การใช้รองพื้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด เพียงแค่เราเลือกไอเท็มรองพื้นและเทคนิคการแต่งหน้าให้เข้ากับสภาพผิวหน้าของเรา เท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ปกปิดได้อย่างเป็นธรรมชาติ หมดปัญหาผิวหน้าดูเทาระหว่างวัน ทั้งยังติดทนนานอีกด้วย โว้กบิวตี้รวมเทคนิคการลงรองพื้นมาฝากกัน รับรองว่าไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กับการแต่งหน้าของตัวเองได้

 

Do

     การเลือกเฉดสีให้เข้ากับสีผิวเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นเบสเมกอัปที่จะทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ เทคนิคง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้คือการลองปาดเข้ากับผิวหน้าตรงข้างแก้มหรือใกล้กับบริเวณสันกราม แนะนำให้ลองกับผิวตอนที่ไม่แต่งหน้าจะเห็นชัดกว่าผิวหน้าที่มีเมกอัป โดยเลือกเฉดสีที่สามารถเกลี่ยแล้วกลืนไปกับผิวมากที่สุด ถ้าหากสว่างกว่าผิว 1 เฉดก็สามารถเลือกได้ แต่แนะนำให้ลงคอนทัวร์หรือบรอนเซอร์เพื่อปรับให้ผิวดูมีมิติ ไม่ลอยจนเกินไป ถ้าเลือกสีที่เข้มกว่าผิวอาจจะแก้ได้ยากกว่าและดูหมองคล้ำได้นั่นเอง

 

Don’t

     อย่าคิดว่าอุปกรณ์แต่งหน้าชิ้นเดียวสามารถเข้าได้กับรองพื้นทุกชนิด เพราะอุปกรณ์แต่ละแบบจะตอบโจทย์กับรองพื้นที่มีเนื้อสัมผัสไม่เหมือนกัน เช่น ฟองน้ำแต่งหน้าจะเหมาะสมกับรองพื้นชนิดลิควิดมากกว่าแปรงแต่งหน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถเลือกชนิดของแปรงแต่งหน้าให้เหมาะกับเนื้อรองพื้นได้เช่นกัน การเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการลงรองพื้นจะช่วยให้เบลนด์เข้ากับผิวได้ง่ายขึ้น ผิวหน้าดูเรียบเรียน ปกปิดอย่างเป็นธรรมชาติ

 

Do

     คอนเซปต์น้อยแต่มากเป็นของคู่กันกับรองพื้น เราควรลงรองพื้นในปริมาณที่พอดี ไม่ต้องลงให้ทั่วทั้งหน้า ถ้าต้องการการปกปิดให้ใช้คอนซีลเลอร์ลงเฉพาะจุดแทน เทคนิคคือ 5 จุดเล็กๆ บนใบหน้า ได้แก่ ข้างแก้มซ้ายขวา หน้าผาก คาง และจมูก จากนั้นเกลี่ยไล่ออกจากบริเวณกลางหน้าไปตามแนวรูขุมขน เพื่อให้ได้การปกปิดที่ดีและทำให้การใช้คอนซีลเลอร์ไม่จำเป็นอีกต่อไป รอให้รองพื้นเซ็ตตัวสักครู่ จากนั้นค่อยใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งพัฟฟ์เซ็ตทุกอย่างให้เข้าที่และติดทนนาน

 

Don’t

     ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสกินแคร์หรือเมกอัป ‘เนื้อสัมผัส’ เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ รองพื้นก็เช่นกัน การเลือกเนื้อสัมผัสของรองพื้นให้เข้ากับสภาพผิวเป็นสิ่งที่จะช่วยให้การแต่งหน้าดูดียิ่งขึ้น ถ้าเรามีผิวมันแล้วเลือกรองพื้นชนิดลิควิดที่เหลวจนเกินไปหรือเลือกแบบ luminious ก็จะยิ่งทำให้หน้าดูมันมากขึ้นระหว่างวัน ฉะนั้นเราควรเลือกให้ตรงกับสภาพผิวของเราเสียก่อนและค่อยตัดสินใจเลือกตามความต้องการของลุคเมกอัป เช่น แมตต์ ฉ่ำโกลว์ หรือซาติน เป็นต้น

 

Do

     ไม่ว่าจะมีสภาพผิวไหนก็ควรใช้ไพรเมอร์ก่อนลงรองพื้นเสมอ เพราะไพรเมอร์จะเป็นตัวช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและมีความพร้อมต่อการลงรองพื้น ทั้งช่วยเรื่องปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ควบคุมความมัน ผิวชุ่มชื้นและฉ่ำโกลว์ และเบลอรูขุมขน เป็นต้น เมื่อผิวของเรามีความพร้อมแล้วก็จะทำให้การลงรองพื้นเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น หมดกังวลเรื่องการตกร่องและเป็นคราบระหว่างวัน

 

Don’t

     พยายามอย่าลงรองพื้นโดยตรงบนใบหน้า เพราะอาจจะทำให้เราใช้รองพื้นในปริมาณเยอะเกินไป และอุณหภูมิของรองพื้นไม่ได้ผ่านการวอร์มบนหลังมือก่อน อาจจะทำให้เบลนด์และกลืนไปกับผิวได้ยากขึ้น รวมถึงการใช้รองพื้นประเภทดรอปเปอร์ ถ้าหากสัมผัสกับใบหน้าโดยตรงอาจทำให้เกิดความสกปรกและเป็นสาเหตุของสิวได้ เทคนิคคือควรหยดบนหลังมือในปริมาณพอควรกับใบหน้าของเรา วอร์มเล็กน้อยด้วยนิ้วมือ จากนั้นแตะบริเวณ 5 จุดหลักๆ บนใบหน้าและเกลี่ยด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสมจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด