ดวงตาเปรียบเสมือนด่านปราการแรกที่ส่งผ่านเสน่ห์โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด และ “ขนตา” ก็ถือเป็นองค์ประกอบร่วมที่ดวงตาจะดูสวยเฉี่ยวหรืออ่อนหวาน ขนตานี่แหละคือหัวใจ นั่นทำให้การเลือกขนตาให้เหมาะกับ “รูปดวงตา” ของตัวเองนั้นสำคัญไม่แพ้เมกอัปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะติดขนตาปลอม ลิฟติ้งขนตา หรือเลือกต่อขนตาแบบกึ่งถาวร ก็ควรเลือกดีไซน์และทรงขนตาให้เข้ากับรูปตา เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ใช้ขนตาทรงเดียวกันแล้วจะดูสวยเหมือนกันหมด ขนตาที่เหมาะจะช่วยเปิดดวงตาให้ดูสดใส ยกหางตาให้ดูเฉี่ยว หรือทำให้ตาดูกลมโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งในบทความนี้โว้กบิวตี้จะไกด์การเลือกทรงขนตาให้ลงตัวที่สุดสำหรับรูปทรงของดวงตาแต่ละแบบ
1. ตาชั้นเดียว
ตาชั้นเดียว (Monolid) เปลือกตามีลักษณะเรียบ ไม่มีรอยพับชัดเจน หรือมีรอยพับเล็กจนแทบมองไม่เห็น ซึ่งมักพบในคนเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น หรือแม้แต่คนไทยที่เป็นสาวหมวยก็มีตาชั้นเดียวกัน
ทรงขนตาที่เหมาะ: ตาชั้นเดียวควรเลือกขนตาที่มีความยาวสม่ำเสมอทั่วทั้งแผง และมีความงอนชัดเจนโดยเฉพาะช่วงกลางตา เช่น ทรงแบบ D-curl หรือ Dolly style เพื่อช่วยเปิดดวงตาให้ดูโตและกลมขึ้น ไม่เหมาะกับขนตาที่หนาหรือยาวเกินไป โดยเฉพาะขนตาที่เน้นช่วงหางตา เพราะอาจถ่วงให้เปลือกตาดูหนักและลดความสดใสของดวงตาได้
2. รูปตากลม
รูปตากลม (Round Eyes) ดวงตาจะมีลักษณะกลมโต เห็นตาขาวรอบๆ ได้ชัดเจนทั้งด้านบนและด้านล่าง
ทรงขนตาที่เหมาะ: รูปตากลม ควรเลือกขนตาที่ไล่ระดับความยาวจากหัวตาไปหางตา หรือทรง Cat-Eye จะช่วยดึงรูปตาให้ยาวขึ้นและเฉียงขึ้นเล็กน้อย เปลี่ยนลุคให้ดูคม เฉี่ยว และยังช่วยให้ใบหน้ามองดูยาวขึ้นด้วย
3. รูปตาเรียวยาว
รูปตาทรงเรียวยาวที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ (Almond Eyes) จะมีความยาว กว้างเล็กน้อย และมีความโค้งช่วงหางตา เป็นรูปตาที่สมดุลดี
ทรงขนตาที่เหมาะ: รูปทรงตาที่เรียวยาวเข้ากับขนตาได้ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ทรงธรรมชาติ หรือทรงฟุ้ง ไปจนถึงขนตาทรงฟูที่เน้นความหนาช่วงกลางตา
4. หางตาตก
หางตาตก (Downturned Eyes) หัวตาและหางตาจะอยู่คนละระดับ โดยหางตาชี้ลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหัวตา ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือเหนื่อย
ทรงขนตาที่เหมาะ: ควรเลือกขนตาที่จะช่วยให้หางตาดูยกขึ้น เช่น ขนตาทรง Winged ที่ไล่ระดับความยาวจากหัวตาสั้นไปยาวสุดที่หางตา ทำให้รูปทรงของหางตาเฉียงขึ้น และดูยกขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ
5. ตาชิด
ลักษณะของตาชิด (Close-set Eyes) คือจะมีระยะห่างระหว่างดวงตาทั้งสองข้างที่น้อยกว่าความกว้างของดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือน้อยกว่าหนึ่งช่วงตา ทำให้มองดูแล้วดวงตาทั้งสองข้างอยู่ใกล้กันมากกว่าปกติ
ทรงขนตาที่เหมาะ: เพื่อดึงสายตาออกด้านข้างและสร้างความสมดุลบนใบหน้า ควรเลือกขนตาที่เน้นความยาวเฉพาะช่วงหางตา เช่น ทรง Cat-Eye หรือขนตาแบบช่อที่หางตา และใช้เทคนิคร่วมด้วยการเว้นช่วงขนตาที่หัวตาไว้เล็กน้อย
6. ตาห่าง
ตาห่าง (Wide-set Eyes) จะมีลักษณะระยะห่างระหว่างดวงตาทั้งสองข้างมากกว่าปกติ ทำให้ใบหน้ามองดูกว้างขึ้น
ทรงขนตาที่เหมาะ: ควรเลือกขนตาที่ดึงจุดโฟกัสเข้ากลางหน้า เช่น ทรงขนตาแบบ Round Eye ที่มีความยาวเท่ากันตลอดแนว โดยให้ขนตาที่ส่วนกลางตาอาจจะยาวกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้ควรเลี่ยงขนตาแบบ Cat-Eye หรือ Winged เพราะจะยิ่งดึงโฟกัสให้ตาดูห่างมากกว่าเดิม
