
CELEBRITY
เปิดเส้นทาง 'เต-ตะวัน' ผลผลิตของการสะสมชั่วโมงบิน จากพิธีกรสู่นักแสดงและบทบาท Friend of LOEWEด้วยบุคลิกที่เป็นกันเองผสานกับความมุ่งมั่น 'เต-ตะวัน' ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาตกหลุมรักในเส้นทางอาชีพที่ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ |
‘เต-ตะวัน’ อีกหนึ่งชื่อที่มักเห็นบ่อยครั้งบนโลกโซเชียลและวงการบันเทิงไทย ผู้ชายที่เต็มเปีี่ยมไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ความสามารถรอบด้าน และมีพัฒนาการที่น่าจับตามองตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิง บทความจะพาไปเจาะลึกเส้นทางชีวิตและการทำงานของ ‘เต-ตะวัน วิหครัตน์’ นักแสดงและพิธีกรมากความสามารถที่ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงจากการแสดงซีรี่ส์วายจนกลายเป็นที่รู้จักในระดับสากลเท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาตัวตนในฐานะพิธีกรได้อย่างมั่นคง รวมถึงบทบาทในวงการแฟชั่น ด้วยบุคลิกที่เป็นกันเองผสานกับความมุ่งมั่น เต ตะวันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาตกหลุมรักในเส้นทางอาชีพที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า เต ตะวัน เคยเป็นคนขี้อาย ไม่ถนัดการแสดงออกต่อหน้าผู้คนจำนวนมากและไม่ชอบให้ใครมาจ้องหน้าโดยตรง ประสบกับช่วงแรกของการแคสต์งานในวงการเต็มไปด้วยความท้าทายและความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงจุดหนึ่งที่เขาเกือบล้มเลิกความตั้งใจไป ทว่าโอกาสก็มาถึงเมื่อเขาได้เร่ิมต้นงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นพิธีกรในรายการเพลงวัยรุ่นอย่าง ‘Five Live Fresh’ บ้านหลังแรกที่ช่วยหล่อหลอมและเป็นรากฐานการทำงานในวงการบันเทิง ตั้งแต่การทำงานหน้ากล้อง การพูดคุยกับแขกรับเชิญ ไปจนถึงการเรียนรู้เบื้องหลัง จนกระทัั่งเข้าปีที่สองที่เขาได้เป็นพิธีกรอย่างเต็มตัวและรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้ สุดท้ายบริษัทก็ได้ตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางขยับขยายจากรายการเพลงมาชิมลางการผลิตซีรี่ส์ ด้วยความเคยชินกับสภาพแวดล้อมและการทำงานจึงทำให้เขาตัดสินใจอยู่ GMMTV ต่อก่อนจะเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะของ ‘นักแสดง’
ดูโพสต์นี้บน Instagram
หลังจาก GMMTV เปลี่ยนทิศทางมาเป็นค่ายผลิตซีรี่ส์แล้ว ในช่วงแรกของเต ตะวันได้รับบทตัวละครสมทบเรื่อยมาจนถึงซีรี่ส์เรื่องที่ 3-4 ของเขาที่ได้รับโอกาสมากขึ้น ได้ลองผิดลองถูก ค่อยๆ ปรับตัวไปพร้อมกับบริษัทและเพื่อนอีกสองคนอย่าง ‘ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร’ และ ‘นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ’ ที่เติบโตไปพร้อมกันตั้งแต่พิธีกรมาเปลี่ยนสายมาเป็นนักแสดง ด้วยความที่ยังเป็นบริษัทน้องใหม่ในวงการผลิตซีรี่ส์กับโปรดักชั่นที่ไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีคลาสเรียนรู้การแสดงหรือแอ็กติ้ง ไม่มีเวิร์กช็อป ทำให้การแสดง ณ เวลานั้นเต ตะวันจึงต้องอาศัยการเรียนรู้ประสบการณ์ผ่านโอกาสที่ได้รับเรื่อยมา
ชื่อของเต ตะวันเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการแสดงซีรี่ส์วายเรื่อง Room Alone กับบทบาท วอร์ม และแจ้งเกิดอย่างจริงจังจากบทบาท พีท ในเรื่อง Kiss the Series รักต้องจูบ, Kiss Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่จริง, Our Skyy อยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างวันนั้น ในตอน พีทเก้า, Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว ซีรี่ส์ Spin-off ภาคต่อดัดแปลงมาจากนิยายดังที่มีเนื้อเรื่องคาบเกี่ยวกัน โดยแสดงประกบคู่กับ ‘นิว-ฐิติภูมิ’ ซึ่งจากบทบาทนี้เองที่ส่งให้เต ตะวันเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงพิสูจน์ฝีมือการแสดงของเขาที่พัฒนาขึ้นตามระยะเวลาและประสบการณ์ ด้วยความสามารถที่เป็นประจักษ์ทำให้เต ตะวันมีผลงานซีรี่ส์อีกมากมายอย่างต่อเนื่อง
ดูโพสต์นี้บน Instagram
นอกจากวงการบันเทิงแล้ว เต ตะวันยังมีบทบาทสำคัญในวงการแฟชั่นกับตำแหน่ง Friend of the House ของ LOEWE คนแรกของประเทศไทย หลังจากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกันทั้งในระดับประเทศและภูมิภาคอย่างงานเปิดตัวคอลเล็กชั่น หรือร้านป็อปอัปต่างๆ งานเปิดนิทรรศการใหญ่ครั้งแรกของแบรนด์อย่าง Crafted World ที่เซี่ยงไฮ้ ไปจนถึงงานล่าสุดกับการร่วมชมแฟชั่นโชว์ของ LOEWE คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ปี 2025 ที่ผ่านมา โดยเต ตะวัน ได้กล่าวความรู้สึกว่า “เป็นครั้งที่สามกับ LOEWE ครั้งนี้รู้สึกแปลกเพราะสองครั้งที่ผ่านมาจะเป็นแฟชั่นโชว์ แต่ครั้งนี้แบรนด์ทำเป็นรูปแบบ Presentation โดยแต่ละห้องจะโชว์ไอเท็มที่แตกต่างกันไป มีห้องที่เตรู้สึกชอบมากคือ ห้องที่คอแลบกับ Artist เยอรมันที่ชำนาญด้านการ Textile และ Color Block แล้วมามิกซ์กับแพตเทิร์นหลายๆ อย่างของ LOEWE มันทำให้ไอเท็มหลายชิ้นดูเฟรชขึ้นมา โดยส่วนตัวเป็นคนชอบงาน Art & Craft มาก แต่ก่อนจะรู้สึกว่าไม่ค่อยได้ Merge เข้ากับแฟชั่น แต่พอได้มาร่วมงานกับ LOEWE รู้สึกว่าเรามองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกันไปแล้ว”
แม้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในฐานะนักแสดงและในแวดวงแฟชั่นแต่เต ตะวันก็ยังคงไม่ละทิ้งบทบาทพิธีกรที่เป็นรากฐานเส้นทางบันเทิงของเขา โดยเต ตะวันมีรายการที่เขาดำเนินหน้าที่พิธีกรเป็นของตัวเองอย่าง เตร็ดเตร่ กับ เต ตะวัน, กินกัน กับ เต-นิว, เดินเล่นกับเตซัง, Hungry Sister พี่สาวฉันหิว และอีกมากมาย เมื่อมองย้อนกลับไปจากเด็กขี้อายที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ Born to Be ในวงการบันเทิง เขาได้ทำให้เห็นแล้วว่าเขามีแพสชั่นและรักทุกๆ อย่างในเส้นทางนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดง พิธีกร บริษัทและที่สำคัญแฟนคลับที่คอยซัพพอร์ตและเป็นแรงใจในช่วงต่างๆ ของชีวิต และเต ตะวันได้พิสูจน์แล้วว่าเขาเหมาะกับเส้นทางอาชีพนี้ไม่แพ้ใคร
Photo: Nattanam W. and Courtesy of LOEWE
WATCH