก..ห้ามรักหมอ โดยกวาดรางวัลมาถึง 4 สถาบัน ได้แก่ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 25 รางวัลสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ครั้งที่ 6 รางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 13 และรางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 24 ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

 

 

“ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากๆ เพราะหลังจากแสดงเรื่องแรกก็มีเสียงวิจารณ์ว่าอย่าแสดงเลย กลับไปร้องเพลงเถอะ เราก็แบบ...คอยดูนะ แล้วก็เอาจุดนั้นมาเป็นแรงผลักดัน พอคนดูพูดถึงและได้รางวัลก็ดีใจ” สาวน้อยวัยเบญจเพสอมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “แต่ถ้าถามว่าชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างนักร้องกับนักแสดง วีชอบเท่าๆ กันนะคะ คือเราสามารถเบรกงานหนึ่งแล้วมาทำอีกงานได้ ซึ่งมันก็เข้ากันได้ดีด้วย จะต่างกันก็ที่ฟีลลิ่งการทำงาน ถ้าไปกองถ่ายทุกคนมาช่วยกันเฮฮาสนุกสนาน อาหารอร่อยกินได้เยอะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นงานเพลงเราจะทำงานกัน 2 คนคือตัววีเองกับโปรดิวเซอร์ บรรยากาศจะเงียบๆ หน่อย แต่ก็รู้สึกว่าได้อยู่กับตัวเองดี”

 

 ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่สนุกสนานสวยงามทำให้วิโอเลตเป็นอีกหนึ่งไอดอลของหลายๆ คน “วีแต่งตัวตามใจตัวเอง เราชอบความ Cozy สวมใส่สบาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องใส่ออกมาแล้วสวยด้วย บางคนอาจจะมองว่าวีใส่ลายดอกไม้ตลอดเวลาแต่ความจริงลายทาง ลายจุด ลายแถบวีก็ใส่นะ ส่วนวิธีการแมตช์ก็คือหยอดสีนั้นสีนี้เข้าไปที่รองเท้า แว่นตา หรือถุงเท้า คือมีสีหลักแล้วหยอดสีอื่นลงไปด้วย การแต่งตัวที่เป็นตัววีมากๆ คือ กางเกงยีนส์ เสื้อยืด สายเดี่ยว วีเป็นคนตัวเล็กเลยใส่อะไรแบบนี้แล้วไม่ค่อยโป๊ ส่วนท่อนล่างก็เป็นอีกจุดเด่นของวี เพราะเป็นคนมีก้นทำให้ใส่กางเกงขายาวเอวสูงแล้วสวย”

 

 

เมื่อถามถึงเสื้อผ้าแบรนด์โปรด “ชอบ Topshop เพราะเหมาะกับรูปร่างเรา ไม่ก็ Zara คือดูแพงในราคาที่ใจดีหน่อย ถ้าเป็นแบรนด์ไทยก็มีหลายแบรนด์เหมือนกัน อย่าง Milin ที่เหมาะกับรูปร่าง ชอบความเรียบของ Vickteerut แล้วก็ชอบ Sretsis ตรงความหวานแต่ไม่เลี่ยน มันดูมีอะไรที่เป็น Magical เบาๆ ส่วน Landmee มีความเป็นดิสโก้ มีความเท่อะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนใคร อย่างชุดที่ใส่ไปงานสุพรรณหงส์ล่าสุดก็เป็นของ Landmee” ด้วยความที่เป็นสาวร่างเล็ก ส้นสูงจึงเป็นของจำเป็นอีกชิ้นหนึ่งที่สาวคนนี้เลือกใส่ “วีเริ่มมาใส่ส้นสูงไม่นานนี้เอง ปกติใส่ส้นแบนตลอดเพื่อความคล่องตัว แต่ตอนออกงานจะใส่บู๊ต ชอบความเท่ของมัน มีหลายสีมาก ขาว แดง น้ำเงิน แบบกากเพชรก็มี” เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลยของเธอคือตุ้มหู “เจาะหูไว้ข้างละ 4 รู แต่จะเปลี่ยนแค่อันหน้าสุด ชอบเล่นกับตุ้มหู เพราะเรามีทรงผมฟูๆ คนเห็นแล้วจำได้ พอมีตุ้มหูแซมเข้ามาก็ดูน่ารักดี”

 

 

นอกจากการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ เมกอัพสไตล์วี-วิโอเลตก็เป็นที่จดจำเช่นกัน “วีชอบแต่งตาแบบสีเดียว ไม่ทาตาหลายสี แล้วจะไม่ชอบคัดเบ้าหลายสีเพราะมันจะดูมีอายุ สีที่ทามีตั้งแต่แดง ส้ม ชมพู น้ำตาล ทาแบบสีเดียวเลยนะคะแล้วก็ปัดขนตาเยอะๆ เวลาออกงาน แต่ถ้าในชีวิตประจำวันก็แค่ลงทินต์มอยส์เจอไรเซอร์ของ Nars ปัดคิ้วกับขนตา แล้วก็ทาลิปมัน ส่วนการดูแลผิวจะเน้นทาครีมให้ครบทั้งเช้าและเย็นแล้วก็ล้างหน้าให้สะอาด เคยมีบางคืนทำงานมาเหนื่อยๆ เลยเผลอหลับไปก่อน ต้องตื่นมาล้างหน้าตอนตีสอง (หัวเราะ)” มาถึงเรื่องน้ำหอมกลิ่นประจำตัวบ้าง “วีใช้น้ำหอมอยู่ 2 กลิ่นสลับกัน Coco Mademoiselle ของ Chanel กับ Miss Dior รู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่หวาน แต่พอฉีดบนตัวเราแล้วมันเข้ากันดี ไม่หวานมากเกินไป” นิสัยการใช้น้ำหอมจนเป็นกลิ่นประจำตัวนี้คล้ายกับผู้หญิงฝรั่งเศส คงเพราะครอบครัวเธออาศัยอยู่ที่นั่น ก็เลยซึมซับวิถีชีวิตหลายๆ อย่างมาด้วย “ถ้ามีเวลาอยากกลับไปเที่ยวปารีส รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น ชอบย่าน Montmartre ที่มีตรอกซอกซอย ร้านรวงน่ารักๆ ให้ค้นหาตลอดเวลา แล้วก็ Place de la Concorde มีของให้ช็อปปิ้งเยอะแต่คนไม่หนาแน่นเกินไป ที่สำคัญใกล้ๆ กันมีร้าน Ladurée ที่ขายทั้งขนมและอาหารให้อิ่มอร่อย”

 

 

นางแบบ: วิโอเลต วอเทียร์
บรรณาธิการแฟชั่น: จงกล พลาฤทธิ์
ผู้ช่วยบรรณาธิการแฟชั่น: ตะวัน ก้อนแก้ว
นักเขียนอาวุโสด้านแฟชั่น: ปภัสรา นัฏสถาพร
แต่งหน้า: วรวุฒิ วัชนุชา
ทำผม: หฤษฎ์ ปัญญาอ้าย
ช่างภาพ: สุดเขต จิ้วพานิช
ช่างภาพวิดีโอ: ฐิตินนท์ วงศ์ใหญ่
ตัดต่อวิดีโอ: พีรวิชญ์ เจตน์ประยุกต์
สถานที่: Club House Ekamai