Vogue Beauty Thailand

WELLNESS

ถ้ากำลังรู้สึกเบิร์นเอาต์ ลองนั่งลงแล้ว 'เขียน' วิธีง่ายๆ แต่ช่วยได้ดีกว่าที่คิด

ชวนรู้จักกับการเขียน Gratitude Journal สิ่งนี้คืออะไร ทำไมช่วยแก้ความเครียดจากการใช้ชีวิตได้อย่างดี

โดย Saranchana Meemak
19 พฤศจิกายน 2568

เมื่อสัญญาณของความเบิร์นเอาต์มาถึง ท่ามกลางชีวิตที่เต็มไปด้วยเดดไลน์ โซเชียลมีเดีย และความคาดหวังจากหลายด้าน หลายคนอาจรู้สึกว่าตัวเองทั้งเหนื่อย เครียด และกังวลกับอนาคตที่อาจยังไม่มาถึง หนึ่งในวิธีที่เรียบง่ายที่สุดแต่ช่วยได้จริงมากกว่าที่คิด คือการทำ Gratitude Journal หรือ การเขียนขอบคุณตัวเอง ในแต่ละวัน แม้จะฟังดูธรรมดา แต่การเขียนกำลังทำงานบางอย่างให้เรามากกว่าที่เห็น

Gratitude Journal คืออะไร?

ชื่อนี้ถ้าแปลตรงตัวก็คือ การเขียนบันทึกคำขอบคุณ แต่จริงๆ แล้วก็เหมือนการบันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น การระบายความรู้สึกในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหนก็ตาม อาจเป็นบทสนทนาสั้นๆ ที่ทำให้ยิ้มได้ อากาศดีในตอนเช้า หรือโมเมนต์ที่รู้สึกว่าใจเราเบาลง รวมถึงการเขียนถึงสิ่งแย่ๆ ว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้เราเติบโตขึ้นอย่างไรบ้าง ความพิเศษของการบันทึกแบบนี้ไม่ใช่เพียงการเขียน แต่คือการ ตั้งใจมองเห็น สิ่งดีที่บางครั้งเราอาจมองข้ามไป

ทำไม Gratitude Journal ถึงดีต่อทุกคน

เพราะสมองของเรามีแนวโน้มจดจำเรื่องลบได้ไวกว่าเรื่องดี การเขียน Gratitude Journal เปรียบเสมือนการฝึกให้สมองมองหาแต่สิ่งที่ดีรอบตัว ช่วยเพิ่มพลังงานบวกให้ตัวเราเอง พร้อมทั้งยังมีงานวิจัยหลายฉบับชี้ว่าการบันทึกขอบคุณช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และเสริมความรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์ได้จริง

3 ขั้นตอนการเขียน Gratitude Journal

1.ใช้เวลาในการเขียน 5-10 นาทีต่อวัน
2.เขียนช่วงเช้า หรือ ก่อนเข้านอนก็ได้
3.ตั้งเป้าหมายการเขียนไว้วันละ 3 สิ่งที่อยากขอบคุณก็เพียงพอ ไม่ต้องเขียนเยอะ

Vogue Beauty's Note:

เมื่อเขียนไปเรื่อยๆ หลายคนพบว่า Gratitude Journal ช่วยให้เห็นแพทเทิร์นชีวิตชัดขึ้น อะไรทำให้เรามีความสุข อะไรที่ทำให้เครียด และอะไรที่ควรปรับเพื่อดูแลตัวเองได้ดีขึ้น ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบทั้งความคิดและอารมณ์โดยที่ไม่ต้องพึ่งสิ่งอื่นเลย ยิ่งถ้าใครกำลังอยากเข้าสู่ช่วงที่อยากจะหันมาดูแลตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งง่ายๆ ในการเริ่ม Self Care ได้เหมือนกัน 

ภาพ : Unsplash