“ฟักทอง” วัตถุดิบอาหารบ้านๆ ที่หาได้ง่ายตามท้องตลาด หลายคนไม่สนใจ เพราะมองว่าเอาไปทำได้แค่ขนมหวาน หรือทำเมนูข้าวราดแกง แต่แท้ที่จริงแล้ว “ฟักทอง” อยู่ในระดับซูเปอร์ฟู้ดเลยก็ว่าได้ เพราะอัดแน่นไปด้วยสารอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ และใยอาหาร ที่สำคัญยังแคลอรี่ต่ำ การรับประทานฟักทองเป็นประจำจึงดีต่อสุขภาพร่างกายทั้งในแง่รูปร่าง ระบบขับถ่าย ไปจนถึงผิวพรรณ และวันนี้โว้กบิวตี้จะพาไปเจาะลึกประโยชน์ของฟักทองที่หลายคนรู้แล้วอาจรู้สึกอยากทานขึ้นมาทันที

1. ช่วยควบคุมน้ำหนัก
แม้ฟักทองจะมีรสชาติหวานตามธรรมชาติ แต่ฟักทองกลับมีพลังงานต่ำมากเมื่อเทียบกับผักหัวชนิดอื่นๆ โดยในฟักทอง 100 กรัม มอบพลังงานประมาณ 26 กิโลแคลอรีเท่านั้น ที่สำคัญยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ การรับประทานฟักทองจึงช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ลดอาการหิวบ่อยหรืออยากของหวานระหว่างวันได้ ถ้าใครกำลังควบคุมอาหารหรืออยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ฟักทองถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทานแทนแป้งขัดขาวหรือขนมที่มีน้ำตาลสูงๆ เพราะช่วยให้ร่างกายยังได้สารอาหารครบโดยไม่ต้องอด

2. ผิวสวยกระจ่างใส
อีกหนึ่งประโยชน์เด่นๆ ของฟักทองคือช่วยฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอก เพราะฟักทองอุดมไปด้วย ‘เบต้าแคโรทีน’ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และเมื่อเข้าสู่ร่างกาย เบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็น ‘วิตามินเอ’ ที่ช่วยปรับสมดุลการทำงานของเซลล์ผิวให้แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ฟักทองยังเป็นแหล่ง ‘วิตามินซี’ ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่น อิ่มฟู และทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

3. ช่วยชะลอวัย
ฟักทองอุดมไปด้วย ‘สารต้านอนุมูลอิสระ’ ทั้งเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ อันเป็นต้นตอการเกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุหลักของความร่วงโรยก่อนวัย โดย ‘วิตามินซี’ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวคงความยืดหยุ่นและอ่อนเยาว์ ส่วน ‘วิตามินอี’ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการสูญเสียน้ำในชั้นผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง

4. เสริมการทำงานของระบบย่อยและขับถ่าย
ฟักทองมีไฟเบอร์สูง โดยเฉพาะไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่ช่วยเพิ่มมวลของกากอาหารในลำไส้ ทำให้ขับถ่ายง่าย ลดอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบลำไส้ทำงานได้ขึ้น นอกจากนี้ไฟเบอร์ในฟักทองยังทำหน้าที่เหมือน ‘พรีไบโอติกส์’ เป็นอาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ สืบเนื่องจากระบบย่อยที่ดี ไม่เพียงแค่ช่วยให้รู้สึกโล่งสบายท้องเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวพรรณดี เพราะเมื่อของเสียในร่างกายถูกกำจัดออก สารพิษก็จะไม่ย้อนกลับไปสะสมในกระแสเลือด หรือแสดงออกผ่านผิวหนัง เช่น สิว ผด และความหมองคล้ำ

5. บาลานซ์ฮอร์โมนผู้หญิง
‘ฮอร์โมน’ สำคัญมากต่อผู้หญิง โดยฮอร์โมนไม่ได้มีหน้าที่แค่ควบคุมรอบเดือนหรือระบบเจริญพันธุ์เท่านั้น แต่ฮอร์โมนยังเปรียบเสมือนวงจรของร่างกายที่เมื่อไหร่ก็ตามหากเสียสมดุล แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้รู้สึกแปรปรวน เหนื่อยง่าย ตัวบวม อารมณ์เหวี่ยงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจุดนี้เองที่การทานฟักทองช่วยได้ เพราะฟักทองสามารถกำจัดฮอร์โมนส่วนเกิน โดยเฉพาะ ‘เอสโตรเจน’ ที่หากมีมากเกินไปอาจทำให้รอบเดือนมาไม่เป็นเวลา หรือเกิดอาการ PMS ที่กระทบทั้งผิวและอารมณ์

เมนูเฮลตี้จากฟักทอง
1) ฟักทองนึ่งหรือต้ม: เพียงนำฟักทองไปนึ่งหรือต้มให้สุก และทานแทนข้าวขาว หรือใส่เสริมในสลัดก็ได้ ช่วยให้อิ่มนาน ไม่อืดท้อง แถมขับถ่ายคล่อง
2) แกงเลียงฟักทอง: เมนูบ้านๆ ที่อัดแน่นด้วยสมุนไพรและผักไทยนานาชนิด รวมถึงฟักทองที่ช่วยเพิ่มความหวานธรรมชาติในแกง
3) ฟักทองผัดไข่: เมนูที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันดี ถ้าอยากทำให้เฮลตี้ แนะนำให้ผัดกับน้ำเปล่า เติมใบโหระพาเข้าไปด้วยก็จะยิ่งหอมอร่อยมาก




