Jeff Satur
CELEBRITY

เปิดเส้นทางชีวิตศิลปินกว่า 10 ปี! ของ ‘เจฟ-ซาเตอร์’ แบรนด์แอมบาสเดอร์ Valentino คนแรกของไทย

เส้นทางชีวิต10 กว่าปีในการเป็นศิลปินของ ‘เจฟ-ซาเตอร์’ จากนักร้องที่คนจำแค่เพลง สู่ศิลปินที่ประสบความสำเร็จในวงการดนตรี ภาพยนตร์และแบรนด์แอมบาสเดอร์แบรนด์หรูระดับโลก

'เจฟ-วรกมล ซาเตอร์' ศิลปินหนุ่มผู้เริ่มต้นจากเสียงเล็กๆ บนโลกออนไลน์ ก่อนก้าวสู่เส้นทางที่ยิ่งใหญ่ ทั้งในฐานะนักร้อง นักแสดง และผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น ความสามารถรอบด้านและการรักษาอัตลักษณ์ของตัวเองไว้ตลอดเส้นทาง ทำให้ชื่อของเขากลายเป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

 

หากย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นเจฟเริ่มต้นเส้นทางดนตรีด้วย การร้องเพลงและลงผลงานในช่อง YouTube และ SoundCloud ด้วยความฝันและเสียงร้อง ความตั้งใจส่งต่ออารมณ์ผ่านบทเพลง ซึ่งค่อยๆ พาเขาไปเจอกับการเริ่มเข้าสู่วงการเพลงอย่างจริงจัง ผ่านการฝึกฝนและเทรนกับหลากหลายค่ายเพลง เป็นช่วงเวลาที่เจฟต้องอดทนและยอมรับความไม่แน่นอนอยู่เสมอ ด้วยความเชื่อในเสียงของตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้กลายมาเป็นศิลปินภายใต้ Wayfer Records ค่ายเพลงภายใต้  Warners Music Thailand ที่เปิดพื้นที่ให้เขาได้ทดลองและเติบโตในฐานะศิลปินอย่างอิสระมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา

 

ปี 2022 ถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญในเส้นทางของเจฟ เมื่อเขาได้รับบทบาทนักแสดงใน KinnPorsche The Series ซีรี่ส์วายแนวแอ็กชั่นที่ไม่เพียงพาให้เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออกทั้งทางการแสดงและทางดนตรี โดยเขาเป็นผู้ร้องเพลงประกอบซีรี่ส์ด้วยตัวเอง อย่างเพลง “Why Don’t You Stay” ด้วยเสียงร้องนุ่มลึกของเจฟเพลงนี้ไม่เพียงเป็นที่จดจำในฐานะซาวด์แทร็กของซีรี่ส์เท่านั้น แต่ยังสร้างชื่อให้เจฟในฐานะนักร้องที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างทรงพลัง ความสามารถที่หลากหลายของเจฟกลายเป็นจุดสนใจ และกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ผู้ชมจำนวนมากเริ่มติดตามเขาในฐานะศิลปินที่ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่แค่ในมุมใดมุมหนึ่ง

 

กระแสของซีรี่ส์นำไปสู่ KinnPorsche World Tour ในปีถัดมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เจฟได้สัมผัสพลังของผู้ชมในหลายประเทศ ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา จากการร้องเพลงที่เคยบันทึกไว้ในห้องอัดเล็กๆ ให้กลายเป็นบทเพลงที่ผู้คนร้องตามได้พร้อมกันในหลากหลายภาษา แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเส้นทางนี้

 




และในปี 2024 Jeff Satur ก้าวขึ้นสู่ช่วงเวลาที่เรียกได้ว่า “รุ่งเรืองที่สุด” ในเส้นทางของเขา เพราะเจฟได้ออกอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิต ภายใต้ชื่อ Space Shuttle No.8 ที่รวมผลงานเพลงที่เขาทั้งเขียนเอง ร้องเอง และร่วมโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง โดยมีเพลงฮิตติดหูอย่าง Ghost, Lucid, Fade, Black Tie และ Dum Dum ได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งยอดฟังและคำวิจารณ์ อัลบั้มนี้แสดงให้เห็นภาพของศิลปินที่มีความคิดชัดเจน และรู้จักการสื่อสารผ่านเสียงดนตรีในแบบที่เป็นตัวเองที่สุด เจฟเดินสาย Asia Tour อย่างต่อเนื่อง และทุกคอนเสิร์ตเต็มไปด้วยพลังจากแฟนเพลงที่รู้จักตัวตนของเขา สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้อย่างดี

 

ในเวลาใกล้เคียงกัน Jeff ได้รับบทนำในภาพยนตร์ วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) ภาพยนตร์ไทยที่กลายเป็นกระแสแรงในช่วงกลางปี ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และติดหนึ่งในสามภาพยนตร์ไทยทำเงินสูงสุดของปี บทบาทนี้เผยอีกมิติของเขาในฐานะนักแสดงสายดราม่าที่เข้าถึงอารมณ์ได้อย่างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นความสำเร็จในแง่ตัวเลข แต่ยังทำให้เขาได้รับการยอมรับในสายตานักวิจารณ์อย่างชัดเจน

 

ในขณะที่หลายคนจดจำเจฟจากเสียงร้องและผลงานการแสดง ความน่าสนใจอีกด้านของเขาคือการใช้แฟชั่นเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเล่าเรื่องราวของตัวเอง สไตล์ของเจฟกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนชัดเจนกับคำว่า ไร้กรอบเพศ ไร้ขีดจำกัด อย่างเสื้อซีทรู ผ้าพลิ้ว เครื่องประดับหลากชิ้น ไปจนถึงรองเท้าส้นสูง กลายเป็นลุคที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในโลกโซเชียล และหลายครั้งกลายเป็นไวรัลโดยไม่ต้องตั้งใจ

 

เจฟปรากฏตัวในแถวหน้าแฟชั่นโชว์ระดับโลกหลายครั้ง ทั้งในปารีสและมิลานแฟชั่นวีก โดยได้รับเชิญจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Valentino เริ่มต้นจากการเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่ Pavillon des Foliés ณ กรุงปารีส ซึ่งถือเป็นโชว์รันเวย์แรกของอเลสซานโดร มิคาเลเล่ หลังจากเปิดตัวลุคบุ๊ก Avant Les Débuts ได้ไม่นาน เจฟปรากฏตัวในฐานะแขกคนสำคัญ พร้อมลุคที่โดดเด่นท่ามกลางแขกแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Valentino (@maisonvalentino)

หลังจากนั้น เขายังร่วมงานกับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในงานพรีวิวคอลเล็กชั่นของอเลสซานโดร ณ สยามพารากอน และกิจกรรมอื่นๆ ตลอดทั้งปี ก่อนจะถูกประกาศแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Valentino อย่างเป็นทางการ กลายเป็นศิลปินจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ ควบคู่กับ ฟรีน สโรชา นักแสดงไทยจากซีรี่ส์ดัง และต่อมาเจฟยังร่วมงานกับ Cartier ได้รับแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำประเทศไทย จากการร่วมงานกับแบรนด์อย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา อาทิ การเข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปีคอลเล็กชั่น Trinity ที่กรุงปารีส พร้อมทั้งเป็นตัวแทนที่สะท้อนตัวตน ความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของเมซงได้อย่างลงตัว

 

นอกจากนี้ เจฟยังปรากฏตัวบนหน้าปกนิตยสารชั้นนำหลายฉบับ ทั้งในฐานะนักแสดง นักร้อง และผู้มีสไตล์เฉพาะตัว โดยเฉพาะโว้กประเทศไทยฉบับครบรอบ 11 ปี ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเขาขึ้นปกร่วมกับ ต่อ ธนภพ และ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เป็นอีกหนึ่งหลักหมุดที่สะท้อนถึงสถานะของเจฟในวงการบันเทิงไทย จากศิลปินหน้าใหม่ สู่ศิลปินมากความสามารถที่ได้รับการยอมรับทั้งจากสื่อ แบรนด์ และผู้คนในวงการอย่างเต็มตัว

 

สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ 'เจฟ-ซาเตอร์' เพิ่มเติมได้ ที่นี่

 

Photo: Nattanam W. and Parkpuvin

 

WATCH

TAGS : Jeff Satur
 
Close menu