ลิสต์แฮร์ไอเท็มที่ควรพกไปทริปทะเล

HAIR

ลิสต์แฮร์ไอเท็มที่ควรพกไปทริปทะเล เพื่อผมสวยไม่กลัวแดด

ทริปทะเลจะสนุกแค่ไหนก็ไม่ควรปล่อยให้ผมพังกลับบ้าน! การพกแฮร์ไอเท็มเหล่านี้จะช่วยให้ผมสวยสุขภาพดีแม้อยู่กลางแดดแรง

โดย Panyabhassara Promchaiwattana
27 ตุลาคม 2568

          เสียงคลื่นที่ซัดเบาๆ กับลมทะเลที่พัดผ่านเส้นผม แค่คิดก็รู้สึกถึงความผ่อนคลายและอิสระของวันพักผ่อน แต่รู้ไหมว่า เบื้องหลังของภาพผมสวยพลิ้วๆ ในทริปทะเลนั้น ต้องผ่านการดูแลไม่น้อยเลย เพราะแสงแดดจัด ลมเค็ม และไอเกลือจากทะเลล้วนเป็นตัวการทำให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู และสีผมซีดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว การมีแฮร์ไอเท็มคู่ใจ ติดกระเป๋าไปด้วยจึงสำคัญไม่แพ้ครีมกันแดดหรือบิกินี่คู่โปรด เพราะผมที่ผ่านทั้งแดดและน้ำทะเลต้องการการดูแลเฉพาะ เพื่อให้ยังนุ่มลื่น เงางาม และดูสุขภาพดีตลอดทริป ไม่ว่าจะตั้งใจไปพักผ่อนริมทะเล เดินเล่นยามบ่าย หรือถ่ายรูปบนชายหาดสุดเก๋ แค่เตรียมไอเท็มเหล่านี้ไว้ให้ครบ รับรองว่าผมสวยในทุกช็อตแน่นอน

 

  • หวีเปียก

ผมที่โดนแดดและลมทะเลมักจะพันกันง่ายมาก โดยเฉพาะหลังว่ายน้ำหรือโดนน้ำเค็ม การใช้หวีธรรมดาอาจทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ ดังนั้นควรพกหวีเปียก หรือหวีที่ออกแบบมาสำหรับใช้ตอนผมหมาดโดยเฉพาะ หัวแปรงของหวีเปียกจะมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยลดแรงดึงขณะหวี ทำให้สามารถสางผมได้โดยไม่ทำร้ายเส้นผม เคล็ดลับคือ ควรฉีดสเปรย์บำรุงหรือทาน้ำมันบำรุงเล็กน้อยก่อนหวี เพื่อให้ผมลื่นและไม่พันกัน เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่ช่วยลดผมขาดหลุดได้มากพัดผ่านเส้นผม

Article

Wet Detangler Fine & Fragile (ราคา 750 บาท) จาก Tangle Teezer

  • แชมพูดีท็อกซ์

หลังจากเล่นน้ำทะเลหรือโดนแดดแรง ผมจะสะสมสิ่งสกปรก เกลือ และคราบกันแดดจากผิวหนังที่ล้างไม่หมด ซึ่งทำให้หนังศีรษะอุดตันและผมดูหมอง ไม่มีน้ำหนัก แชมพูดีท็อกซ์จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะมีคุณสมบัติในการล้างสิ่งตกค้างอย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้ผมแห้งกรอบ แนะนำให้เลือกสูตรที่มีส่วนผสมอย่างชาเขียว ถ่านไม้ไผ่ หรือเปปเปอร์มินต์ ซึ่งช่วยขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน พร้อมให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะกับการล้างผมหลังเล่นน้ำทะเลหรือกลับจากชายหาด หลังใช้แชมพูดีท็อกซ์ ควรตามด้วยครีมนวดหรือมาส์กผม เพื่อเติมความชุ่มชื้นกลับเข้าไปทุกครั้งด้วยเช่นกัน

Article

Detox & Nourish Shampoo (ราคา 199 บาท) จาก TRESemmé

  • แฮร์ออยล์

ตัวช่วยระดับ Must-have ของทุกทริป! ออยล์ใส่ผมคือเกราะป้องกันผมจากแดด ลม และเกลือทะเลได้ดีที่สุด เพราะช่วยเคลือบเส้นผมให้ไม่สูญเสียความชุ่มชื้น พร้อมลดการชี้ฟูและพันกัน ก่อนออกไปข้างนอก ควรบีบออยล์เพียงเล็กน้อย ลูบให้ทั่วปลายผม เพื่อสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ป้องกันแสงแดดและความร้อนจากอุณหภูมิภายนอก ส่วนหลังสระผมเสร็จ ให้ใช้ออยล์อีกเล็กน้อยตอนผมหมาด เพื่อช่วยให้ผมแห้งไวขึ้นและไม่พันกัน แนะนำให้เลือกออยล์เนื้อบางเบาที่ไม่เหนียวเหนอะ เช่น น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันโจโจ้บาร์ หรือน้ำมันมะพร้าว เพราะซึมไวและให้ความเงางามตามธรรมชาติ ทำให้ผมดูสุขภาพดีแม้อยู่กลางแดดแรง

Article

Melty Moist Repair Oil (ราคา 550 บาท) จาก &HONEY

  • สเปรย์กันความร้อน

ไม่ใช่แค่ตอนหนีบหรือไดร์ผมเท่านั้นที่ควรใช้สเปรย์กันความร้อน แต่แสงแดดก็สามารถทำลายเคราตินในเส้นผมได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนออกจากห้องพักไปเดินเล่นริมทะเล ควรฉีดสเปรย์กันความร้อนให้ทั่วเส้นผม โดยเฉพาะบริเวณปลายผมที่แห้งง่าย ควรเลือกสูตรที่มีส่วนผสมของ UV Filter เพื่อช่วยสะท้อนรังสี UV และปกป้องสีผมไม่ให้ซีดจาง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำสีผม เพราะแดดทะเลสามารถทำให้สีหลุดเร็วและผมกระด้างได้ง่ายมาก บางสูตรยังมีส่วนผสมบำรุงอย่างน้ำมันโมร็อกโกหรือวิตามินอีก็ช่วยให้ผมนุ่มเงาแม้อยู่กลางแดดทั้งวัน

Article

Repair 230C Heat Protection Spray (ราคา 1,100 บาท) จาก PHYTO

  • หมวกสาน

แม้จะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ดูแลผมโดยตรง แต่หมวกสานคือเกราะชั้นแรกที่ช่วยป้องกันทั้งแสงแดดและลมทะเลได้อย่างดีเยี่ยม แถมยังเป็นพร็อพแฟชั่นสุดน่ารักที่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูซอฟต์และมีสไตล์ ควรเลือกหมวกสานปีกกว้าง เพื่อบังทั้งใบหน้าและเส้นผมจากแสงแดดโดยตรง ยิ่งถ้ามีสายผูกใต้คางจะช่วยให้ไม่ปลิวเวลาลมแรง นอกจากช่วยกันแดดแล้ว หมวกสานยังช่วยลดโอกาสที่เส้นผมจะโดน UV ทำร้ายโดยตรง ซึ่งเป็นสาเหตุของผมแห้งเสียและแตกปลายได้ด้วย

Article

Crocheted Straw Bucket Hat (ราคา 1,290 บาท) จาก COS

ภาพปก : istock